'โอ๊ค' ขึ้นศาล! ปฏิเสธคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย

05 พ.ย. 2561 | 09:37 น.
"โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" ขึ้นศาล ให้การปฏิเสธคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ท่ามกลาง "แม่-น้องสาว 2 คน" ให้กำลังใจ ศาลให้ยื่นคำให้การ 14 ธ.ค. นี้ เริ่มตรวจพยานต่อเนื่อง ม.ค. - เม.ย. ปีหน้า

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2561 - นายพานทองแท้ หรือ โอ๊ค ชินวัตร บุตรชายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลย ได้เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อสอบคำให้การจำเลยคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91


ศาลฎีการนักการเมือง

จากกรณีร่วมรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาท เข้าบัญชี ซึ่งเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มี นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวก และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกกลุ่มนายวิชัยกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัยเองก็ยังถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าว ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายพานทองแท้" ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 1 ล้านบาท เดินทางมาพร้อม คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา และ น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็เดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยจำนวนมากมาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาสอบคำให้การ ศาลก็ได้อ่านเเละอธิบายคำฟ้องโดยสรุปให้จำเลยฟัง ซึ่งนายพานทองแท้ก็ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง อ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นที่ได้ร่วมลงทุนกับเพื่อน พร้อมขอส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง

เมื่อศาลสอบถามถึงบัญชีพยาน ฝ่ายอัยการโจทก์เเละฝ่ายจำเลยต่างเสนอบัญชีพยานเอกสาร ฝ่ายละ 8 เเฟ้ม โดยศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้นายพานทองแท้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ และให้คู่ความยื่นพยานเอกสารต่อเจ้าพนักงานคดี พร้อมให้กำหนดประเด็นเเละตรวจดูว่า พยานหลักฐานใดที่สามารถรับกันได้โดยไม่ต้องสืบบ้าง ก็ให้คู่ความเเนบเหตุผลหรือข้อโต้เเย้ง เพื่อรายงานให้ศาลทราบ

ทั้งนี้ ศาลกำหนดนัดตรวจพยานเอกสารหลักฐานต่าง ๆ รวม 4 วัน คือ วันที่ 22 ม.ค., 26 ก.พ., 20 มี.ค. เเละ 29 เม.ย. 2562 ซึ่งศาลได้กำชับคู่ความด้วยว่า ให้ทำตามข้อกำหนดของศาล หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามข้อกำหนดก็ให้ถือว่าไม่ติดใจ ศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานตามที่เสนอ และกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานกับการกำหนดวันไต่สวนพยานอีกครั้งใน วันที่ 25 มิ.ย. 2562 เวลา 10.00 น.

ศาลกำชับว่า ในวันนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 22 ม.ค. จะมีคำสั่งกรณีการขอรวมพิจารณาคดีนี้กับคดีหมายเลขดำ อท.214/2561 ที่พนักงานงานอัยการพิเศษ ได้ยื่นฟ้อง นายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 79 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวกรวม 6 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2561 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้โอนเงินจากการอนุมัติสินเชื่อของ ธ.กรุงไทยฯ ผู้เสียหาย จำนวน 10,400 ล้านบาท โดยคดีนั้นมีมูลเหตุเดียวกันกับคดีของนายพานทองแท้ที่ถูกกล่าวหารับโอนเงินเช็ค จำนวน 10 ล้านบาท

ติดตามฐาน