ไทย-กัมพูชาจับมือพัฒนางานสาธารณสุข 5 เรื่อง

28 ก.พ. 2559 | 05:08 น.
กระทรวงสาธารณสุขไทยจับมือกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา พัฒนางานสาธารณสุข 5 เรื่อง โรคระบาดตามพื้นที่แนวชายแดน เน้นกำจัดโรคมาลาเรียและปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยาของทั้งสองประเทศ พัฒนาศักยภาพบุคลากร พัฒนาระบบบริการสุขภาพ  ระบบส่งต่อ  และการจัดตั้งโรงพยาบาลเมืองพี่เมืองน้อง ในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในโอกาสที่เดินทางไปเยือนกัมพูชา ระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ณ กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา กรุงพนมเปญ  โดยได้หารือทวิภาคีเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุขเพื่อให้เกิดการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาได้เห็นชอบร่วมกันในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะร่วมมือกันจัดทำแผนปฏิบัติการและดำเนินงานในเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ความร่วมมือในการขจัดโรคมาลาเรีย รวมถึงการควบคุมและป้องกันเชื้อมาลาเรียดื้อยา และโรคติดต่ออื่นๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ซึ่งประเทศไทยมีแผนในการกำจัดโรคมาลาเรียให้สำเร็จในปีพ.ศ. 2567 และของกัมพูชามีเป้าหมายให้สำเร็จในปี พ.ศ. 2568

2.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข โดยไทยจะสนับสนุนหลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้นให้กับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขของประเทศกัมพูชา รวมทั้งให้ทุนสำหรับเยาวชนสตรีกัมพูชามาศึกษาพยาบาลในประเทศไทยผ่านโครงการพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา 3.การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ 4.การพัฒนาระบบส่งต่อ และ5.การจัดตั้งโรงพยาบาลเมืองพี่เมืองน้อง (Sister Hospital) ซึ่งจะเริ่มใน 3 จังหวัดก่อน ได้แก่ จังหวัดเกาะกง - จังหวัดตราด, จังหวัดบันเจียเมียนเจย - จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดอุดรมีชัย - จังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศจะมีการหารือร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่ของไทย-กัมพูชา เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ 3ปี สำหรับความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-กัมพูชา ประมาณปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 2559 ซึ่งจะมีการตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ โดยจะมีการติดตามผลทุก 3, 6, 9 และ 12 เดือน และหลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน 2559 จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชามาเยือนไทย เพื่อลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU) ระหว่างกันต่อไป