แบงก์ชิงตลาดรายย่อย! อานิสงส์รถคันแรกจบ ดันยอดสินเชื่อ-ลีสซิ่งโต

13 พ.ย. 2561 | 10:05 น.
แบงก์กางแผนสินเชื่อรายย่อย ปี 62 รุกหนักดิจิตอล เลนดิ้ง 'กสิกรไทย' ตั้งเป้าโต 9-12% ชี้! อานิสงส์โครงการรถคันแรกจบ ดันความต้องการสินเชื่อบุคคล-ลีสซิ่งเพิ่ม ส่วน 'กรุงศรีอยุธยา' วางเป้าสินเชื่อโต 2 เท่าจีดีพี คิดเป็นยอดปล่อยใหม่ 1 แสนล้านบาท เล็งต่อยอดสินเชื่อบ้านบน iFin หลังมียอดอนุมัติดิจิตอล 5-10%

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ K BANK เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ธนาคารตั้งเป้าธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ปี 2562 เติบโตค่อนข้างสูงที่ 9-12% จากเป้าหมายปีนี้ 5-7% ส่วนหนึ่งเพราะ ปี 2562 จะเป็นปีแรกที่โครงการรถคันแรกหมดลง ทำให้กำลังซื้อจะกลับมาเข้าในระบบค่อนข้างเยอะ ทำให้มีความต้องการสินเชื่อ โดยจะบันทึกในสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) และสินเชื่อเช่าซื้อ (Leasing) จำนวนหนึ่ง ส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อรายย่อยทั้งปีน่าจะขยายตัวค่อนข้างดี ทั้งนี้ การเติบโต 9-12% ส่วนใหญ่จะมาจากสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อขยายตัวค่อนข้างสูง

ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะสอดคล้องกับภาพรวมตลาด โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยจะขยายตัวตามโครงการบ้าน แม้จะชะลอเปิดโครงการใหม่บ้าง แต่ยังคงมีความต้องการ เพียงแต่จะไม่ขยายตัวสูงเหมือนปีที่ผ่านมา

ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย ธนาคารได้ส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อผ่านระบบดิจิตอล หรือ Digital Lending เพิ่มมากขึ้น โดยนำ Machine Learning มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลเป็นเครดิตสกอริ่ง ซึ่งช่วงแรกจะทำบน K PLUS ให้กับฐานลูกค้าเก่าก่อน โดยระบบจะวิเคราะห์ว่า ลูกค้ารายใดมีความต้องการสินเชื่อระบบจะส่งตรงไปยังลูกค้า เบื้องต้น ได้ทดลองกับสินเชื่อส่วนบุคคลและจะขยายต่อไปยังสินเชื่อประเภทอื่น เช่น ที่อยู่อาศัย เช่าซื้อ ในอนาคตไม่ว่าลูกค้าต้องการสินเชื่อประเภทไหนก็สามารถให้บริการได้ทันที


MP24-3417-A

ทั้งนี้ หลังจากทดลองสินเชื่อ Digital Lending ช่วง 9 เดือนแรก พบว่า ตัวเลขการขอสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1 พันล้านบาท ยังถือว่าไม่มากนัก เพราะอยู่ระหว่างทดลองทำและเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลวงเงินไม่สูงมากนัก เฉลี่ยที่ 1-2 หมื่นบาทต่อราย อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 เดือนสุดท้าย น่าจะปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มเป็น 1,200-1,500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี ส่วนคุณภาพสินเชื่อยังเป็นปกติ เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นทำ ธนาคารจึงต้องรอประเมินอีกสักระยะหนึ่ง ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อรายย่อยทั้งหมดค่อนข้างทรงตัว และคาดว่าจะยังทรงตัว หรือ ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ในปี 2562 เนื่องจากดูตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อเทียบกับหนี้ที่เกิดใหม่ ถือว่ามีน้อยมาก และช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ หนี้ที่แก้ไขและกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง หรือ Re-Entry พบว่า น้อยลงแทบจะไม่มีเลย ดังนั้น ภาพรวมหนี้เอ็นพีแอลน่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้น

นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจ ลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า แผนธุรกิจรายย่อย ปี 2562 ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 9-10% จากยอดสินเชื่อคงค้าง 3.1 แสนล้านบาทใกล้เคียงปีนี้ ภายใต้เศรษฐกิจขยายตัว 4.5% หรือประมาณ 2 เท่าของจีดีพี โดยตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่เติบโต 10-15% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อราว 1 แสนล้านบาท

 

[caption id="attachment_345283" align="aligncenter" width="503"] พงษ์อนันต์ ธณัติไตร พงษ์อนันต์ ธณัติไตร[/caption]

ทั้งนี้ เป้าหมายการเติบโต 9-10% จะมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัย แม้การเติบโตจะลดลงจากปีนี้ที่ขยายตัว 11% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 8 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อคงค้างที่อยู่อาศัย 2.4 แสนล้านบาท เนื่องจากหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้การเติบโตจะทำได้ยากขึ้น

ขณะที่ สินเชื่อส่วนบุคคลน่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ ที่ 2% หรือคิดเป็นสินเชื่อใหม่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เพราะการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ทั้งจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non Bank) ที่เข้ามาเล่นตลาดนี้มากขึ้นต่อเนื่อง

 

[caption id="attachment_345166" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

อย่างไรก็ดี ภายในกลางปี 2562 ธนาคารจะขยายการปล่อยสินเชื่อดิจิตอล (Digital Lending) หรือ iFin บนกรุงศรีโมบายแอพพลิเคชัน (KMA) ที่มีฐานลูกค้า 4 ล้านราย โดยจะขยายไปที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อผู้ประกอบการ หลังจากได้ทดลองทำสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี เน้นลูกค้าเก่าของธนาคารที่มีเงินเดือนประจำ โดยมียอดคำขอสินเชื่อทั้งหมด 3 หมื่นราย แต่อนุมัติเพียง 5-10% เท่านั้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ผ่านคุณสมบัติภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิตอลยังไม่มากนัก และคาดว่ายังไม่เห็นการเติบโตที่รวดเร็ว แต่จะทำอย่างต่อเนื่อง

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่าที่วางแผนไว้ โดยปัจจุบันตัวเลขเอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.6-2.7% ถือว่าตํ่ากว่าตลาดที่อยู่ 3% และคาดว่า ทิศทางเอ็นพีแอลในปี 2562 น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน หรือ ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย

"สินเชื่อปีหน้าที่โตเยอะน่าจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่อาจไม่เท่าปีนี้ เพราะมีทั้งเรื่องคุมเกณฑ์ LTV และบ้านหลังที่ 2 ทำให้การทำตลาดยากขึ้น ส่วนสินเชื่อบุคคลน่าจะเท่าปีนี้โตราว 2% แต่ปีหน้าเราจะขยายสินเชื่อดิจิตอล โดยเอาทุกผลิตภัณฑ์ขึ้นไปบนดิจิตอล"


หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ   ฉบับที่ 3,417 วันที่ 11 - 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

595959859