พระราม9บูมรอแยลเฮ้าส์ ลุยคอนโด 

16 พ.ย. 2561 | 03:57 น.
รอแยลเฮ้าส์ บริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ รับตลาดไม่โตหวือหวา หวั่นสถานการณ์การเมืองปี 62 ทำยอดชะงัก ยึดทำเลพระราม 9-รัชดา ลุยคอนโด มิเนียมไม่หวั่นมาตรการแบงก์ชาติคุมเข้ม เผยใช้กลยุทธ์เปิดวางดาวน์ยาว 18 เดือน มั่นใจมีกำลังซื้อ

นายโกศล โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัดเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมาตรการคุมเข้มการวางเงินดาวน์ 20% ประเมินว่าไม่มีผลต่อคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัท เนื่องจากกลุ่มลูกค้ารายได้เฉลี่ย 3 หมื่นบาทต่อเดือนสามารถผ่อนชำระได้จากการยืดการผ่อนดาวน์ 18 งวด

ที่ผ่านมาได้จัดตั้ง บริษัท รอแยลเฮ้าส์ อีเลฟเว่น จำกัด ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งแนวสูงและแนวราบ หวังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น สำหรับโครงการโคคูน พระราม 9 มีจำนวน 146 หน่วย ทำเลถนนพระราม 9 ซอย 59 มีมูลค่าโครงการ 305 ล้านบาท

[caption id="attachment_344615" align="aligncenter" width="383"] โกศล โควิสุทธิ์ โกศล โควิสุทธิ์[/caption]

นายโกศล ระบุว่าการแตกไลน์ธุรกิจครั้งนี้ จะดำเนินการควบคู่ไปกับธุรกิจหลัก คือ การรับสร้างบ้านของบริษัท ที่ยอดรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำได้แล้ว 1.05 พันล้านบาท และคาดทั้งปี 2561 น่าจะจบที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งเกินเป้ารายได้ที่วางไว้เบื้องต้น 1 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจรับสร้างบ้านมีข้อจำกัดจากความล่าช้าในการก่อสร้าง ที่สามารถทำยอดได้เพียง 150 หลังต่อปี จากทำเลที่กระจายหลากหลายจังหวัด และมีคู่แข่งรายเล็ก ที่เป็นผู้รับเหมาท้องถิ่นเข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน แม้ตลาดรวมยังไปได้ แต่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ ก็มีความอ่อนไหวกับปัจจัยการเมืองอยู่มาก ซึ่งหากในปี 2562 การเลือกตั้งเกิดปัญหา ก็อาจจะมีผลกระทบให้กำลังซื้อชะลอตัวได้

“ตลาดสร้างบ้านรวมๆ ยังไปได้ ลูกค้าถ้าจะหายจริงๆ มาจากเรื่องการเมืองอย่างเดียว เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ เดิมเป็นกลุ่มคนมีเงินอยู่แล้ว เรื่องเศรษฐกิจไม่มีผล แต่ลูกค้ากลัวเรื่องการเมือง ฉะนั้น ถ้าปีหน้าการเลือกตั้งผ่านไปได้ด้วยดี ก็จะดี ตรงข้ามกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ตลาดชะงักแน่นอน ถือเป็นความเสี่ยงที่เรากลัว”

นายโกศล ยังระบุว่า ข้อจำกัดในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไป คือ เงินทุน ความรู้ความเข้าใจ และทีมงานที่มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีครบทุกด้านแล้ว ประกอบกับประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับสร้างบ้านและพัฒนาที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในโครงการแรกที่เปิดขาย นอกจากนี้ เรื่องทำเลและราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคก็จะมีผลอย่างมาก เนื่องจากตั้งราคาขายในระดับ 6-7 หมื่นบาทต่อตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นช่องว่างของตลาด หลังจากปัจจุบันราคาคอนโดฯในทำเลศักยภาพ แตะระดับ 1 แสนบาทต่อตารางเมตร แทบทุกโครงการจากต้นทุนราคาที่ดินแพงที่สุด ทำให้จำเป็นต้องขายหลัก 3-4 ล้านบาทขึ้นไป

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ระดับราคา 2 ล้านบาท สำหรับกลุ่มคนเงินเดือน 3-4 หมื่นบาท ยังเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดที่มีความน่าสนใจ เพราะได้รับผลกระทบน้อยจากความกังวลต่างๆ แตกต่างจากกลุ่มราคาแพง ที่การซื้อและการโอนเริ่มมีความน่าเป็นห่วง

ส่วนทำเลที่บริษัทสนใจ ในการพัฒนาโครงการต่อๆ ไป ตามแผนอย่างน้อยปีละ 1 โครงการนั้น คือ ทำเลที่มีศักยภาพ แต่ไม่ใช่ไพรม์แอเรีย เพราะไม่ต้องการแข่งกับรายใหญ่ แต่จะเจาะเฉพาะที่มีเรียลดีมานด์ เช่น ทำเลพระราม 9 ที่แผนพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะแล้วเสร็จในปี 2563 และเดิมที่มีศักยภาพจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์อยู่แล้ว รวมถึงการเข้า-ออก ผ่านถนนได้หลายสาย พระราม 9, ศรีนครินทร์และหัวหมาก ทำให้ทำเลโดดเด่น นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินในทำเลอื่นๆ อีกหลายแปลง รองรับการพัฒนาทั้งคอนโดฯและกลุ่มแนวราบ

ทั้งนี้ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ฯนอกจากดำเนินธุรกิจหลักรับสร้างบ้าน พบในอดีตยังเคยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดหลายโครงการ เช่น รอแยล ทาวเวอร์ อินทามระ 25, รอแยลกมลา ภูเก็ต เป็นต้น

หน้า 29-30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 38 ฉบับ 3,417 วันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2561 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว