ธพว. ติดอาวุธ SMEs ชุมชน 7 หมื่นรายทั่วไทย แจ้งเกิดบนตลาดออนไลน์
ธพว. เดินหน้าจัดกิจกรรมสัมนาเชิงปฏิบัติการ "ปักหมุด ธุรกิจติดดาว" by SME D Bank ร่วมกับพันธมิตรดีแทคและไปรษณีย์ไทย หนุนผู้ประกอบการทำตลาดออนไลน์ เล็งขยายสู่เอสเอ็มอีระดับชุมชน 70,000 ราย พร้อมเตรียมสินเชื่อพิเศษไว้รองรับการขยายธุรกิจ
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "ปักหมุด ธุรกิจติดดาว by SME D Bank" สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความรู้ ความชำนาญ ในการทำตลาดออนไลน์ และที่สำคัญสร้างตัวตนทางธุรกิจอยู่บนโลกการค้าออนไลน์ด้วยวิธีการ "ปักหมุด" ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นเจอธุรกิจได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
"จากการเติบโตอย่างสูงของการค้าออนไลน์ หรือ e-Commerce นับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะรายย่อยตามภูมิภาคต่าง ๆ ที่จะเพิ่มช่องทางขาย เพิ่มรายได้ และขยายธุรกิจ ดังนั้น ธนาคารได้จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการดังกล่าวขึ้น"
สำหรับการดำเนินโครงการนั้น ธนาคารจะลงพื้นที่ทั่วประเทศจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้การทำตลาดออนไลน์แก่เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จนสามารถค้าขายออนไลน์ได้โดยสมบูรณ์ เช่น แนะนำการทำเว็บไซต์ สร้างแฟนเพจเฟซบุ๊ก แนะนำการปักหมุดที่ถูกต้อง การถ่ายภาพสินค้าให้สวยงามดึงดูดใจผู้ซื้อ และการเขียนแนะนำสินค้าให้โดนใจ เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมการสอนลักษณะนี้ โดยทั่วไปจะคิดค่าอบรมอย่างน้อยหลักสูตรละ 20,000 บาท แต่ทางธนาคารมาให้บริการแก่ผู้ประกอบการชุมชนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเบื้องต้น กำหนดจัดกิจกรรม 5 ครั้ง ภายในปี 2561 ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ ระยอง และกรุงเทพฯ เบื้องต้น คาดจะมีผู้ประกอบการชุมชนผ่านโครงการไม่ต่ำกว่า 500 ราย และจะขยายไปถึงชุมชนท้องถิ่น 70,000 รายทั่วประเทศต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเมื่อผ่านการอบรมแล้ว ธนาคารจะมอบป้ายสติ๊กเกอร์ "สุดยอด SMEs ปักหมุด ธุรกิจติดดาว" ให้นำไปติดยังร้านค้า สถานประกอบการ หรือ ใช้โปรโมทผ่านสื่อต่าง ๆ เป็นการการันตีคุณภาพ ว่า ธุรกิจได้ยกระดับการพัฒนาด้านการค้าออนไลน์มาแล้ว ลูกค้าสามารถค้นเจอได้ในอินเตอร์เน็ต สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้ทันที เป็นการเพิ่มช่องทางตลาด สร้างโอกาสเพิ่มยอดขายและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น
นายมงคล กล่าวต่อไปอีกว่า โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือกับจากหน่วยงานพันธมิตร เพื่อจะสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนอย่างครบวงจร ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ซึ่งมีโครงการ "ดีแทค เน็ตอาสา" สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยดิจิทัล จะมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรแนะนำความรู้การทำตลาดออนไลน์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาให้ความรู้การจัดส่งสินค้าออนไลน์ อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชุมชนที่ผ่านการอบรม นำสินค้าขึ้นแพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com เว็บไซต์และแอพพลิเคชันของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งรวบรวมสินค้าจากเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศมาจำหน่าย มีจุดเด่นให้บริการรับส่งสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้สั่งสินค้าโดยตรง บริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์โดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือ ค่าบริการอื่น ๆ ผ่านสาขาของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดเตรียมเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษไว้สนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนที่ต้องการขยายธุรกิจ เช่น สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว สำหรับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ดอกเบี้ย 3% ต่อปี และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับนิติบุคคล ดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี เป็นต้น โดยสามารถยื่นกู้ง่าย ๆ ได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม SME D Bank
"จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการรายย่อยอยู่นอกระบบกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 3 ล้านราย กิจกรรม "ปักหมุด ธุรกิจติดดาว by SME D Bank" นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยมีตัวตนการค้าอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพาผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงการสนับสนุนต่าง ๆ จากภาครัฐ ทั้งด้านความรู้และเงินทุน ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด เติบโต และยั่งยืน"
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "ปักหมุด ธุรกิจติดดาว by SME D Bank" สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความรู้ ความชำนาญ ในการทำตลาดออนไลน์ และที่สำคัญสร้างตัวตนทางธุรกิจอยู่บนโลกการค้าออนไลน์ด้วยวิธีการ "ปักหมุด" ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นเจอธุรกิจได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
"จากการเติบโตอย่างสูงของการค้าออนไลน์ หรือ e-Commerce นับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะรายย่อยตามภูมิภาคต่าง ๆ ที่จะเพิ่มช่องทางขาย เพิ่มรายได้ และขยายธุรกิจ ดังนั้น ธนาคารได้จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการดังกล่าวขึ้น"
สำหรับการดำเนินโครงการนั้น ธนาคารจะลงพื้นที่ทั่วประเทศจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้การทำตลาดออนไลน์แก่เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จนสามารถค้าขายออนไลน์ได้โดยสมบูรณ์ เช่น แนะนำการทำเว็บไซต์ สร้างแฟนเพจเฟซบุ๊ก แนะนำการปักหมุดที่ถูกต้อง การถ่ายภาพสินค้าให้สวยงามดึงดูดใจผู้ซื้อ และการเขียนแนะนำสินค้าให้โดนใจ เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมการสอนลักษณะนี้ โดยทั่วไปจะคิดค่าอบรมอย่างน้อยหลักสูตรละ 20,000 บาท แต่ทางธนาคารมาให้บริการแก่ผู้ประกอบการชุมชนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเบื้องต้น กำหนดจัดกิจกรรม 5 ครั้ง ภายในปี 2561 ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ ระยอง และกรุงเทพฯ เบื้องต้น คาดจะมีผู้ประกอบการชุมชนผ่านโครงการไม่ต่ำกว่า 500 ราย และจะขยายไปถึงชุมชนท้องถิ่น 70,000 รายทั่วประเทศต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเมื่อผ่านการอบรมแล้ว ธนาคารจะมอบป้ายสติ๊กเกอร์ "สุดยอด SMEs ปักหมุด ธุรกิจติดดาว" ให้นำไปติดยังร้านค้า สถานประกอบการ หรือ ใช้โปรโมทผ่านสื่อต่าง ๆ เป็นการการันตีคุณภาพ ว่า ธุรกิจได้ยกระดับการพัฒนาด้านการค้าออนไลน์มาแล้ว ลูกค้าสามารถค้นเจอได้ในอินเตอร์เน็ต สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้ทันที เป็นการเพิ่มช่องทางตลาด สร้างโอกาสเพิ่มยอดขายและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น
นายมงคล กล่าวต่อไปอีกว่า โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือกับจากหน่วยงานพันธมิตร เพื่อจะสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนอย่างครบวงจร ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ซึ่งมีโครงการ "ดีแทค เน็ตอาสา" สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยดิจิทัล จะมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรแนะนำความรู้การทำตลาดออนไลน์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาให้ความรู้การจัดส่งสินค้าออนไลน์ อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชุมชนที่ผ่านการอบรม นำสินค้าขึ้นแพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com เว็บไซต์และแอพพลิเคชันของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งรวบรวมสินค้าจากเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศมาจำหน่าย มีจุดเด่นให้บริการรับส่งสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้สั่งสินค้าโดยตรง บริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์โดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือ ค่าบริการอื่น ๆ ผ่านสาขาของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดเตรียมเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษไว้สนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนที่ต้องการขยายธุรกิจ เช่น สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว สำหรับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ดอกเบี้ย 3% ต่อปี และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับนิติบุคคล ดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี เป็นต้น โดยสามารถยื่นกู้ง่าย ๆ ได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม SME D Bank
"จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการรายย่อยอยู่นอกระบบกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 3 ล้านราย กิจกรรม "ปักหมุด ธุรกิจติดดาว by SME D Bank" นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยมีตัวตนการค้าอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพาผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงการสนับสนุนต่าง ๆ จากภาครัฐ ทั้งด้านความรู้และเงินทุน ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด เติบโต และยั่งยืน"
