'อินเด็กซ์' คว้า "เคาต์ดาวน์ ราชประสงค์"

12 พ.ย. 2561 | 10:29 น.
'อินเด็กซ์' มั่นใจรายได้เติบโต 11% คว้าบิ๊กอีเวนต์ส่งท้ายปี "เคาต์ ดาวน์ ราชประสงค์ @เซ็นทรัลเวิลด์" พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอีเวนต์เจาะกลุ่มคอกีฬาและนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง เผยภาพรวมอุตสาหกรรมปีนี้ดีสุดในรอบ 10 ปี พร้อมแนะผู้ประกอบการตอบโจทย์ Life Experience

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจะมีงานอีเวนต์ใหญ่ จำนวน 3-4 งาน โดยหนึ่งในงานนั้น คือ งานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือ เคาต์ดาวน์ ที่จะจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งบริษัทเชื่อว่า ปีนี้จะมีบรรยากาศคึกคักมาก เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีรายได้รวมเป็นไปตามที่คาดไว้ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 11%

ทั้งนี้ จากภาพรวมธุรกิจอินเด็กซ์สามารถแบ่งสัดส่วนรายได้เป็น 3 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.Marketing Services เติบโตขึ้น 4% คิดเป็นสัดส่วน 88% ของกลุ่มรายได้ทั้งหมด 2.Creative Business Development สัดส่วน 7% และ 3.Own-Project สัดส่วน 5% จากเดิม ปีก่อนในกลุ่ม Marketing Services มีสัดส่วนที่ 69% Creative Business Development สัดส่วน 25% และ Own-Project สัดส่วน 6%

 

[caption id="attachment_344674" align="aligncenter" width="503"] เกรียงไกร กาญจนะโภคิน เกรียงไกร กาญจนะโภคิน[/caption]

จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Marketing Services มาจากกลุ่มลูกค้าธนาคารและค้าปลีก ที่มีจัดงานแฟร์เพิ่มขึ้น ซึ่งงานแฟร์นับเป็นงานอีเวนต์ประเภทหนึ่ง เช่น กลุ่มธุรกิจประเภทค้าปลีกที่แข่งขันดุเดือดมากในขณะนี้ โดยเฉพาะกิจกรรมการช็อปปิ้ง เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ กลุ่มลูกค้าธนาคารที่จัดงานแฟร์หันมาเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ในแผนปีหน้าบริษัทมีงานอีเวนต์ใหญ่จำนวน 6-7 งาน ซึ่งหนึ่งในงานดังกล่าวเป็นงานอีเวนต์ร่วมกับ ททท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากประเทศไทยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยว รวมถึงที่ผ่านมาเริ่มสังเกตเห็นจังหวัดต่าง ๆ มีนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ประเทศไทยเดินมาถูกทางเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ไม่ควรเน้นแค่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา แต่ควรเน้นที่คุณภาพและกระตุ้นกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวให้ได้ ต้องปรับทัศนคติคนไทยและนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ว่า สินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีราคาที่เหมาะสม ไม่ควรเน้นสินค้าราคาถูกเท่านั้น


IMG_6070

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดงาน "กิโลรัน บาหลี" ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมสปอร์ตอีเวนต์ โดยมีรูปแบบวิ่งกินเที่ยวนานาชาติ วิ่งชมแลนด์มาร์กเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม พร้อมชิมอาหารจานเด็ดพื้นเมือง จนต้องยกนิ้ว พร้อมชิมอาหารญี่ปุ่นและอาหารไทย โดยในปีหน้าบริษัทจะขยายจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้น อาทิ ญี่ปุ่น 2 เมือง ไทย 3 เมือง และเวียดนาม เป็นต้น

ทั้งนี้ ในด้านภาพรวมของตลาดบริษัท มองว่า ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากไม่มีสถานการณ์ร้ายแรงใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวคาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดสิ้นปีเติบโตขึ้น 10-15% หรือ มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อน 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทเชื่อว่า อุตสาหกรรมอีเวนต์ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ต้องปรับตัว จากเดิมที่เคยเน้นการจัดงานในรูปแบบอีเวนต์เพื่อเปิดตัวสินค้า ต้องปรับโหมดเป็นการสร้างอีเวนต์ให้ผู้บริโภครู้สึกมีประสบการณ์ร่วม เนื่องจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่หรือผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์และต้องการมี Life Experience


หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,417 ระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2561


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว