"เบี้ยประกันชีวิต" รับรวม 3 ไตรมาสแรก ปี 61 เติบโต 4.68%
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบี้ยประกันชีวิตรับรวม 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 (เดือน ม.ค. - ก.ย.) มีทั้งสิ้น 461,334 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 4.68% โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ จำนวน 131,774 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป จำนวน 329,560 ล้านบาท และมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 84
โดยเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ ประกอบด้วย (1) เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก จำนวน 69,202 ล้านบาท และ (2) เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว จำนวน 62,572 ล้านบาท
[caption id="attachment_342834" align="aligncenter" width="335"]
นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย[/caption]
สำหรับเบี้ยประกันชีวิตแยกตามช่องทางการจำหน่าย 3 ไตรมาสแรก ปี 2561 เรียงลำดับตามสัดส่วนของเบี้ยประกันภัยรับรวม ได้ดังนี้
อันดับ 1 การขายผ่านธนาคาร มีจำนวน 216,142 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.85 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 5.28
อันดับ 2 การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต มีจำนวน 213,268 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.23 ของเบี้ย รับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 2.50
อันดับ 3 การขายผ่านช่องทางอื่น ๆ มีจำนวน 21,450 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.65 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 31.56
อันดับ 4 การขายผ่านช่องทางการตลาดแบบตรง มีจำนวน 10,473 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.27 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตลดลงร้อยละ 5.08
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาจากช่องทางการขายผ่าน
ทางธนาคาร ด้วยสัดส่วนมากถึงร้อยละ 58.70 คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับ 77,254 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงกลุ่มบุคคลได้มากกว่าช่องทางอื่น ๆ ด้วยภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธนาคาร จึงเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด อย่างไรก็ดี ช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันชีวิตก็ยังคงถือเป็นช่องทางหลักที่สามารถนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนเป็นกรณีเฉพาะ
ทั้งนี้ การเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต ผู้เอาประกันภัยควรมีการตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์ฯ ว่า ตรงกับความต้องการหรือไม่ ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับเงินชั่วคราว และใบเสร็จรับเงินฉบับจริง รวมถึงใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต หรือ นายหน้าประกันชีวิตของผู้เสนอขาย หากข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้ผู้เอาประกันภัยรีบติดต่อกลับทางบริษัทประกันชีวิตทันที
โดยเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ ประกอบด้วย (1) เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก จำนวน 69,202 ล้านบาท และ (2) เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว จำนวน 62,572 ล้านบาท
[caption id="attachment_342834" align="aligncenter" width="335"]
สำหรับเบี้ยประกันชีวิตแยกตามช่องทางการจำหน่าย 3 ไตรมาสแรก ปี 2561 เรียงลำดับตามสัดส่วนของเบี้ยประกันภัยรับรวม ได้ดังนี้
อันดับ 1 การขายผ่านธนาคาร มีจำนวน 216,142 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.85 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 5.28
อันดับ 2 การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต มีจำนวน 213,268 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.23 ของเบี้ย รับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 2.50
อันดับ 3 การขายผ่านช่องทางอื่น ๆ มีจำนวน 21,450 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.65 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตขึ้นร้อยละ 31.56
อันดับ 4 การขายผ่านช่องทางการตลาดแบบตรง มีจำนวน 10,473 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.27 ของเบี้ยรับรวมทั้งหมด หรือ เติบโตลดลงร้อยละ 5.08
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาจากช่องทางการขายผ่าน
ทางธนาคาร ด้วยสัดส่วนมากถึงร้อยละ 58.70 คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับ 77,254 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงกลุ่มบุคคลได้มากกว่าช่องทางอื่น ๆ ด้วยภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธนาคาร จึงเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด อย่างไรก็ดี ช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันชีวิตก็ยังคงถือเป็นช่องทางหลักที่สามารถนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนเป็นกรณีเฉพาะ
ทั้งนี้ การเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต ผู้เอาประกันภัยควรมีการตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์ฯ ว่า ตรงกับความต้องการหรือไม่ ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับเงินชั่วคราว และใบเสร็จรับเงินฉบับจริง รวมถึงใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต หรือ นายหน้าประกันชีวิตของผู้เสนอขาย หากข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้ผู้เอาประกันภัยรีบติดต่อกลับทางบริษัทประกันชีวิตทันที
