กกร. ประเมิน "ศก.ไทย" ไตรมาส 3 เติบโตชะลอลง เทียบจากครึ่งปีแรก

06 พ.ย. 2561 | 07:58 น.
กกร. เผย เศรษฐกิจไตรมาส 3 เติบโตลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก มีหลายเครื่องชี้วัดที่สำคัญ หวังเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีแรงหนุนที่ดีขึ้นได้ แต่ยังมองภาพรวม ศก. และการส่งออกอยู่ในกรอบที่ประมาณการไว้

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุม กกร. ประเมินภาพเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ว่า จะเติบโตชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก โดยมีหลายเครื่องชี้วัดที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การส่งออก การท่องเที่ยว การเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมทั้งผลผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการหดตัวแรงของการส่งออกในเดือน ก.ย. จะเป็นประเด็นระยะสั้น ประกอบกับภาครัฐน่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะมีแรงหนุนที่ดีขึ้นได้ ดังนั้น กกร. มองว่า ภาพเศรษฐกิจไทยและการเติบโตของมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2561 จึงยังอยู่ในกรอบประมาณการ GDP ขยายตัว 4.4-4.8% และการส่งออกขยายตัว 8.0-10.0%


กกร. เบรกเนื้อ

"ทั้งนี้ กกร. เตรียมเสนอรัฐบาลให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไข้ปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ กรอ. ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างเอกชนและรัฐบาลในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงผลักดันการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีหน้า โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน"

สำหรับการส่งออกของไทยในช่วงปีหน้า มีแนวโน้มเผชิญโจทย์ท้าทายมากขึ้น จากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเก็บภาษีนำเข้ารอบที่ 3, ผลต่ออุตสาหกรรมไทยจากการบรรลุข้อตกลงการค้า ภายใต้กรอบ USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement หรือ NAFTA ใหม่), การที่ไทยถูกตัดสิทธิ์ GSP จากสหรัฐฯ ใน 11 รายการสินค้าส่งออก ตลอดจนผลกระทบทางอ้อมจากการขยายตัวที่ชะลอลงของการค้าและเศรษฐกิจหลักในโลก ซึ่งท้ายสุด จะทำให้เป้าหมายที่จะให้การส่งออกในปี 2562 เติบโตในอัตราสูงใกล้เคียงปี 2561 อาจเป็นไปได้ยากขึ้น

ทั้งนี้ มูลค่าการใช้สิทธิ GSP ของสินค้า 11 รายการ ในปี 2560 มีมูลค่า 46 ล้านเหรียญฯ หรือ 1.11% ของ มูลค่าสินค้าไทยใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา รวมราว 4,200 ล้านเหรียญฯ (ปี 2560) หรือคิดเป็น 16.0% ของการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐอเมริกา ขณะที่ ตลาดสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 11% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย กกร. เห็นว่าการถูกตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ น่าจะไม่กระทบต่อการส่งออกของไทย ประกอบกับสินค้าไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน คาดว่าจะส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญที่เป็นคู่แข่งของไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาที่ถูกตัดสิทธิด้วย ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ไทยจะสามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาทดแทนสินค้าของคู่แข่งได้


กรกร. เบรก2

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือน ก.ย. จากกระทรวงการคลัง มีการปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค ยกเว้น ภาคตะวันออก โดยภาพรวมอยู่ที่ 48.4 จากเดือน ส.ค. ที่อยู่ที่ 49.8 ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตร เช่น ยาง ปาล์ม ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยด้านบวก ได้แก่ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน อยู่ที่ 1.50% ประกอบกับภาคการส่งออกที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมีการเติบโตมากขึ้น จากเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว พิษสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง กำลังซื้อลดลง โดยในเดือน ก.ย. มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจำนวน 6.48 แสนคน (-14.89%) ลดลงจากเดือน ส.ค. จำนวน 8.67 แสนคน (-11.77%)

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย มีจำนวน 28.54 ล้านคน เติบโต 8.7% (YoY) แม้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะติดลบ 8.8% (YoY) แต่ภาพรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังเติบโต 13.3% (YoY)

"หากวันนี้ ครม. ประกาศมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับ 21 ประเทศในช่วงนี้ จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกทางหนึ่ง ตามที่ภาครัฐจัดทำโครงการ Regulatory Guillotine เพื่อปรับปรุงกฎหมายที่สำคัญนั้น กกร. ขอเสนอให้ภาครัฐจัดลำดับความสำคัญในการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับความต้องการด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ"

595959859