ไทยจับมือจีน! ยกระดับความร่วมมือ พุ่งเป้าการค้า 140,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2564

07 พ.ย. 2561 | 10:02 น.
ไทยเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์เศรษฐกิจกับจีน โดยได้เห็นชอบเอกสารยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ขับเคลื่อนความร่วมมือ 7 ด้าน ได้แก่ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดิจิทัล การท่องเที่ยว การเงิน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ดันเป้าการค้าทะลุ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2564

 

[caption id="attachment_343894" align="aligncenter" width="503"] สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์[/caption]

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน) ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2561 ณ ทำเนียบรัฐบาล ได้มอบให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไปดำเนินการเพื่อยกระดับความสัมพันธ์การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ รองรับการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 กับนโยบาย "ข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ให้สามารถเกื้อกูลและสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันได้นั้น ในการพบหารือระหว่าง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กับนายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของจีน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2561 ณ กรุงปักกิ่ง ทั้ง 2 ฝ่าย ได้เห็นชอบเอกสารยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน (Comprehensive Framework on Enhancing Trade and Economic Partnership between the Thailand and China) โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของ 2 ประเทศ เป็นผู้ลงนาม

ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว มุ่งเน้นการยกระดับความร่วมมือ 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการค้า ร่วมมือเพื่อขยายการค้าให้บรรลุเป้าหมาย 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2564 ซึ่งรวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน China International Import Expo เป็นประจำทุกปี ส่งเสริมความร่วมมือการค้าสินค้าเกษตร และให้จัดประชุม JC เศรษฐกิจไทย-จีน และคณะทำงานสนับสนุนการค้าอย่างไร้อุปสรรคเป็นประจำ

ด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ยานยนต์สมัยใหม่ หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร อาหารเพื่ออนาคต และการบินและโลจิสติกส์

ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เสริมสร้างความร่วมมือผ่านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้เมืองนวัตกรรมอาหารของไทย (Food Innopolis) เป็นพื้นที่ในการทำวิจัยและพัฒนา เข้าร่วมโครงการสำรวจความร่วมมือด้านอวกาศของจีน ร่วมมือด้านการพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์

ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เทคโนโลยี 5G และการลงทุนในอุทยานดิจิทัลในไทย รวมถึงยกระดับความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ทั้งเคเบิ้ลใต้น้ำและโครงข่ายใยแก้วนำแสง

ด้านการเงิน ส่งเสริมการใช้เงินบาทและเงินหยวนในการทำธุรกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ขยายความร่วมมือและส่งเสริมบริการทางการเงินสมัยใหม่ (Fintech)

ด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพรวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ การบริการเรือข้ามฟาก และธุรกิจบริการน้ำพุร้อน

และ ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ส่งเสริมให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี อาเซียน-จีน ส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านความร่วมมือภายใต้เขตเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง (PPRD) กรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)


????????????????????????????????????



ทั้งนี้ จีนมีความสำคัญในฐานะเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และนักลงทุนอันดับ 3 ของไทย
และด้วยขนาดของประชากรเกือบ 1,400 ล้านคน ทำให้จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ที่มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการดำเนินการตามข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI) ซึ่งไทยได้พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการพบหารือระหว่างรองนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ฝ่าย ในการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ ได้เห็นชอบการลงนามเอกสารยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน และต่อเนื่องต่อไป

ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยจีนเป็นทั้งตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ในขณะที่ ไทยเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 15 และเป็นตลาดนำเข้าลำดับที่ 10 ของจีน ในปี 2560 การค้า 2 ฝ่าย มีมูลค่ารวม 73,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 11.9% และในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค. - ก.ย.) ของปี 2561 การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 45,710 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11.6% โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ในขณะที่ ไทยนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ และส่วนประกอบ/อุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น

 

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว

[caption id="attachment_343449" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]