VGI โชว์รายได้ Q2 กว่า 1.2 พันล้านบาท โต 23.5%
"วีจีไอ โกลบอล มีเดีย" ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ทำรายได้รวม 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากแผนกลยุทธ์ที่วางไว้และจากการพัฒนาของทุกกลุ่มธุรกิจ
นายเนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ทำรายได้รวม 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ ไตรมาสนี้กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 260 ล้านบาท เติบโต 28.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มธุรกิจของบริษัทมีพัฒนาการที่สำคัญ โดยเริ่มจากธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัทสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยการขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศและขยายขีดความสามารถด้านดิจิทัลผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน)
[caption id="attachment_344423" align="aligncenter" width="498"]
เนลสัน เหลียง[/caption]
โดยในไตรมาสนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้อยู่ที่ 909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน การขยายตัวของรายได้ถูกขับเคลื่อนจากผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้ง สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน และสื่ออื่น ๆ
ขณะที่ สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนมีรายได้ 535 ล้านบาท ลดลง 7.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการสิ้นสุดของสัญญาแคมเปญ O2O โซลูชันส์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีรายได้อยู่ที่ 57 ล้านบาท ลดลง 30 ล้านบาท จาก 87 ล้านบาท ในช่วงเดียกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากสัญญาส่วนใหญ่ของแคมเปญ O2O โซลูชั่นส์ได้สิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 2561 ซึ่งตรงกับช่วงสิ้นสุดการใช้จ่ายงบประมาณของลูกค้าและบริษัทตัวแทนสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าการลดลงดังกล่าวจะเป็นผลกระทบในระยะเวลาสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าลูกค้าจะกลับมาใช้สื่อเป็นปกติในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้
ด้านสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่น ๆ มีรายได้อยู่ที่ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นราคาของสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับสัญญาในการบริหารสื่อในอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการให้บริการสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน ด้วยจำนวนอาคารภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 177 อาคาร และมีจอดิจิทัล 1,374 จอ ขณะที่ สื่อโฆษณากลางแจ้งมีรายได้ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากสื่อโฆษณาดิจิทัลบิลบอร์ด จำนวน 35 จอ
จากอิทธิพลของอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมการสื่อสารของผู้คนในยุคปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาต้องปรับตัว เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที บริษัทได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จึงเริ่มปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจจากผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว เข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่น จากการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มสื่อโฆษณา แพลตฟอร์มการบริการชำระเงิน และแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ VGI มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตและการแข่งขันในตลาดได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ธุรกิจบริการชำระเงิน (ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล) มีพัฒนาการของผู้ใช้บริการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เริ่มจาก Rabbit LinePay ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 55.2% เป็น 4.5 ล้านราย โดยปัจจัยสนับสนุนจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่บน LINE แอพพลิเคชัน ให้มีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น ด้านธุรกิจขนส่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา VGI ได้ร่วมมือกับ Kerry Express ทดลองให้บริการส่งสินค้าทดลอง โดยแนบไปกับกล่องส่งสินค้า ซึ่งภายใน 1 เดือนหลังจากการให้บริการ บริษัทสามารถส่งได้ถึง 70,000 ชิ้น มีอัตรา Conversion สูง 3-5% เทียบกับระดับเฉลี่ยของตลาดที่ 0.5%
สำหรับแนวโน้วตลาดสื่อโฆษณา จากนี้น่าจะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2562 ที่คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีการใช้จ่ายงบประมาณ รวมไปถึงผลของการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์แอด ทำให้บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปี 2561/62 เป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4,400–4,600 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัท จะอยู่ที่ 20–25%
นายเนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ทำรายได้รวม 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ ไตรมาสนี้กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 260 ล้านบาท เติบโต 28.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มธุรกิจของบริษัทมีพัฒนาการที่สำคัญ โดยเริ่มจากธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัทสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยการขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศและขยายขีดความสามารถด้านดิจิทัลผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน)
[caption id="attachment_344423" align="aligncenter" width="498"]
โดยในไตรมาสนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้อยู่ที่ 909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน การขยายตัวของรายได้ถูกขับเคลื่อนจากผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้ง สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน และสื่ออื่น ๆ
ขณะที่ สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนมีรายได้ 535 ล้านบาท ลดลง 7.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการสิ้นสุดของสัญญาแคมเปญ O2O โซลูชันส์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีรายได้อยู่ที่ 57 ล้านบาท ลดลง 30 ล้านบาท จาก 87 ล้านบาท ในช่วงเดียกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากสัญญาส่วนใหญ่ของแคมเปญ O2O โซลูชั่นส์ได้สิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 2561 ซึ่งตรงกับช่วงสิ้นสุดการใช้จ่ายงบประมาณของลูกค้าและบริษัทตัวแทนสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าการลดลงดังกล่าวจะเป็นผลกระทบในระยะเวลาสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าลูกค้าจะกลับมาใช้สื่อเป็นปกติในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้
ด้านสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่น ๆ มีรายได้อยู่ที่ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นราคาของสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับสัญญาในการบริหารสื่อในอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการให้บริการสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน ด้วยจำนวนอาคารภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 177 อาคาร และมีจอดิจิทัล 1,374 จอ ขณะที่ สื่อโฆษณากลางแจ้งมีรายได้ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากสื่อโฆษณาดิจิทัลบิลบอร์ด จำนวน 35 จอ
จากอิทธิพลของอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมการสื่อสารของผู้คนในยุคปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาต้องปรับตัว เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที บริษัทได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จึงเริ่มปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจจากผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว เข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่น จากการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มสื่อโฆษณา แพลตฟอร์มการบริการชำระเงิน และแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ VGI มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตและการแข่งขันในตลาดได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ธุรกิจบริการชำระเงิน (ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล) มีพัฒนาการของผู้ใช้บริการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เริ่มจาก Rabbit LinePay ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 55.2% เป็น 4.5 ล้านราย โดยปัจจัยสนับสนุนจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่บน LINE แอพพลิเคชัน ให้มีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น ด้านธุรกิจขนส่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา VGI ได้ร่วมมือกับ Kerry Express ทดลองให้บริการส่งสินค้าทดลอง โดยแนบไปกับกล่องส่งสินค้า ซึ่งภายใน 1 เดือนหลังจากการให้บริการ บริษัทสามารถส่งได้ถึง 70,000 ชิ้น มีอัตรา Conversion สูง 3-5% เทียบกับระดับเฉลี่ยของตลาดที่ 0.5%
สำหรับแนวโน้วตลาดสื่อโฆษณา จากนี้น่าจะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2562 ที่คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีการใช้จ่ายงบประมาณ รวมไปถึงผลของการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์แอด ทำให้บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปี 2561/62 เป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4,400–4,600 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัท จะอยู่ที่ 20–25%
