ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลจีนลด RRR

01 มี.ค. 2559 | 02:21 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลจีนลด RRR และอุปทานจากโอเปกและสหรัฐฯ ปรับลด

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์  วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 1 มีนาคม  2559

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลจีนปรับลดสัดส่วนการสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง พร้อมทั้งเพิ่มการอัดฉีดเม็ดเงินราว 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อลดอัตราการว่างงานและลดความเลื่ยงการล้มละลายของธุรกิจอุตสาหกรรมภายในประเทศ

+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประกาศถึงอุปสงค์การใช้น้ำมันของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นราว 87,000 บาร์เรลต่อวัน หรือประมาณร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แตะระดับ 19.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2553

+ ยิ่งไปกว่านั้น กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ได้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม หรือปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าราว 43,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2557 อันมีสาเหตุมาจากกำลังการผลิตน้ำมันในชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง

+ อุปทานจากกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) ปรับตัวลดลงแตะระดับ 32.37 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.พ. หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบในอิรักต้องปิดซ่อมบำรุงกะทันหันตั้งแต่ 17 ก.พ. และคาดการณ์ว่าจะเปิดดำเนินการใหม่ได้ ช่วงกลางเดือน มี.ค. โดยท่อขนส่งน้ำมันสามารถขนส่งน้ำมันดิบได้ประมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้การส่งออกจากอิรักปรับตัวลดลง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของราคาในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง และอุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินในญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลง อย่างไรตาม อุปสงค์ของอินโดนีเซียยังคงอยู่ในระดับสูง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนของอุปสงค์ที่ดีจากประเทศเกาหลีใต้ ศรีลังกาและแทนซาเนีย ประกอบกับอุปทานที่ตึงตึวขึ้นหลังโรงกลั่นน้ำมันในเอเซียเหนือกำลังจะปิดซ่อมบำรุงในเดือน มี.ค.

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสัปดานี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 28-35 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนด์เคลื่อนไหวในกรอบ 30-37 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยน่าจับตามอง

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องหลังตัวเลขสิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 507.6 ล้านบาร์เรล ทำให้ตลาดกังวลว่าถังเก็บน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเก็บน้ำมันดิบบนเรือ (Floating Storage)

การประชุมนัดพิเศษระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกและรัสเซียที่จะมีขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนกลางเดือนมีนาคมที่จะเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับการผลิตเดือนมกราคมได้หรือไม่ หลังที่ผ่านมาผลของการเจรจาไม่คืบหน้าเนื่องจากอิหร่านยังคงไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว

ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ หลังนักวิเคราะห์คาดดัชนีภาคการผลิตจีนในเดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.3 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.4 ซึ่งนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องกว่า 7 เดือนติดต่อกัน