เจ้าถิ่นแปดริ้วชน‘บิ๊กทุน’ทำเลมอเตอร์เวย์-บางปะกงคึกผุดแล้ว51โครงการ

08 พ.ย. 2561 | 07:57 น.
เจ้าถิ่น อีอีซี “วิจิตรากรุ๊ป” เดินหน้าลุยที่อยู่อาศัย ยึดแปดริ้วเป็นเรือธง ผุดเกิน 10 โครงการ เผยถนนเส้นหลักมอเตอร์เวย์ มุ่งตัวเมืองรายใหญ่สู้ศึกคัก 51โครงการ กว่า 1.2 หมื่นหน่วยคาดอีก 2 ปี ราคาบ้านพุ่งขึ้น 35%

ตามที่รัฐบาลมุ่งเน้นให้ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี หนึ่งในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รองรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุด บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ เข้าปักหมุดขึ้นโครงการกันอย่างคึกคัก

นายสืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิจิตรากรุ๊ป จำกัด ผู้นำอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในภาคตะวันออก เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดฉะเชิงเทรามีความคึกคักเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งด้านซัพพลายและดีมานด์ ซึ่งมาจากการเดินหน้าพัฒนาพื้นที่อีอีซีของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเกิดขึ้นของนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์, นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้, นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 304 ทั้งในอนาคตยังจะได้อานิสงส์จากแผนพัฒนาพื้นที่สีม่วง 4 พันไร่ บางนํ้าเปรี้ยวของกลุ่มทุนใหญ่ ที่อาจมีมูลค่านับ 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ที่ผ่านมาแค่เฉพาะในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ช่วงถนนมอเตอร์เวย์อำเภอบางปะกง วิ่งตรงถนนหมายเลข 314 มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง-โรบินสัน ตลอด 2 ฝั่งริมถนน มีการสะสมแลนด์แบงก์ และมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นมาแล้วถึง 51 โครงการ  12,400 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท

[caption id="attachment_339685" align="aligncenter" width="503"] สืบวงษ์ สุขะมงคล สืบวงษ์ สุขะมงคล[/caption]

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรดักต์กลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 55% ในระดับราคา 3-5 ล้านบาทเป็นหลัก รองลงมาคือกลุ่มทาวน์เฮาส์ 37% และอาคารชุด-อาคารพาณิชย์ 8% ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากบริษัทรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ามาพัฒนามากขึ้น เป็นสัดส่วนถึง 40% จากอดีตที่เป็นกลุ่มผู้พัฒนาท้องถิ่นเป็นหลัก ส่วนราคาที่ดิน มีการซื้อ-ขายกันในราคา 10-30 ล้านบาทต่อไร่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 20% นับเริ่มตั้งแต่รัฐลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมหลายแห่ง ทั้งสนามบินเฟส 2, การก่อสร้างทางยกระดับ และพัฒนาพื้นที่อีอีซี โดยดีมานด์ส่วนใหญ่แม้จะเป็นคนในท้องถิ่นมากถึง 65% แต่ดีมานด์จากคนต่างถิ่น ที่เข้ามาหาซื้อบ้านในฉะเชิงเทรากลับพบมีมากขึ้นเช่นกัน อยู่ที่ 25-30% คาดมาจากการขยับขยายจากบ้านที่มีราคาแพงในกรุงเทพฯมายังจังหวัดใกล้เคียงและมีศักยภาพเพิ่มขึ้น

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทพัฒนาโครงการในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราแล้วรวม 10 โครงการ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการหมู่บ้านจัดสรร มารวยโสธร 4 จำนวน 150 หน่วย ที่ขณะนี้มียอดขายแล้วมากกว่า 60% จากมูลค่ารวม 500 ล้านบาท และเพิ่งเปิดขายโครงการบ้านหรู มารวยริเวอร์ไซด์เฟส 2 ใกล้ริมแม่นํ้าบางปะกง ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

“ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดที่มีโอกาสการเติบโตสูงในอนาคต  เวลานี้ รอเพียงการลงทุนของภาครัฐอย่างเต็มที่  บริษัทรายใหญ่มา ก็เข้ามาเติมเต็มดีมานด์ ส่งผลตลาดโตขึ้นอีก พร้อมคาดจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะจากแหล่งงาน 4 นิคมอุตสาหกรรม จะทำให้ภายใน 2 ปี ราคาบ้านจะแพงขึ้น 35% ขณะเดียวกัน อาจได้เห็นคอนโดฯ เกิดมากขึ้น แทนที่หอพัก ที่ปัจจุบันบางทำเลกระจุกตัวมาก กว่า 1 หมื่นหน่วย ตอบรับดีมานด์คนงาน อย่างไรก็ตาม ไม่กังวล เพราะ รายเจ้าถิ่นยังได้เปรียบในแง่ต้นทุนที่ดินที่ถูกกว่ามากโปรดักต์ ถูกกว่ารายใหญ่ที่ขาย 4-5 ล้านบาท ส่งผลทำให้กำไรมากขึ้นด้วยซํ้า”

นายสืบวงษ์ ยังกล่าวถึงแผนพัฒนาโครงการในอนาคตของวิจิตรา กรุ๊ป ว่า นอกจากบริษัทมีที่ดินรอพัฒนาในเฟสต่อเนื่องของโครงการต่างๆ รวมมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาทแล้ว ภายในปี 2562 ยังเตรียมเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 4 โครงการ 3 ทำเล คือ โครงการ มารวยโสธร 5 ในเมืองฉะเชิงเทรา มูลค่า 500 ล้านบาท, โครงการทาวน์เฮาส์  ทำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการติดริมถนนบางนา-ตราด กม. 34 ภายใต้ชื่อ เดอะ เทรชเชอร์ โฮม  และ เดอะ เทรชเชอร์ วิลล์ มูลค่ารวม 800 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น 2 โครงการแรกนำร่องในการพัฒนา ที่ดินประมาณ 200 ไร่ ทำเลไม่ห่างไกลมากนัก จากที่ดินแปลงใหญ่รอการพัฒนา 4 พันไร่ของเอกชน  ซึ่งคาดทำเล กม. 34 จะกลายเป็นทำเลทองของบริษัท เกิดโปรเจ็กต์ต่อเนื่องได้อีกหลายพันล้านบาท  595959859