กรมสรรพสามิตเผยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 พบการกระทำผิด จำนวน 326 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 5.55 ล้านบาท
นางสดศรี พงศ์อุทัย รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต
พ.ศ. 2560 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป จากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2561) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 326 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 5.55 ล้านบาท
นางสดศรี กล่าวต่อไปอีกว่า แยกเป็นสุรา จำนวน 191 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 1.50 ล้านบาท ,ยาสูบ จำนวน 78 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 2.22 ล้านบาท ,ไพ่ จำนวน 8 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.06 ล้านบาท ,น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 8 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.11 ล้านบาท ,รถจักรยานยนต์ จำนวน 28 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 1.02 ล้านบาท ,สินค้าอื่น ๆ จำนวน 13 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 0.64 ล้านบาท โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 1,272.615 ลิตร ยาสูบ จำนวน 3,802 ซอง ,ไพ่ จำนวน 372 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 2,910 ลิตร ,รถจักรยานยนต์ จำนวน 28 คัน