บิ๊กบอส "CI" สร้างอาณาจักร Holistic Marketing Agency
การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ กับการสร้างธุรกิจให้เป็นจริง ทักษะสำคัญ คือ "ความกล้าและชอบความท้าทาย" ซึ่ง "ญาณกร อภิราชกมล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ ซีไอ กรุ๊ป มีอย่างเปี่ยมล้น
ความท้าทายใหม่ ๆ ทำให้ "ญาณกร" กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ กล้าที่จะคิดนอกกรอบ จากงานแรกหลังจบการศึกษา เขาลงทุนเปิดนิตยสารของตัวเองชื่อ "The Town" นิตยสารเกี่ยวกับกรุงเทพ ที่ออกมาพร้อม ๆ กับนิตยสาร Hamburger แต่ความไม่ชำนาญ ทำให้ต้องปิดตัวไป แต่เขาก็ยังพร้อมเริ่มต้นใหม่ ด้วยการเข้าไปรับงานอีเวนต์ของภาครัฐ
ระหว่างรับงานอีเวนต์จากภาครัฐ นักบริหารคนนี้ก็พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น สู่โปรโมเตอร์ Music Festival แต่เมื่อจะทำ ก็ต้องเลือกหาโลเกชันใหม่ นั่นจึงทำให้เกิด Samed in Love Music Festival ขึ้น เป็นการลองผิดลองถูก และมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ตามมาที่สวนผึ้ง ในเดือน พ.ย. ไซซ์ใหญ่ขึ้นชื่อว่า "Season of Love Song"
ยุคนั้นสวนผึ้งกำลังมา ประกอบกับ FaceBook กำลังมาได้ 3-4 ปี คนเริ่มใช้มากขึ้น FaceBook เป็นเครื่องมือใน
การโปรโมตที่ดี
"งานนั้นท้าทายมาก เพราะชนกับคอนเสิร์ตใหญ่ของบอดี้สแลม ที่จัดที่ราชมังคลาฯ ซึ่งทุกคนก็กังวลว่าคนจะ
มาสวนผึ้งเหรอ สุดท้ายแล้ว คนก็มาประมาณ 25,000 คน ถือว่าเกินความคาดหวังของเรามาก ๆ"
ความท้าทายของการเป็นโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต คือ ทำอย่างไรจึงจะเรียกคนดูให้เดินทางมาร่วมงานได้ อย่าง งาน Samed in Love Music Festival กว่าบัตรจะ Sold Out คือ ปีที่ 3 โดยต้องปรับรูปแบบคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ จากเดิมที่เคยจัดในช่วง ก.พ. - มี.ค. ก็ย้ายมาจัดช่วงโลว์ซีซัน คือ ปลาย พ.ค. ต้น มิ.ย. หลังจากปีนั้น งาน Samed in Love ก็เป็น Agenda ของชุมชนผู้ประกอบการบนเกาะ จากปกติช่วงโลว์รายได้จะมีเพียง 25% แต่เมื่อมีการจัดงาน Music Festival รายได้เขาจะเพิ่มสูงขึ้นมาก ที่พักโรงแรมถูกจองเต็มหมดในราคาไฮต์ซีซัน บัตรก็ Sold Out ทุกปี
"เราเคยทำเซอร์เวย์คนขับสองแถวบนเกาะเสม็ด แค่ช่วงวันงาน 1 วัน จะมีรายได้เกือบ 2 หมื่นบาท ซึ่งเราก็ว่าเป็นเรื่องที่ดี มันไม่ใช่ว่าแค่เราสำเร็จ แต่เราสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้จริง ๆ"
"ญาณกร" บอกว่า การจัด Music Festival ความท้าทายอยู่ที่ว่า เราสามารถเข้าใจและทำให้คนหมื่นคน รวมถึงสปอนเซอร์ หรือแม้กระทั่งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ และเราดูแลได้ทั่วถึงแค่ไหน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องวินัย เป็นเรื่องแผนที่เราจะต้องจัดสรรกับทีมงาน เพราะมันไม่มีใครเดินมาบอกว่า ต้องทำอันนี้ ไม่ต้องทำอันนี้
ความที่เป็นมนุษย์ช่างคิดและวิเคราะห์การตลาด ผู้บริหารคนนี้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง เขาจึงเตรียมความพร้อมและปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อให้ธุรกิจของเขาเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน ซีไอ กรุ๊ป แตก Business Unit ออกมา โดยตอนนี้วาง Position ตัวเองเป็น Holistic Marketing Agency ที่มี 4 บิสิเนสยูนิต ได้แก่ CI D, CI S, CI M, CI O Digital, Strategy, Media, Operation โดยงานทั้ง 4 ฝ่าย จะเชื่อมโยงและเอื้อซึ่งกันและกัน รับงานทั้งส่วนงานรับจ้างและการผลิตโปรดักต์
"เรามองว่า เราเป็นเอกชน ที่สามารถเชื่อมราชการได้ เชื่อมเอกชนได้ เชื่อมกลุ่มผู้ประกอบการได้ และภาคธุรกิจใหญ่ ๆ เข้ามาซัพพอร์ตให้มันเกิดขึ้น บางอย่างเรารับจ้างภาครัฐ ภาคเอกชน แล้วเอามาต่อยอดเพื่อเป็นองค์ความรู้ให้ลูกค้า"
"ญาณกร" นำบิ๊กดาต้าที่เขาเก็บข้อมูลจากโน้นนี่นั่นมาต่อยอด ด้วยวิธีการทำงานแบบบูรณาการ "บิสิเนส ยูนิต" เริ่มต้นจากต้นนํ้า แล้วทำให้ซัพพอร์ตไปถึงปลายนํ้า โดยดูความเป็นไปได้ทั้งตลาด
การที่ผู้บริหารนักการตลาดคนนี้ลุกขึ้นปรับโครงสร้างองค์กร เพราะเขาเล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง รูปแบบคอนเสิร์ตเปลี่ยน Music Festival มีความเป็น Nitch Market ขึ้นเรื่อย ๆ ... เราควรจะปรับโครงสร้างเพื่อไปยืนรอในทิศทางที่มันสามารถกระจายรายได้ไปในองค์กร ถ้ามัวแต่ทำอีเวนต์อย่างเดียว รายได้มันแค่พอเลี้ยงคนได้ แต่ไม่ได้ทำกำไรมากมายให้องค์กร
หลักในการมองและคิดแผนธุรกิจ "ญาณกร" บอกว่า เขาใช้การตลาดเป็นตัวนำ
"เพราะทุก ๆ คน อยู่ภายใต้ห่วงโซ่ของ Marketing ทำไมคนเราถึงใส่เสื้อแบบนี้ ตัดผมแบบนี้ ใช้โทรศัพท์แบบนี้ เดินทางแบบนี้ ผมว่า ทุกคนถูก Marketing ใส่เข้าไปในตัวตลอดเวลา ปฏิเสธไม่ได้"
นอกจากการตลาดที่ชี้นำทิศทางธุรกิจแล้ว การเรียนรู้หน้างาน การสร้างสมประสบการณ์ ลองผิดลองถูก และพร้อมปรับตัวเสมอ ทำให้ผู้บริหารคนนี้สามารถพัฒนาองค์กรให้เติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ และยังมีเส้นทางเดินใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเสมอ
หน้า 26-27 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3414 วันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน 2561
ความท้าทายใหม่ ๆ ทำให้ "ญาณกร" กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ กล้าที่จะคิดนอกกรอบ จากงานแรกหลังจบการศึกษา เขาลงทุนเปิดนิตยสารของตัวเองชื่อ "The Town" นิตยสารเกี่ยวกับกรุงเทพ ที่ออกมาพร้อม ๆ กับนิตยสาร Hamburger แต่ความไม่ชำนาญ ทำให้ต้องปิดตัวไป แต่เขาก็ยังพร้อมเริ่มต้นใหม่ ด้วยการเข้าไปรับงานอีเวนต์ของภาครัฐ
ระหว่างรับงานอีเวนต์จากภาครัฐ นักบริหารคนนี้ก็พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น สู่โปรโมเตอร์ Music Festival แต่เมื่อจะทำ ก็ต้องเลือกหาโลเกชันใหม่ นั่นจึงทำให้เกิด Samed in Love Music Festival ขึ้น เป็นการลองผิดลองถูก และมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ตามมาที่สวนผึ้ง ในเดือน พ.ย. ไซซ์ใหญ่ขึ้นชื่อว่า "Season of Love Song"
ยุคนั้นสวนผึ้งกำลังมา ประกอบกับ FaceBook กำลังมาได้ 3-4 ปี คนเริ่มใช้มากขึ้น FaceBook เป็นเครื่องมือใน
การโปรโมตที่ดี
"งานนั้นท้าทายมาก เพราะชนกับคอนเสิร์ตใหญ่ของบอดี้สแลม ที่จัดที่ราชมังคลาฯ ซึ่งทุกคนก็กังวลว่าคนจะ
มาสวนผึ้งเหรอ สุดท้ายแล้ว คนก็มาประมาณ 25,000 คน ถือว่าเกินความคาดหวังของเรามาก ๆ"
ความท้าทายของการเป็นโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต คือ ทำอย่างไรจึงจะเรียกคนดูให้เดินทางมาร่วมงานได้ อย่าง งาน Samed in Love Music Festival กว่าบัตรจะ Sold Out คือ ปีที่ 3 โดยต้องปรับรูปแบบคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ จากเดิมที่เคยจัดในช่วง ก.พ. - มี.ค. ก็ย้ายมาจัดช่วงโลว์ซีซัน คือ ปลาย พ.ค. ต้น มิ.ย. หลังจากปีนั้น งาน Samed in Love ก็เป็น Agenda ของชุมชนผู้ประกอบการบนเกาะ จากปกติช่วงโลว์รายได้จะมีเพียง 25% แต่เมื่อมีการจัดงาน Music Festival รายได้เขาจะเพิ่มสูงขึ้นมาก ที่พักโรงแรมถูกจองเต็มหมดในราคาไฮต์ซีซัน บัตรก็ Sold Out ทุกปี
"เราเคยทำเซอร์เวย์คนขับสองแถวบนเกาะเสม็ด แค่ช่วงวันงาน 1 วัน จะมีรายได้เกือบ 2 หมื่นบาท ซึ่งเราก็ว่าเป็นเรื่องที่ดี มันไม่ใช่ว่าแค่เราสำเร็จ แต่เราสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้จริง ๆ"
"ญาณกร" บอกว่า การจัด Music Festival ความท้าทายอยู่ที่ว่า เราสามารถเข้าใจและทำให้คนหมื่นคน รวมถึงสปอนเซอร์ หรือแม้กระทั่งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ และเราดูแลได้ทั่วถึงแค่ไหน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องวินัย เป็นเรื่องแผนที่เราจะต้องจัดสรรกับทีมงาน เพราะมันไม่มีใครเดินมาบอกว่า ต้องทำอันนี้ ไม่ต้องทำอันนี้
ความที่เป็นมนุษย์ช่างคิดและวิเคราะห์การตลาด ผู้บริหารคนนี้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง เขาจึงเตรียมความพร้อมและปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อให้ธุรกิจของเขาเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน ซีไอ กรุ๊ป แตก Business Unit ออกมา โดยตอนนี้วาง Position ตัวเองเป็น Holistic Marketing Agency ที่มี 4 บิสิเนสยูนิต ได้แก่ CI D, CI S, CI M, CI O Digital, Strategy, Media, Operation โดยงานทั้ง 4 ฝ่าย จะเชื่อมโยงและเอื้อซึ่งกันและกัน รับงานทั้งส่วนงานรับจ้างและการผลิตโปรดักต์
"เรามองว่า เราเป็นเอกชน ที่สามารถเชื่อมราชการได้ เชื่อมเอกชนได้ เชื่อมกลุ่มผู้ประกอบการได้ และภาคธุรกิจใหญ่ ๆ เข้ามาซัพพอร์ตให้มันเกิดขึ้น บางอย่างเรารับจ้างภาครัฐ ภาคเอกชน แล้วเอามาต่อยอดเพื่อเป็นองค์ความรู้ให้ลูกค้า"
"ญาณกร" นำบิ๊กดาต้าที่เขาเก็บข้อมูลจากโน้นนี่นั่นมาต่อยอด ด้วยวิธีการทำงานแบบบูรณาการ "บิสิเนส ยูนิต" เริ่มต้นจากต้นนํ้า แล้วทำให้ซัพพอร์ตไปถึงปลายนํ้า โดยดูความเป็นไปได้ทั้งตลาด
การที่ผู้บริหารนักการตลาดคนนี้ลุกขึ้นปรับโครงสร้างองค์กร เพราะเขาเล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง รูปแบบคอนเสิร์ตเปลี่ยน Music Festival มีความเป็น Nitch Market ขึ้นเรื่อย ๆ ... เราควรจะปรับโครงสร้างเพื่อไปยืนรอในทิศทางที่มันสามารถกระจายรายได้ไปในองค์กร ถ้ามัวแต่ทำอีเวนต์อย่างเดียว รายได้มันแค่พอเลี้ยงคนได้ แต่ไม่ได้ทำกำไรมากมายให้องค์กร
หลักในการมองและคิดแผนธุรกิจ "ญาณกร" บอกว่า เขาใช้การตลาดเป็นตัวนำ
"เพราะทุก ๆ คน อยู่ภายใต้ห่วงโซ่ของ Marketing ทำไมคนเราถึงใส่เสื้อแบบนี้ ตัดผมแบบนี้ ใช้โทรศัพท์แบบนี้ เดินทางแบบนี้ ผมว่า ทุกคนถูก Marketing ใส่เข้าไปในตัวตลอดเวลา ปฏิเสธไม่ได้"
นอกจากการตลาดที่ชี้นำทิศทางธุรกิจแล้ว การเรียนรู้หน้างาน การสร้างสมประสบการณ์ ลองผิดลองถูก และพร้อมปรับตัวเสมอ ทำให้ผู้บริหารคนนี้สามารถพัฒนาองค์กรให้เติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ และยังมีเส้นทางเดินใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเสมอ
หน้า 26-27 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3414 วันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน 2561
