หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยข้อมูลปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ถึงสองเท่า
+ รัสเซียและซาอุดิอาระเบีย เริ่มการเจรจาถึงโอกาสการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า เพื่อป้องกันภาวะอุปทานล้นตลาด หลังกลุ่มโอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปีหน้าจะชะลอตัวลง ประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านที่ยังคงมีอยู่ หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านให้แก่ 8 ประเทศเป็นเวลา 180 วัน
+ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวเพิ่มขึ้นกว่า 500 จุด หลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยพรรคเดโมแครตสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ทำให้นักลงทุนมองว่า พรรคเดโมแครตจะสามารถขัดขวางนโยบายกีดกันการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ได้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคยังอยู่ในระดับสูง ในขณะที่อุปสงค์ยังคงทรงตัว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากเข้าใกล้ฤดูหนาว อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลได้รับแรงกดดันจากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นในเอเชียเหนือ หลังการปิดซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น รวมถึง ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
อุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังหลายประเทศลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่านซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. เป็นต้นไป
จับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย. นี้
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
[caption id="attachment_343960" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]