"12Tees" เบอร์ 1 ยูนิฟอร์ม! บนแพลตฟอร์มออนไลน์ กับเป้าท้าทายอีก 5 ปี โต 35 เท่า

05 พ.ย. 2561 | 05:12 น.
อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปถูกจัดอยู่ในโหมดของธุรกิจที่เรียกว่า Sunset มาหลายปีแล้ว และเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในสายตาของสถาบันการเงิน แต่ "ป๊อป" พงศ์พันธ์ ขุนเที่ยงธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีมีนาว จำกัด ผู้ผลิตเครื่องแบบ หรือ ชุดยูนิฟอร์ม ภายใต้แบรนด์ "12Tees" หรือ "วันทูทีส์" กลับมองวิกฤตนี้เป็นโอกาส!



POP1

'ป๊อป' เล่าว่า ครอบครัวเป็นผู้ค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในย่านประตูนํ้าและโบ๊เบ๊มากว่า 20 ปี แต่จะเจอปัญหาเมื่อเวลาจะสกรีนเสื้อผ้าก็ต้องส่งงานไปจ้างสกรีนข้างนอก จากประสบการณ์ของธุรกิจภายในครอบครัว ทำให้มองเห็นโอกาสและเกิดแรงบันดาลใจ เมื่อเรียนจบก็อยากทำธุรกิจ บวกกับที่มีฐานความรู้ด้านวิศวะคอมพิวเตอร์ หรือ จบมาทางด้าน MIT จากออสเตรเลีย จึงตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง โดยการรับงานสกรีนผ้าจากพี่สาว โดยสร้างโรงงานสกรีนเสื้อผ้าและออกแบบขึ้นมาเองในย่านท่าพระ เขตธนบุรี จนสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ภายในครอบครัวได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สร้างโปรแกรมออกแบบออนไลน์รายแรก
บริษัท ทีมีนาว จำกัด สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเครื่องแบบ หรือ ชุดยูนิฟอร์ม ที่สามารถเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบครบวงจร มีการยกระดับ พัฒนาแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถออกแบบยูนิฟอร์มได้เอง และผลิตชุดยูนิฟอร์มออกมามีหลากหลาย ทั้งเสื้อยืด, โปโล, เสื้อทีมกีฬา, กระเป๋าผ้า, แจ๊กเกต, หมวก, ผ้ากันเปื้อน และอื่น ๆ

'ป๊อป' ถ่ายทอดมุมมองของตัวเองให้เห็นภาพว่า ตลาดออนไลน์มีศักยภาพสูงขึ้น จึงสร้างโปรแกรมออกแบบออนไลน์เป็นรายแรกของประเทศไทย โดยที่ลูกค้าสามารถออกแบบเสื้อผ้าได้เองตามใจชอบ มีแอพพลิเคชันที่เป็นโปรแกรมออกแบบบนเว็บไซต์ เมื่อลูกค้าเข้าไปที่ www.12tees.com ซึ่งในแพลตฟอร์มจะมีรูปแบบการออกแบบให้ และจะกำหนดตารางขนาดตัวให้ลูกค้าเลือกได้ทุกขนาด จนไปถึงขั้นตอนการชำระเงินผ่านระบบได้เองแบบเบ็ดเสร็จ นับว่าเป็นรายแรกและรายเดียวที่สร้างแพลตฟอร์มออกแบบและสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้ทันที นับเป็นจุดขายหลักของแบรนด์ "12Tees"


Print

ปัจจุบัน ลักษณะธุรกิจจะเน้น 2 ส่วน คือ รับออกแบบและผลิตในรูปของโออีเอ็มโดยลูกค้า และผลิตโดยใช้แบรนด์ "12Tees" ที่ปัจจุบันผลิตและออกแบบเพื่อจำหน่ายในประเทศ 90% และส่งออก 10% ซึ่งการแข่งขันภายในประเทศยังไม่รุนแรง เพราะเป็นรายเดียวที่มีแพลตฟอร์มสมบูรณ์ที่สุด และยังไม่มีแพลตฟอร์มที่สั่งผลิตผ่านออนไลน์ ขณะที่ คู่แข่งในต่างประเทศยังไม่มีใครออกแบบได้ทั้งตัวแบบ "12Tees" ที่ออกแบบได้ตั้งแต่ปก แขน สาปเสื้อ และรูปแบบการตัดต่อ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีฐานลูกค้ารวมทั้งหมดใน-นอกประเทศมากถึง 30,000 ราย ที่ส่วนใหญ่จะสั่งยูนิฟอร์มภายใต้แบรนด์ "12Tees"


เป้าหมายในอนาคต
นอกจากนี้ 'ป๊อป' ยังมีแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบัน มีฐานลูกค้าแล้วในออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา หลังจากที่นำแพลตฟอร์มกระจายไปยังฐานลูกค้าในต่างประเทศตั้งแต่เมื่อต้นปี 2561 ซึ่งได้รับการขานรับดีมาก โดยเฉพาะฐานลูกค้าที่ออสเตรเลีย ที่มีลูกค้าเข้ามาแล้วมากกว่า 100 ราย เข้ามาเป็นลูกค้าโดยใช้แบรนด์ "12Tees" สั่งซื้อเสื้อโปโล ดีไซน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ และเป้าหมายต่อไปจะโฟกัสไปที่ตลาดอเมริกาให้มากขึ้น

นอกจากนี้ 'ป๊อป' ยังตั้งเป้าอีกว่า ภายในปี 2562 สัดส่วนฐานลูกค้าจะเปลี่ยนไป โดยตลาดในประเทศและตลาดส่งออกจะมีสัดส่วนตลาดละ 50% เท่ากัน

"ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะเราสามารถตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้ครอบคลุม ยกตัวอย่าง สิ่งที่เรามีให้แต่ในประเทศเขาไม่มี เช่น ความได้เปรียบในแง่ที่ออสเตรเลีย อเมริกา เวลาสั่งตัดเสื้อผ้าจะยาก เพราะไม่มีคนตัดเย็บ และถ้ามีราคาก็จะสูงมาก เสื้อโปโลจะอยู่ที่ 700-800 บาทต่อตัว เปรียบเทียบเมื่อสั่งยูนิฟอร์มจาก www.12tees.com ผ่านแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้เองจะได้ ทั้ง "ถูกใจ" และได้ "ราคาถูก" ที่ตัวละประมาณ 200-400 บาท หรือ ถ้ารวมค่าขนส่งไปด้วยราคาก็ไม่เกิน 500 บาทต่อตัว โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องสั่งออร์เดอร์ตั้งแต่ 30 ตัวขึ้นไป"

ส่วนราคาในไทย เสื้อยืดอยู่ที่ 100 บาทต่อตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องสั่งขั้นตํ่า 30 ตัวขึ้นไป เสื้อโปโล 200 บาทต่อตัว และถ้ามียอดสั่งซื้อเกิน 8,000 บาท ก็จะมีบริการส่งฟรีถึงปลายทาง


ต้นแบบ SMEs สู่ค้าออนไลน์
สำหรับสิ่งที่ลูกค้าได้รับ 'ป๊อป' บอกว่า เป็นการมอบสิ่งที่ดีให้ลูกค้าอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะจะได้รับทั้งสินค้าราคาถูก ที่สามารถออกแบบเองได้ตามที่ต้องการ ยังไม่รวมถึงความสะดวกสบายจากการสั่งสินค้าทางออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 ยอดขายของบริษัทจะอยู่ที่ 150 ล้านบาท และอีก 5 ปีนับจากนี้ไป ตั้งใจว่าจะมียอดขายเติบโตประมาณ 35 เท่า หรือ มีรายได้เติบโตราว 3,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2561 ที่มียอดขายที่ 150 ล้านบาท

'ป๊อป' ทิ้งท้ายถึงความสำเร็จและหลักคิดในการทำธุรกิจ ว่า นอกจากมีฐานลูกค้าที่เติบโตต่อเนื่องแล้ว อีกเครื่องหมายที่การันตีได้ว่า ธุรกิจเดินมาสู่ความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว คือ การยอมรับจากบิ๊กกลุ่มทุนการ์เมนต์รายหนึ่ง ที่เข้ามาทาบทามจะร่วมทุนด้วย เพื่อขยายธุรกิจและร่วมกันขยายฐานตลาดไปยังต่างประเทศ หลังจากที่ทุนรายนี้พอใจกับแพลตฟอร์มออนไลน์ 12Tees ซึ่งขณะนี้ ยังไม่พร้อมเปิดเผยชื่อ เพราะยังอยู่ระหว่างดูความเป็นไปได้ร่วมกันอยู่ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง ทั้งจากหน่วยงานรัฐและเอกชน เข้ามาสั่งผลิตยูนิฟอร์มจากแบรนด์ "12Tees" เช่น แอร์เอเชีย, ยอร์ค, ปตท., การประปานครหลวง, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และกรมทางหลวง เป็นต้น

ส่วนหลักคิดในการดำเนินธุรกิจนั้น ตลอดมาจะยึดหลักของ "รัชกาลที่ 9" ตรงคำสอนที่ว่า "คิดจะทำการงานใดเราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเราเอง และไม่หยุดพัฒนาธุรกิจ" ทำให้ทุกวันนี้กิจการเติบโตต่อเนื่อง จนมีรูปแบบการปรับตัวที่พัฒนาออกมาแล้วไม่เหมือนใคร และสามารถขยายฐานการตลาดได้กว้างขึ้นจากการยอมรับของลูกค้า


เรื่องโดย : งามตา สืบเชื้อวงค์

หน้า 13 ฉบับที่ 3415 ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2561



595959859