หอการค้าเชียงใหม่ฟันธง! "เศรษฐกิจยังโต" หนุนนำ "ดิจิตอลอีโคโนมี" ช่วยขับเคลื่อน

11 พ.ย. 2561 | 01:25 น.
หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เผยภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 3 และแนวโน้มไตรมาส 4 ยังมีแนวโน้มที่ขยายตัว ขณะที่ สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนหด แต่คาดว่าจะเป็นระยะสั้น หนุนนำดิจิตอลอีโคโนมีช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชียงใหม่



lo07

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไตรมาส 3 และแนวโน้มไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ภาพรวมเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี มีบางภาคส่วน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวลดลง โดยในช่วงไตรมาส 3 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวสูง ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการนำเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งลดลงมาก และนักท่องเที่ยวกลุ่มท่องเที่ยวด้วยตนเอง (Free and Independent Traveler : FIT) ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของ จ.เชียงใหม่ ที่มีกำลังซื้อสูง ก็ลดลงด้วยเช่นกัน

"หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ มองว่า ปัญหานักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงเป็นภาวะเพียงชั่วคราว เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายหลักที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอยู่ โดยเฉพาะเชียงใหม่ ที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนแก้ไขและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในด้วย โดยเน้นจุดขายด้านวัฒนธรรมและการตลาดออนไลน์พร้อมกัน"

นางวิภาวัลย์ กล่าวต่อไปว่า หอการค้าให้ความสำคัญกับการนำเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) มาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในจังหวัด โดยการนำเอา "ไอที" หรือ "เทคโนโลยีดิจิตอล" เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มผลผลิตสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการต่าง ๆ

จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางด้านท่องเที่ยว การค้า การลงทุน การศึกษา เกษตรอินทรีย์ อาหาร สุขภาพ การแพทย์และผู้สูงอายุ รวมทั้งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทำให้สามารถสร้างผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ (Startup) ได้หลากหลาย มูลค่าการค้าแบบอี-คอมเมิร์ซ (E-commerce) มีอัตราการเติบโตสูง ในระดับประเทศ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) คาดว่าจะโต 16.8% มูลค่าทั้งประเทศ 949,122 ล้านบาท

"ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการค้าแบบออนไลน์ใน จ.เชียงใหม่ ว่า มีมูลค่าการค้าเป็นจำนวนเท่าไร หอการค้าอยู่ระหว่างสร้างฐานข้อมูลด้านนี้ขึ้นมาโดยตรง จากตัวเลขนิติบุคคลที่จดทะเบียนค้าแบบออนไลน์จะพบว่า "ภาคเหนือ" ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะอยู่ใน จ.เชียงใหม่ มีนิติบุคคลมากเป็นอันดับ 3 รองลงมาจากกรุงเทพฯ และภาคกลาง ดังนั้น จึงคาดว่ามูลค่าการค้าแบบออนไลน์ในภาคเหนือและเชียงใหม่จะมีมูลค่าสูงเช่นกัน สะท้อนว่า เครือข่ายเศรษฐกิจของ จ.เชียงใหม่ ได้ปรับตัวไปมากแล้ว"

ด้าน นายสมชาย ทองคำคูณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า ด้านภาคการเกษตรถือว่าเป็นภาคเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้น เนื่องจากผลผลิตลำไยเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7% จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และสามารถทยอยเก็บผลผลิตออกสู่ตลาดไม่กระจุกตัว ราคาดีขึ้น รวมถึงมีการส่งเสริมด้านการตลาดออนไลน์และการแปรรูป ทำให้ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก อย่างไรก็ตาม ภาคการเกษตรจะเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว หากเราช่วยกันส่งเสริมให้ภาคการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น ก็จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น และก็จะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ได้ เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนตามมาด้วย ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ หอการค้าประเมินว่า ไม่แตกต่างจากไตรมาสก่อน มีอุปทานคงเหลือจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน


หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,417 วันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2561

 

[caption id="attachment_345611" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]