สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
เงินบาทกลับมาอ่อนค่ากว่าระดับบ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ อีกครั้ง เงินบาทแกว่งตัวในช่วงต้นสัปดาห์รอผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ก่อนจะขยับแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงกดดันของเงินดอลลาร์ฯ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ สิ้นสุดลงด้วยการครองเสียงข้างมากในแต่ละสภาของทั้ง 2 พรรค โดยเดโมแครตกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ขณะที่ รีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังผลการประชุมเฟดแม้เฟดจะยืนดอกเบี้ยไว้ตามเดิม เนื่องจากสัญญาณจากเฟดยังคงย้ำถึงการคุมเข้มนโยบายการเงินต่อเนื่องในระยะใกล้ๆนี้ โดยเฉพาะการประชุมเฟดเดือนธ.ค.
ในวันศุกร์ (9 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.02 เทียบกับระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 พ.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่สัญญาณนโยบายการเงินของกนง. (14 พ.ย.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออก ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ผลการสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ย. และตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด (14 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด รวมถึงความคืบหน้าของประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561 ของญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกยูโรโซน อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน และข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค. ของจีน
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
[caption id="attachment_345166" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]