ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรัสเซียส่งสัญญาณไม่ปรับลดกำลังการผลิต

30 ต.ค. 2561 | 02:57 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2561

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังรัสเซียส่งสัญญาณไม่ปรับลดกำลังการผลิต โดยนาย Alexander Novak รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียไม่จำเป็นที่จะปรับลดหรือคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันดิบในปัจจุบันไม่ได้ล้นตลาดอีกต่อไป

- อิหร่านเตรียมตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยเริ่มทำการซื้อขายน้ำมันดิบด้วยค่าเงินอิหร่านให้บริษัทเอกชนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ อินเดีย จีน และตุรกี ซึ่งเป็นลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน ต่างก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในการยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีไม่เพียงพอที่จะชดเชยน้ำมันจากอิหร่าน

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน  ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

+ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุน หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกคาดว่าจะทำการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจีนประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มเติมของปี 2561

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มากขึ้น หลังจีนประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มเติมราว 590,000 ตัน

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74-79  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียประกาศว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากกำลังการผลิตเดิมที่ระดับ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชยอุปทานที่หายไปจากประเทศอิหร่านและเวเนซูเอลล่า และพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1-2 ล้านบาร์เรล หากอุปทานไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ของโลก

การเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในแถบยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่

ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านคาดจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังประเทศต่างๆ ปรับลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านก่อนวันกำหนดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พ.ย. 61

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ 090861-1927-9-335x503-8-335x503