Booking.com หนุนสตาร์ทอัพท่องเที่ยวสร้างแนวคิดธุรกิจยั่งยืน

03 พ.ย. 2561 | 03:27 น.
Booking.com สนับสนุนสตาร์ทอัพแนวคิดใหม่ ด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ร่วมโปรแกรม Booking Booster ปีที่ 3 ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2561 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 2 ล้านยูโร หรือราว 76 ล้านบาท

Booking.com ประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโปรแกรม Booking Booster ปีที่ 3 โปรแกรมเร่งอัตราการเติบโตทางธุรกิจสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน โดยเชิญชวนบริษัทสตาร์ทอัพจากทั่วโลก ร่วมสร้างแนวทางแก้ไขปัญหา นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อขจัดอุปสรรค สร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน พร้อมมอบเงินทุนสนับสนุน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 76 ล้านบาท

©FlorisHeuer "กิลเลี่ยน แทนส์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Booking.com กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 3 ของโปรแกรม Booking.com เชื่อในพลังของเทคโนโลยี ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงการสัมผัสประสบการณ์ทั่วโลกไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ และพร้อมสนับสนุนคลื่นลูกใหม่ ที่จะมาสร้างความแตกต่างและผลลัพธ์ที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมได้

เพื่อช่วยให้ผู้เดินทางได้ออกสำรวจ และสัมผัสประสบการณ์ในจุดหมายต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 143,000 แห่ง Booking.com จึงได้หาหนทางในการรักษาจุดหมายปลายทางให้คงอยู่ในสภาพดีเช่นเดิมต่อไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เพลิดเพลินกับการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ได้ในอนาคต โปรแกรม Booking Booster และโปรแกรมอื่น ๆ อย่าง Booking Cares Fund และ Booking Cares Labs ล้วนมีวัตถุประสงค์เดียวกันกับโปรแกรมอาสาสมัครภายในองค์กรของ Booking.com ซึ่งพนักงานได้ร่วมมือกับหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อทำโปรเจ็กต์ที่จะช่วยพัฒนาจุดหมายต่างๆ ทั่วโลก

ทั้งนี้ การริเริ่มต่างๆ ได้ช่วยขยายขอบเขตพันธกิจของ Booking.com ที่จะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับแวดวงการท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมและโอกาสต่าง ๆ ที่กำลังจะมีขึ้น สามารถเข้าเว็บไซต์ Booking Cares

Backstreet Academy Stone Carving Ajay
ปัจจุบัน หนึ่งในปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการจัดการโดยเร็วที่สุดของการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนก็คือการที่จุดหมายยอดนิยมบางแห่งของโลกนั้นมีผู้เดินทางมากเกินไป โดยปัญหานี้กำลังอยู่ในความสนใจของเมืองต่างๆ อย่างอัมสเตอร์ดัม เวนิส และบาร์เซโลนา รวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพอีกจำนวนมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นจาก 25 ล้านคนในปี 2493 เป็นมากกว่า 1,300 ล้านคนในปี 2560 องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่องปีละ 3.3% จนถึงปี 2573 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 1,800 ล้านคนที่เดินทางข้ามประเทศ

สิ่งสำคัญที่พบจากการสำรวจ Booking.com ก็คือผู้เดินทางส่วนใหญ่เปิดกว้าง รับแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงจุดหมายและวิธีการเดินทาง รวมถึงสิ่งที่ทำระหว่างเข้าพักเพื่อช่วยกระจายผลดีและสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากการเดินทางให้เท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น ผู้เดินทางทั่วโลก 51% ยินดีกับการพักผ่อนนอกเขตใจกลางเมือง หรือเดินทางนอกช่วงเวลาพีคซีซัน 68% ผู้เดินทาง 47% ยินดีที่จะเลือกไปท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ แทนที่จะไปแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และ 54% ของนักท่องเที่ยวพร้อมที่จะอยู่เที่ยวต่อ เพื่อไปเยือนจุดท่องเที่ยวยอื่น ๆ นอกจากพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก

ทั้งหมดนี้ จึงเน้นให้เห็นถึงแนวโน้มสำคัญที่จะเพิ่มนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดนี้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้เดินทางได้ออกสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม ไปเยือนที่ที่ไม่ค่อยมีใครไปมากนัก และช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนของประชากรวัยทำงานทั่วโลก กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน (อายุ 25-54 ปี) ถือเป็น 63% ในขณะที่อัตราส่วนของผู้ชายกลุ่มเดียวกันอยู่ที่ 94% และความแตกต่างด้านรายได้ของผู้หญิงและผู้ชายทั่วโลกในปัจจุบันนี้คือ 23% ดังนั้น ความเท่าเทียมทางเพศและการสนับสนุนผู้หญิง จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และเป็นหัวข้อที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Booking.com โดยขอบเขตในการแก้ไขประเด็นปัญหานี้เห็นได้จากมีบริษัทสตาร์ทอัพทั่วโลกจำนวนมากขึ้นที่ยึดถือแนวคิดและโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่นำเสนอบริการด้านการเดินทางเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้หญิงสร้างรายได้ด้วยตนเอง

Backstreet Academy Wood Carving ตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดี ในยุคที่มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น เพื่อเรียกร้องการแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศผ่านทางนวัตกรรมต่าง ๆ คือโปรแกรม Women on Wheels ของ Sakha Consulting หนึ่งในผู้ชนะรางวัลใหญ่ของโปรแกรม Booster ปี 2561 โดยในอีก 2 ปีนับจากนี้ โปรแกรมนี้จะสร้างรายได้จากการให้บริการด้านการเดินทางให้กับผู้หญิง 1,000 คนที่มีต้นทุนชีวิตจำกัด โดยผู้หญิงเหล่านี้จะได้ประกอบอาชีพคนขับรถ และมีรายได้รวมกันกว่า 2 ล้านยูโรให้กับตนเองและครอบครัว และยังสร้างบริการรับส่งที่ปลอดภัยกว่า 1 ล้านครั้งให้กับผู้หญิงทั่วอินเดีย

จากสถิติที่มีการอ้างอิงอยู่บ่อยครั้ง ของโปรแกรมด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การสหประชาชาติ พบว่ายอดใช้จ่ายในวันหยุดของนักท่องเที่ยวจากประเทศที่พัฒนาแล้วทุก ๆ 100 ดอลลาร์ มีเพียง 5 ดอลลาร์เท่านั้น ที่เป็นรายรับของประเทศ และสร้างประโยชน์ให้จุดหมายกับชุมชนในท้องถิ่น ดังนั้น โอกาสในการสร้างรายได้ของชุมชนท้องถิ่นจากการท่องเที่ยวยังมีอีกมาก

บาร์ไลน์ฐาน ผลการสำรวจของ Booking.com พบว่าผู้เดินทางเกือบ 2 ใน 3 หรือประมาณ 65% กล่าวว่า ต้องการหาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมากกว่าของที่ระลึกทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เดินทางทั่วโลกกว่าครึ่ง (53%) สนใจสัมผัสประสบการณ์ที่จัดขึ้นโดยชุมชนท้องถิ่น หากประสบการณ์นั้นสามารถช่วยลดผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวได้

©FlorisHeuer
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่ามีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากขึ้น ที่ใส่ใจในประเด็นนี้ ได้แก่ Backstreet Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม P2P ด้านการเดินทางที่ใช้การท่องเที่ยวและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน หลังจากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโปแกรม Booster ในปี 2560 บริษัทได้เพิ่มจำนวนผู้ประกอบการรายย่อยที่ร่วมงานกันในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 16% และช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นเพิ่มอีกเกือบ 2 เท่า การเปิดให้ผู้เดินทางได้มีโอกาสพบปะช่างฝีมือด้วยตนเองผ่านทางแพลตฟอร์มนี้ยังช่วยรักษาประเพณี งานฝีมือ และมรดกทางวัฒนธรรมอันประเมินค่าไม่ได้ถึง 213 รายการในปี 2560 และคาดว่าจะมากขึ้นกว่า 240 รายการในปี 2561

ส่วนปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สตาร์ทอัพที่มีแนวคิดริเริ่มใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กำลังหาทางรับมืออยู่ เช่น ปัญหาการเข้าถึงแหล่งน้ำจืดได้อย่างจำกัด ปัญหาขยะพลาสติก และปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้โลกใบนี้จะมีน้ำถึงเกือบ 70% แต่มีเพียง 2.5% เท่านั้นที่เป็นน้ำจืด และส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำแข็ง

Sakha Consulting Women on Wheels 5 ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการใช้น้ำได้เพิ่มขึ้นสูงขึ้นกว่า 2 เท่าของอัตราการเพิ่มประชากรในศตวรรษที่ผ่านมา ดังนั้นสำหรับชุมชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ชุมชนดังกล่าวต้องอาศัยน้ำดื่มเป็นขวด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้านสิ่งแวดล้อมและการดำเนินการ โปรแกรมสิ่งแวดล้อมขององค์การสหประชาชาติระบุว่าในแต่ละปีเราสร้างขยะพลาสติกทั่วโลกราว 300 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณพอๆ กันกับน้ำหนักของประชากรทั้งหมดบนโลก และขยะพลาสติกส่วนใหญ่ ก็จะลงเอยที่แม่น้ำและมหาสมุทรทั่วโลก ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำทั่วโลก เป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศน์ทางน้ำ และสร้างความเสียหายให้กับชายหาดและจุดหมายอื่น ๆ ตามริมชายฝั่ง

Desolenator ผู้ชนะในโปรแกรม Booster ปี 2560 ได้หาทางรับมือกับทั้งปัญหาขาดแคลนน้ำและปัญหาขยะพลาสติกที่มีจำนวนมาก โดยนำเทคโนโลยีล้ำยุคมาผลิตน้ำดื่มสะอาดจากแหล่งทรัพยากรต่าง ๆ โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งในขณะนี้ทีมงานของ Desolenator กำลังเตรียมพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์นำร่องสำคัญในปี 2562 ซึ่งรวมถึงการหาวัสดุอื่นมาใช้แทนขวดน้ำพลาสติกในรีสอร์ทบนเกาะที่ประเทศกัมพูชาเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ในปีแรกของการทดลองนำร่องในกัมพูชานี้ ทีมงาน Desolenator ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโรงแรมได้มากกว่า 33,000 ดอลลาร์ ยกเลิกการใช้ขวดพลาสติกกว่า 30,000 ขวดและลดก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 8 ตัน

สำหรับโปรแกรม Booking Booster ในปี 2562 Booking.com จะคัดเลือกและเชิญบริษัทสตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 10 แห่งที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม และพร้อมที่จะขยายแผนทางธุรกิจเพื่อร่วมโปรแกรมเร่งอัตราการเติบโตทางธุรกิจเป็นเวลา 3 สัปดาห์ที่อัมสเตอร์ดัมในเดือนพฤษภาคม 2562 โดยในโปรแกรมนี้จะมีการบรรยายต่าง ๆ ตลอดจนเวิร์กช้อป เซสชั่นการโค้ชชิ่ง และจบด้วยการนำเสนอผลงาน เพื่อลุ้นรับรางวัลสูงสุด 5 แสนยูโรจากเงินทุนจำนวน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 76 ล้านบาท ของ Booking.com เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในขั้นต่อไป ให้บริษัทสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมได้เติบโตต่อไป

Booking Booster 2018 Group Work ©Floris Heuer

บริษัทสตาร์ทอัพทั้งหมดที่เข้าร่วม จะได้รับการชี้แนะและการโค้ชชิ่งจากผู้เชี่ยวชาญของ Booking.com เป็นเวลา 1 ปีเต็ม และได้รับโอกาสในการเข้าร่วมโปรแกรมริเริ่มและการทดลองนวัตกรรมต่างๆ ของ Booking.com เพื่อช่วยเร่งการเติบโตทางธุรกิจต่อไปในอนาคต

สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพจากทั่วโลกที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรม Booking Booster ปี 2562 สามารถทำการสมัครได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2561 บริษัทสตาร์ทอัพที่สนใจสามารถเข้าไปที่หัวข้อ Booking Booster ในเว็บไซต์ Booking Cares เพื่อดูข้อมูลทั้งหมดและรายละเอียดเพิ่มเติม

595959859