"บูม" ปัดไม่รู้จัก "เออาร์นี" ส่วนตัว!!

29 ต.ค. 2561 | 10:16 น.
"บูม" ดาราหนุ่ม น้องชาย "ปริญญา จารวิจิต" เปิดใจครั้งแรก ไม่รู้จัก 'เออาร์นี' เป็นการส่วนตัว รับแค่เคยไปทานข้าวกับพี่ชาย วอนสื่อเมตตาขอสู้คดีเต็มที่ ด้านพี่ชายคนรองปล่อยไก่ รู้มาก่อนว่าพี่ชายทำธุรกิจกับ 'เออาร์นี' ไม่สงสัยเงินเข้าบัญชีผิดปกติ

นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต น้องชายนายปริญญา จารวิจิต ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงินในคดีบิตคอยน์ เปิดเผยว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ นายเออาร์นี โมโตวา ซาริมา แต่ยอมรับว่า เคยเจอนายเออาร์นี จากการไปทานข้าวกับพี่ชาย คือ นายปริญญา โดยในครั้งนั้นได้เจอกับทีมงานนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคดีเกือบทุกคน ซึ่งยืนยันว่า ไปเพื่อทานข้าวกับพี่ชายเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนดังกล่าว ขณะเดียวกัน ได้มีโอกาสคุยกับ นางสาวชนนิกานต์ แก้วกาสี หรือ แตงโม แฟนสาวของนายเออาร์นี แต่เป็นการคุยเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีการคุยเรื่องธุรกิจแต่อย่างใด


S__4252139

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวถูกผลกระทบจากการทำงาน ซึ่งก่อนจะถูกจับกุมมีการถ่ายทำละครซีรี่ส์ ในช่วงนั้นมีผู้สนับสนุนสนใจติดต่อเป็นพรีเซนเตอร์ 2 ราย แต่ถูกยกเลิกงาน รวมถึงการแสดงในอนาคตต้องถูกถอดออกทั้งหมด ขณะที่ ผลกระทบด้านครอบครัวถือว่ามีผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากทำอาชีพร้านอาหารมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก แต่ปัจจุบันถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งทรัพย์สินที่มีมาก่อนหน้านี้ มาจากการสร้างตัวจนทำให้มีเงินกงสีและไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น


S__4252141

"มีความกังวลว่า ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ทางกองปราบติดต่อให้คุณพ่อและคุณแม่เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งตรงกับวันเกิดคุณแม่ หากทั้ง 2 ท่าน ไม่ได้ประกันตัว ในฐานะลูก ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ก็รู้สึกแย่ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เรื่องใด ๆ และจะซ้ำรอยกับกรณีตนเองที่ถูกจับตรงวันเกิด เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2561 จึงอยากจะขอร้องสื่อความเมตตากับครอบครัวให้มีสิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และยืนยันว่า ไม่หนี อยากจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของครอบครัวจริง ๆ"


S__4252134

นายธนสิทธิ์ จารวิจิต น้องชายนายปริญญา จารวิจิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่นายปริญญาอยูที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้คุยกันเป็นระยะ โดยทราบว่า นายปริญญาได้มีการประสานกับตำรวจตลอด และไม่ได้เป็นการหลบหนีตามที่เป็นข่าวในสื่อ เพราะหมายจับออกตอนที่นายปริญญาอยู่ที่สหรัฐฯ ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้สื่อติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะมีความกังวลว่านายอาร์นีมีเงินและมีคนรู้จักมาก ซึ่งตนไม่อยากให้อำนาจเงินเข้ามาทำให้ครอบครัวเสียหาย และยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรม

ขณะเดียวกัน นายธนสิทธิ์ได้ตอบข้อซักถามจากผู้สื่อข่าวกรณีที่มีเงินเข้าบัญชีผิดปกตินั้น ยอมรับว่า ทางครอบครัวทราบว่าเป็นเงินจากการทำธุรกิจ และตนเองยังทราบอีกว่าเป็นเงินจากการทำธุรกิจและลงทุนของนายอาร์นีกับนักลงทุนอีก 4-5 ราย แต่ไม่ได้สงสัย เพราะเป็นการทำธุรกิจ และทราบว่า พี่ชายตนเองติดต่อทำธุรกิจกับนักลงทุนกลุ่มนี้ ซึ่งนายอาร์นีมีเงินลงทุนค่อนข้างมาก แต่ไม่ทราบว่านำเงินมาจากไหน และจะทำธุรกิจร่วมกันเกี่ยวกับอะไร ทั้งนี้ เส้นทางการเงินต่าง ๆ จะไปเปิดเผยกับศาลต่อไป


595959859