เร่งชงซูเปอร์บอร์ดเคาะแบ่งสัญญาทางคู่เด่นชัยฯต้นปี62
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจรที่จังหวัดพะเยา-เชียงราย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้นำข้อมูลรายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของซึ่งจัดเป็นเส้นทางโลจิสติกส์สายสำคัญในการเดินทางสู่ภาคเหนือและเชื่อมกับประตูการค้าชายแดนที่เชียงแสนและเชียงของที่มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 ระหว่างเชียงของ (ไทย)-ห้วยทราย (สปป.ลาว) รองรับไว้แล้ว
ลุ้นประมูลต้นปี62
รถไฟทางคู่เส้นทางใหม่สายนี้ขั้นตอนการประมูลจะเริ่มขึ้นในปีหน้า ล่าสุดนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด)ร.ฟ.ท. เห็นชอบ ก่อนจะนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดต่อคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (ซูเปอร์บอร์ด) ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เพื่อพิจารณากรณีการแบ่งสัญญาว่าจะให้มีจำนวนสัญญาในโครงการนี้อย่างไรบ้าง มูลค่าแต่ละสัญญามียอดวงเงินจำนวนเท่าไหร่ โดยเฉพาะงานโยธาและงานอุโมงค์จะแบ่งสัญญาออกจากกันหรือไม่ เมื่อได้รายละเอียดก็นำไปกำหนดราคากลางเพื่อระบุไว้ในร่างทีโออาร์ต่อไป
สำหรับปมการเสนอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนนั้นได้เริ่มต้นไปแล้ว โดยนำเสนอกระทรวง คมนาคม เพื่อนำเสนอครม. พิจารณาอนุมัติ ดังนั้นในช่วงนี้สามารถดำเนินการกระบวนการ อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย อาทิ การแบ่งสัญญา จ้างบริษัทที่ปรึกษาร่างทีโออาร์และเตรียมการประกวดราคา จ้างที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง ทั้งนี้เมื่อกระบวนการแล้วเสร็จคาดว่าจะเปิดรับฟังความเห็นเอกสารประกวดราคาและประกาศขายทีโออาร์ได้ในช่วงต้นปี 2562
โครงการนี้มีระยะทาง 323 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด คือ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย ในเบื้องต้นนั้นได้กำหนดกรอบวงเงินงานโยธา 7.2 หมื่นล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประมาณ 1 หมื่นล้านบาท รวมเป็นงบประมาณโครงการ 8.5 หมื่นล้านบาท
ลุ้นแบ่งสัญญาละหมื่นล้าน
ในครั้งนี้ร.ฟ.ท.กำหนดเบื้องต้นนำเสนอกระทรวงคมนาคมและซูเปอร์บอร์ดพิจารณาดำเนินการ 3 สัญญา ได้แก่ ช่วงเด่นชัย-งาว วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 104 กิโลเมตร สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 135 กิโลเมตร และสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 84 กิโลเมตร ทั้งนี้ครม.ให้นำเสนอคณะกรรมการซูเปอร์บอร์ดที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธานพิจารณารายละเอียดการแบ่งสัญญาอีกครั้ง เนื่องจากยังมีงานขุดเจาะอุโมงค์จำนวน 4 แห่งและงานติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณอีกด้วย คาดว่าจะแบ่งออกเป็นสัญญาละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
โดยตลอดเส้นทางมี 26 สถานี ลานขนถ่ายสินค้า 4 แห่ง ลานกองเก็บตู้สินค้า 1 แห่ง ก่อสร้าง อุโมงค์รถไฟ 4 อุโมงค์ ก่อสร้างถนนยกข้ามทางรถไฟ 40 แห่ง และถนนลอดใต้ทางรถไฟ 102 แห่ง ซึ่งโครงการได้รับความเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว
ทั้งนี้ปัจจุบันทางรถไฟในประเทศไทยเร่งดำเนินการผลักดันรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีกจำนวน 7 เส้นทางระยะทางรวม 1,483 กิโลเมตร ได้แก่ ช่วงปากนํ้าโพ-เด่นชัย ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ นอกจากนั้นยังมีเส้นทางสายใหม่อีก 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 678 กิโลเมตร ดำเนินการในปี 2562 ได้แก่ เส้นทางช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ที่คาดว่าจะสามารถเร่งประมูลดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2562 ครบทั้งหมด
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับที่ 3,415 วันที่ 4 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
