"ดอกเบี้ยตํ่า" หนุนลงทุน "REIT" !! แนวโน้มออฟฟิศให้เช่ายังแกร่ง พื้นที่ว่าง-ลดค่าเช่าเพิ่ม

07 พ.ย. 2561 | 07:35 น.
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล แนะลงทุนกองอสังหาฯ-REIT เหตุผลตอบแทนดี ความผันผวนตํ่า ชี้! แนวโน้มตลาดออฟฟิศให้เช่าสดใส พร้อมเพิ่มทุนกอง iPROP จาก 8 พันล้าน เป็น 1.5 หมื่นล้าน ลุยลงทุนกองอสังหาฯไทย-สิงคโปร์ ตั้งเป้าผลตอบแทน 5-7%

นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนใน REIT และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในระดับตํ่า เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีความผันผวนค่อนข้างตํ่า โดยข้อมูลจากฝ่ายวิจัย CBRE พบว่า ภาพรวมตลาดออฟฟิศให้เช่าเกรด A และ B ในกรุงเทพฯ ไตรมาส 1 ปรับตัวดีขึ้น ทั้งอัตราพื้นที่ว่างและค่าเช่า

โดยอัตราที่ว่างเฉลี่ยลดลงอยู่ 7.3% และค่าเช่าออฟฟิศทุกระดับเพิ่มขึ้น เช่น ออฟฟิศให้เช่าเกรด A และ B ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เพิ่มขึ้น 3.1% และ 4.1% (ตามลำดับ) เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าปี 2561-2564 จะมี Supply ใหม่เข้าสู่ตลาด 7.67 แสนตารางเมตร ขณะที่ ภาพรวมตลาดค้าปลีก คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและตลาดโรงงานสำเร็จรูป รวมถึงคลังสินค้ามีสัญญาณฟื้นตัว


MP19-3416-A

"เราสามารถเลือกลงทุน REIT เป็นรายตัว ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทน 5-7% ได้ โดยเน้น REIT ที่มีแนวโน้มเติบโตดีและงบดุลแข็งแกร่ง เพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า REIT ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ ได้ขยายลงทุนในต่างประเทศ ทั้งแบบ Freehold หรือ Leasehold ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนในระยะยาว"

ทั้งนี้ คาดการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในสิงคโปร์ ปี 2561-2564 ตลาดออฟฟิศให้เช่าจะได้รับปัจจัยบวกจาก Supply ใหม่ที่ลดลง ส่งผลดีต่อค่าเช่าออฟฟิศใน CBD ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโรงแรมปีนี้ ที่จะมี Supply ใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 753 ยูนิต หรือ 1.1% เท่านั้น จึงคาดว่า ได้ผ่านจุดตํ่าสุดแล้ว รวมถึงตลาดค้าปลีกที่อัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ขณะที่ REIT ในญี่ปุ่นจะได้รับผลดีจากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับตํ่าและการคงมาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นมีเป้าหมายซื้อ J-REIT เพิ่มขึ้น 9 หมื่นล้านเยนในปีนี้

นายต่อ กล่าวว่า ทีมบริหารจัดการแนะนำให้กระจายสัดส่วนลงทุนใน REIT และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลพร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iPROP) ที่มีกลยุทธ์ลงทุนหลักใน REIT และกองทุนอสังหาฯ ในไทยและสิงคโปร์ เพื่อเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 5-7% ต่อปี โดยกองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP ได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 8 พันล้านบาท เป็น 1.5 หมื่นล้านบาท


090861-1927-9-335x503

"ในอนาคตการลงทุนในกองอสังหาฯ และ REIT ยังคาดหวังว่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในอัตรา 5-7% ต่อปี CIMB-PRINCIPAL iPROP จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมในภาวะตลาดหุ้นผันผวน และแนะนำให้ถือลงทุนระยะยาวไม่ตํ่ากว่า 3-5 ปี เชื่อว่ากองทุนนี้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน"


หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3416 ระหว่างวันที่ 8 - 10 พฤศจิกายน 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว