คำชี้แจง "ปาล์มไทยพัฒนา"

06 พ.ย. 2561 | 08:38 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ตามที่สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ได้นำเสนอข่าวรายการ เจาะลึกทั่วไทย ทูไนท์ ซึ่งถ่ายทอดออกอากาศทั่วประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 หัวข้อข่าว "ใครปล่อยให้นายทุนฮุบที่ทะเลสาบสงขลา" โดยมีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และนางสาวอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เป็นบรรณาธิการข่าวและผู้ดำเนินรายการ และนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ เป็นผู้ร่วมรายการให้สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์


บัดนี้ ความปรากฏแน่ชัดแล้วว่า รายละเอียดของเนื้อหาข่าวที่นำเสนอในรายการดังกล่าวไปมีข้อเท็จจริงบางประการคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความเป็นจริง ทำให้เนื้อหาสาระของข่าวมีความไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลเสียหายต่อบริษัท ปาล์มไทยพัฒนา จำกัดและคณะกรรมการของบริษัทฯ

ด้วยเหตุดังกล่าว ทางรายการ ผู้ดำเนินรายการ และผู้ให้สัมภาษณ์จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วนโดยสมบูรณ์ ทางรายการจึงได้ประสานงานกับคณะกรรมการบริษัท ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด ได้มีโอกาสชี้แจงเป็นหนังสือดังนี้

เมื่อปี 2559 บริษัทฯ เข้าทำผลประโยชน์ขุดดินยกร่องเพื่อทำการปลูกต้นปาล์ม เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งให้บริษัทฯ หยุดการเข้าทำประโยชน์ โดยอ้างเหตุเพื่อขอตรวจสอบ ทางบริษัทฯ จึงได้ยุติการเข้าทำประโยชน์ จนถึงขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้รับการชี้แจงเหตุผลอื่นใดจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มีคำสั่งให้บริษัทฯ หยุดการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่เป็นข่าวแต่ประการใด

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2560 บริษัท ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งผู้ขาย เพื่อขอเงินค่าซื้อขายที่ดินทั้ง 23 แปลงคืนตามสัญญา ต่อศาลจังหวัดสงขลา คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1223/2560 ขณะนี้ คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล

บริษัท ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด ขอเรียนว่า นับแต่วันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2518 บริษัทฯประกอบกิจการค้าโดยยึดหลักความถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทฯไม่มีนโยบายเข้าบุกรุกครองที่ดินของรัฐ หรือที่ดินในเขตป่าไม้ เพื่อเป็นของตนเองแต่ประการใด การเจรจาซื้อขายที่ดินทั้ง 23 แปลง ได้กระทำโดยเจตนาสุจริต เปิดเผย และเสียค่าตอบแทนโดยผ่านนายหน้า บริษัทฯและคณะกรรมการไม่เคยรู้จักหรือมีนิติสัมพันธ์เกี่ยวข้องอื่นใดกับชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน (ทอดที่ 1) หรือผู้ขาย (ทอดที่ 2) ไม่ว่าคนหนึ่งคนใดหรือหลายคน ทั้งก่อนหรือในขณะที่มีการยื่นขอออก ฯ.ส. 3 ก และไม่ใช่ตัวแทน (Nominee) ของบริษัทฯ ตามที่ผู้ให้สัมภาษณ์ได้ให้ข้อมูล

ดังนั้น ถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์ความว่า "บริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด และกรรมการทั้ง 5 ท่าน เป็นกลุ่มนายทุนจากจังหวัดภูเก็ตเข้าฮุบที่ทะเลสาบสงขลา โดยเจ้าของที่ดินผู้ครอบครองทำประโยชน์ซึ่งเป็นผู้ออก น.ส.3 ก (ทอดที่ 1) และผู้ขายที่ดิน (ทอดที่ 2 ) ให้กับบริษัทฯ เป็นตัวแทน  (Nominee) หรือเป็นคนของบริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด โดยไม่มีการซื้อขายกันจริง ทั้งการออก น.ส.3 ก ทั้ง 11 แปลง เนื้อที่ 750ไร่ ออกโดยปลัดอำเภอเพียงคนเดียวทั้งหมด" จึงไม่ถูกต้องและเป็นความเท็จ สภาพที่ดินขณะที่บริษัทฯ เจรจาซื้อขายไม่มีสภาพเป็นป่าไม้ถาวร ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทำการเกษตรเพาะปลูกสวนปาล์ม และทำนากุ้ง มาเป็นเวลายาวนานหลายสิบปี

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ. ปากพยูน ให้ดำเนินคดีอาญากับ บริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด และกรรมการทั้งหก ต่อมาพนักงานสอบสวนมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี เพราะเหตุว่าเป็นการซื้อขายโดยสุจริต เปิดเผย เสียค่าตอบแทน และมีหลักฐานเป็นเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก ของทางราชการซึ่งออกให้กับราษฎรก่อนที่บริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด จะเข้าเกี่ยวข้องทำการซื้อขาย

บริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด และกรรมการทั้ง 5 ท่าน ซึ่งประกอบด้วย นายพิบูล งานทวี , นายสรรัฐ งานทวี , นายกิจจา งานทวี , นายศักดิ์ชาย งานทวี และนางวจนา ภูคาสวรรค์ (งานทวี) จึงขอเรียนชี้แจงมาเพื่อทำความเข้าใจ และให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนถูกต้องและเป็นธรรม จึงเรียนมาเพื่อประกอบการพิจารณาของท่านผู้ชมและผู้ฟังรายการข่าวดังกล่าว

 

ขอแสดงความนับถือ
คณะกรรมการบริษัทฯ ปาล์มไทยพัฒนา จำกัด
19 ตุลาคม 2561