EPCO เพิ่มทุนขาย RO-แจกวอร์แรนต์ รองรับแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม-ธุรกิจสิ่งพิมพ์

01 พ.ย. 2561 | 07:01 น.
ผู้ถือหุ้น EPCO อนุมัติแผนเพิ่มทุนขาย RO ในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท พ่วงแจกวอร์แรนต์ฟรี กำหนดจองซื้อระหว่าง 26-30 พ.ย. นี้ รองรับแผนลงทุนบิ๊กโปรเจค 2 โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 100 MW และรองรับการเข้าซื้อโรงพิมพ์สื่อยักษ์ใหญ่ หวังผงาดเจ้าพ่อสิ่งพิมพ์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย ดันรายได้-กำไรติดปีก

 

[caption id="attachment_340803" align="aligncenter" width="307"] ยุทธ ชินสุภัคกุล ยุทธ ชินสุภัคกุล[/caption]

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา อนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 836,030,770 บาท เป็น 1,045,038,462 บาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 209,007,692 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นจำนวน 104,503,846 หุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอต่อการขยายงานในอนาคต และรองรับการลงทุนของบริษัทและบริษัทย่อย กำหนดจองซื้อและรับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนวันที่ 26–30 พ.ย. 2561

ส่วนที่เหลือรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (EPCO-W3) จำนวน 104,503,846 หน่วย ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญใหม่ : 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่าและกำหนดราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญในราคาหุ้นละ 5 บาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าของ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO ที่มีแผนลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ จ.ฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 100 เมกะวัตต์ โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ให้กับ Electricity of Vietnam (EVN) อัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed inTariff หรือ FIT) ที่ 0.0935 ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปี มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อหุ้นในบริษัทแห่งหนึ่งที่ประกอบธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีงานพิมพ์ประจำอยู่แล้ว และเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้เปลี่ยนไปใช้ e-Commerce มากขึ้นหลายเท่าตัว โดยบริษัทฯ จึงจะใช้สถานที่ของโรงพิมพ์ดังกล่าวขยายไปยังการผลิตกล่องลูกฟูก ซึ่งผู้บริหารของบริษัทมี ประสบการณ์มากว่า 20 ปี ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล (Due Diligent) ของกิจการทั้งหมดอยู่ รวมทั้งอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน

"ผมมั่นใจว่า แผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าและการขยายธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ของ EPCO ในครั้งนี้ จะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงธุรกิจ และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ที่มีความมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต"


บาร์ไลน์ฐาน