ตื้น-ลึก-หนา-บาง | ใหญ่ฟัดใหญ่ ศึกชิง "ดิวตี้ฟรี" ยกนี้ไม่ธรรมดา

04 พ.ย. 2561 | 12:53 น.
041161-1930

การเปิดสัมปทานชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (รีเทล) ในสนามบินสุวรรณภูมิและอีก 3 สนามบินหลัก ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ หลัง "คิง เพาเวอร์" เจ้าของสัมปทานเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที 27 กันยายน 2563 กำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนไทย-เทศ ที่จ้องกันตาเป็นมัน เพราะใครได้ไปก็เท่ากับคว้าเหมืองทองคำไปครอง

เพราะสัมปทานครั้งนี้ถือว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ของการท่าฯ รวมพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5.3 หมื่นตารางเมตร และยังไม่นับรวมพื้นที่ใหม่ที่รออัยการตีความอีกส่วนหนึ่ง มูลค่าเบื้องต้นเฉียดหมื่นล้าน เทียบเคียงกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยจะแตะ 40 ล้านคนในปี 2 ปีนี้


20150826101013

เปิด TOR ขายซองสุวรรณภูมิปลายปี
ขั้นตอนล่าสุด "ทอท." กำลังรออัยการตีความว่าจะรวมอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในร่างทีโออาร์ที่จะเปิดให้เอกชนประมูลได้หรือไม่ หากไฟเขียวก็จะเริ่มขบวนการสรรหาภายในปลายปีนี้

ช่วงนี้บรรดาเจ้าสัวหน้าเก่า-หน้าใหม่ รวมถึงบิ๊กดิวตี้ฟรีต่างประเทศ จึงวิ่งกันฝุ่นตลบ และยิ่งเมื่อคิงเพาเวอร์ขาดแม่ทัพใหญ่ "วิชัย ศรีวัฒนประภา" ก็เท่ากับเปิดทางให้ทุนใหม่ที่ต้องการเข้าไปยึดพื้นที่นี้ได้สะดวกโยธินมากยิ่งขึ้น เพราะบางรายถึงเตรียมตัวข้ามปีเพื่อการนี้ อย่าง ดิวตี้ฟรีเลือดเกาหลี ทั้งล็อตเต้และ Shilla Duty free ที่รายแรกเข้าปักหลักซ้อมมืออยู่ที่โชว์ดีซี ย่านพระราม 9 ส่วน Shilla Duty free ได้ร่วมทุนกับคนไทย และเดอะมอลล์ทำดิวตี้ฟรีในเมืองที่ภูเก็ตเป็นการวอร์มอัพเช่นกัน

 

[caption id="attachment_342383" align="aligncenter" width="503"] ©KING POWER ©KING POWER[/caption]

วัดดีกรีร้อนแรงจากอู่ตะเภา
ศึกชิงดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิจะสู้กันดุเดือดแค่ไหน มีใครลงสนามแข่งขัน สิ่งหนึ่งที่วัดได้ก็คือ การเปิดให้เอกชนซื้อซองประมูลดิวตี้ฟรีและรีเทล สนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือที่ผ่านมา และกำหนดให้ยื่นซองในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เป็นตัวชี้วัดได้อย่างดีว่า ทุนไทย-เทศทั้ง 7 รายนี้ จะลงเข้าชิงดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิด้วยแน่


ทุนไทยเกาหลี-สิงคโปร์ พรึบ
ตรวจสอบรายชื่อแล้ว ขาใหญ่มากันครบ ไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์ ค้าปลีกรายใหญ่ที่มีพื้นที่รีเทลสนามบินดอนเมืองอยู่แล้ว, บางกอกแอร์เวย์ส ดูจะด้อยประสบการด้านนี้ แต่ทุนหนาและประมาทไม่ได้ เพราะเคยบริหารมอร์แดนฟรี ดิวตี้ฟรีเล็กในสนามบินอู่ตะเภามาแล้ว ซึ่ง "พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ" เคยพูดไว้ชัดว่า จะหาพันธมิตรต่างชาติมาร่วม, กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป รีเทลใหญ่ก็จับมือกับ เอสเอสพี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเคยบริหารธุรกิจร้านอาหารในสนามบินหลายแห่งในต่างประเทศ และค้าปลีกรายใหญ่อย่าง เซ็นทรัล หลังจากซุ่มเงียบมาพักใหญ่ ก็เปิดไพ่ผนึกกับ DFS สิงคโปร์ ซึ่งบริษัทแม่ก็คือ DFS ยักษ์ใหญ่ดิวตี้ฟรีฮ่องกง ซึ่งขณะนี้การบริหารสนามบินชางงี สิงคโปร์ เข้าร่วมสู้ศึกในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่างานนี้ "คิง เพาเวอร์" ก็ร่วมวงด้วยเช่นกัน โดยซื้อซองทั้งพื้นที่ดิวตี้ฟรีและรีเทล สนามบินอู่ตะเภา "อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" นิวเจนของคิงเพาเวอร์เอง ก็เคยประกาศก่อนหน้านั้นว่า สู้ไม่ถอย ทั้งสนามบินอู่ตะเภาและสนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว กลุ่มซีพี ในนามของเซเว่น-อีเลฟเวน หรือ แฟมิลี่มาร์ท ร้านสะดวกซื้อก็ยังสนใจที่จะเข้าสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินภูมิภาค ที่กรมท่าอากาศยานจะเปิดประมูลหาผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน ซึ่งเท่ากับเกมส์นี้เป็นเรื่องของบิ๊กบอยด์เกมส์เท่านั้น รายย่อยคงหมดสิทธิ์


เอกชนที่ซื้อซอง พื้นที่รีเทล

ผงะ! รายได้คิงเพาเวอร์
อย่างไรก็ดี ตามรายงานงบบัญชีของกลุ่มคิงเพาเวอร์ แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ พบว่า มีรายได้จากการประกอบธุรกิจดิวตี้ฟรี ในปี 2560 รวม 113,247 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,954 ล้านบาท บริษัทที่ทำรายได้มากที่สุด คือ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีในเมือง 3 แห่ง คือ คิงเพาเวอร์ รางน้ำ, ศรีวรา และพัทยา มีรายได้รวม 56,151 ล้านบาท กำไร 3,944 ล้านบาท

รองลงมา คือ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง หาดใหญ่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ มีรายได้รวม 35,633 ล้านบาท กำไร 1,838 ล้านบาท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี รายได้รวม 5,467 ล้านบาท กำไร 248.6 ล้านบาท, คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ รายได้รวม 5,324 ล้านบาท กำไร 1,764 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_342386" align="aligncenter" width="503"] ©KING POWER ©KING POWER[/caption]

ส่วนเหตุที่รายได้จากการขายดิวตี้ฟรีในเมืองมากกว่าในสนามบิน เพราะมีพื้นที่มากกว่า มีการอัดฉีดโปรโมทชันหนัก และส่วนใหญ่จะจับตลาดทัวร์จีนเป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยวเมื่อซื้อสินค้าแล้วสามารถมารับสินค้าที่ได้ที่จุด Pick Up ภายในสนามบินก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

คงมีคำตอบแล้วว่า ทำไม? ธุรกิจ "ดิวตี้ฟรี" จึงเป็นที่จับจ้องของนักลงทุน!!


……………….
คอลัมน์ : ตื้น-ลึก-หนา-บาง โดย เรด ไลอ้อน


 

[caption id="attachment_342361" align="aligncenter" width="246"] ตื้น-ลึก-หนา-บาง | ใหญ่ฟัดใหญ่ ศึกชิง "ดิวตี้ฟรี" ยกนี้ไม่ธรรมดา เพิ่มเพื่อน [/caption]