SCI จับพันธมิตรขยายการลงทุนระบบสาธารณูปโภคทั้งใน-ตปท.

01 มี.ค. 2559 | 02:11 น.
เอสซีไอ อีเลคตริค จับมือยักษ์ใหญ่วงการอสังหาฯพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และพันธมิตร เตรียมขยายการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคทั้งในและต่างประเทศ   มั่นใจหนุนรายได้ในปี”59 โตต่อเนื่อง ล่าสุดตุน Backlog กว่า 1,600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 1,200-1,300 ล้านบาท

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) จำกัด (มหาชน) (SCI) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯเตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Utility) ผ่านการร่วมลงทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) และกลุ่มบุคคลผู้ร่วมก่อตั้ง โดยรูปแบบของการลงทุนมีหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา พลังงานน้ำ และการลงทุนระบบน้ำประปาเป็นต้น

“คาดว่าจะมีการจัดแถลงการณ์เพื่อให้ความชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมทุน และเปิดเผยถึงแผนการลงทุนในเร็วๆนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอีกด้วย” นายเกรียงไกรกล่าว

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโรงงานผลิตเสาส่งแรงสูงและเสาสื่อสารโทรคมนาคม และชุบกัลวาไนซ์ เพื่อจำหน่ายและบริการในเมียนมา มูลค่าประมาณ16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 576 ล้านบาท นายเกรียงไกร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทย่อย และจะสามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2561

"การลงทุนสร้างโรงงานในครั้งนี้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อรองรับการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้าและการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศเมียนมา ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯและบริษัทย่อยในอนาคต อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอสซีไอในประเทศเมียนมา ที่นอกเหนือจากการไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตเสาส่งแรงสูงและเสาสื่อสารโทรคมนาคมและชุบกัลวาไนซ์ โดยเงินที่ใช้ในการลงทุนในครั้งนี้มาจากเงินที่รับจากการขายหุ้นไอพีโอ และส่วนหนึ่งมาจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน" นายเกรียงไกรกล่าว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาสื่อสาร ในปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ตามแผนการขยายการลงทุนระบบเสาส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยล่าสุดบริษัทได้เริ่มผลิตงานโครงการเสาส่งของกฟผ.ขนาด 500 กิโลโวลต์ ซึ่งได้เริ่มผลิตในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา

โดยขณะนี้มีงานในมืออยู่ประมาณ 1,100 ล้านบาท และคาดว่าจะได้งานของกฟผ. เพิ่มอีก 500 ล้านบาท ฟ อีกทั้ง บริษัทฯยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นเข้ารับงานโครงการเสาส่ง 500 กิโลโวลต์ ในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการสั่งซื้อจากผู้รับเหมา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2559 เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันในส่วนของเสาสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้คาดว่าจะเติบโตโดยได้รับอานิสงส์จากการลงทุนระบบ 4 จีของภาคเอกชนเป็นหลัก

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 ยังคงมีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องจากปี 2557 ที่ผ่านมาคือ 187ล้านบาท โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการเดินหน้าลงทุนระบบสายส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการลงทุนระบบเสาส่ง 4 จีของภาคเอกชน ที่มีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการในต่างประเทศนั้นมีการรับรู้รายได้ลดลงจากปี 2557 จึงทำให้ผลประกอบการในปี 2558 ปรับตัวลดลงจากปี 2557 แต่อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการรับเหมาในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าจำหน่ายเฟส 2 ที่สปป.ลาว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2559 นี้