NIA ชี้! 3 สินค้านวัตกรรม เสี่ยงภัยโดนก็อป

30 ต.ค. 2561 | 07:10 น.
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เผย 3 นวัตกรรมกลุ่มอาหาร กลุ่มไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง เสี่ยงโดนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แนะใช้ MIND CREDIT ป้องกัน

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า สินค้าและบริการทางนวัตกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง ประกอบด้วย สินค้านวัตกรรมกลุ่มอาหาร เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผลิตได้ง่าย สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย จึงอาจทำให้ผู้ซื้อละเลย สับสน หรือ เกิดความเข้าใจในตัวสินค้านวัตกรรมที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะความเหมือนหรือคล้ายคลึงของบรรจุภัณฑ์ ชื่อทางการค้าและตราสินค้า ส่วนผสม คำโฆษณาชวนเชื่อ ช่องทางและรูปแบบการออกจำหน่าย โดยสินค้าที่มักถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปรุงอาหาร ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม และอาหารพร้อมรับประทาน


thumbnail_ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์

สินค้าและบริการนวัตกรรมในกลุ่มไอที อิเล็กทรอนิกส์ จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของโลก หรือ Digital Disruption เป็นเหตุให้ชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก ต้องพึ่งพาสินค้าหรือการบริการที่มีความทันสมัยและไวต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสาร การค้นหาข้อมูล ความบันเทิง ความสะดวกสบาย เป็นผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางนวัตกรรมที่สอดคล้องกับกิจกรรมเหล่านี้ตามมาอย่างมากมาย และยังทำให้มูลค่าในตลาดสินค้านวัตกรรมเหล่านี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดการอาศัยช่องทางต่าง ๆ ผลิตสินค้าออกมาเลียนแบบสินค้าเดิมที่มีอยู่ในตลาดหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ ระบบซอฟต์แวร์ โปรแกรมต่าง ๆ ในคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร รวมไปถึงการดาวน์โหลดสื่อบันเทิงประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังคงมีปริมาณสูงตามมูลค่าการตลาดเช่นเดียวกัน

และสินค้านวัตกรรมในกลุ่มเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นสินค้าที่กำลังมีอิทธิพลและเข้าสู่การเป็นปัจจัยที่ 5 ในหลาย ๆ กลุ่มผู้บริโภค โดยในปัจจุบันพบว่า มีผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจและผลิตสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งตลาดสินค้าที่สามารถสร้างเม็ดเงินได้สูงในทุก ๆ ปี แต่อย่างไรก็ตาม การมีสินค้าประเภทดังกล่าวจำนวนมาก นับเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการเลียนแบบสินค้าตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะการทำซ้ำและการดัดแปลง ทั้งชื่อและตราสินค้า บรรจุภัณฑ์ ลักษณะทางกายภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังสามารถพบเห็นได้บนช่องทางการขายทั่วไป พร้อมทั้งกลายเป็นเรื่องที่ปกติไปแล้วอีกด้วย


thumbnail_ภาพประกอบ 5

"ปัจจุบันสินค้าและการบริการที่มีนวัตกรรมเกี่ยวข้อง เมื่อถูกนำออกสู่ตลาดหรือวางจำหน่าย กำลังประสบปัญหาการถูกลอกเลียนในระดับที่ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็น การทำซ้ำ การดัดแปลง การตกแต่ง ทำให้การเติบโตของสินค้าและบริการในตลาดนวัตกรรมมีวงจรที่สั้น ไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่นัก จากอุปสรรคดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีแนวทางป้องกันด้วยการ "คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา" ให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เพื่อจูงใจให้เกิดการสร้างสรรค์และการคิดค้นนวัตกรรม พร้อมช่วยให้ผลิตภาพทางการผลิตหรือทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น"

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อไปอีกว่า ภายใต้การดำเนินงานของ NIA มีกลไกสนับสนุนด้านการเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรม รวมถึงด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยกลไกที่ชื่อว่า "MIND CREDIT (มายด์ เครดิต)" ซึ่งจะทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงคำปรึกษาด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะเน้นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความพร้อมให้เกิดขึ้นในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร/เครื่องหมายการค้าในประเทศไทยและต่างประเทศ


thumbnail_Mind Credit 6

นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาด้านสัญญาและการเจรจาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา การให้คำปรึกษา/การสืบค้นงานที่ปรากฏอยู่แล้วเกี่ยวกับการประดิษฐ์ การจดแจ้งลิขสิทธิ์ คำปรึกษา/ประเมินความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิบัตรของบุคคลอื่น ซึ่งจะให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบธุรกิจนวัตกรรมตั้งแต่สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ โดยมีทุนสนับสนุนค่าบริการที่ปรึกษาสูงสุด 1 ล้านบาทต่อ 1 โครงการ รวมถึงยังมีการให้คำปรึกษาในด้านที่สำคัญต่อการประกอบธุรกิจนวัตกรรมอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขากฎหมายธุรกิจและการขึ้นทะเบียน/การขอใบอนุญาตจากภาครัฐ สาขาการเงิน/บัญชี และการลงทุน และสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับอุตสาหกรรม 4.0 อีกด้วย


e-book-1-503x62-7