เพชรบูรณ์ชู"บ้านเข็กน้อย"ชุมชนต้นแบบมนต์เสน่ห์แห่งเขาค้อ
เพชรบูรณ์ชู "บ้านเข็กน้อย" ชุมชนต้นแบบ "ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี" มนต์เสน่ห์แห่งเขาค้อ พื้นที่ยอดฮิตช่วงหน้าหนาว ร่วมสัมผัส “ปีใหม่ม้ง” เต็มไปด้วยสีสันวิถีชีวิตชุมชนม้งที่ใหญ่ที่สุด มีอัตลักษณ์โดดเด่นทั้งเรื่องภาษา สิ่งของเครื่องใช้ อาหารการกินและประเพณีท้องถิ่น
นายประดิษฐ หลวงจอก พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า "บ้านเข็กน้อย” หมู่ที่ 4 ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีต้นแบบ” ภายใต้โครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ที่รัฐบาลมุ่งมั่น สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน เพื่อนำไปสู่การสร้างชุมชนเข้มแข็ง และชาวบ้านในชุมชนมีความสุขอย่างยั่งยืน
แม้ว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจะรู้จัก “บ้านเข็กน้อย” เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่ ก็ได้รับการบอกเล่ามากขึ้น งานฝีมือต่างๆได้รับการพัฒนาเพื่อให้เป็นของขวัญของฝากที่สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน เป็นโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามร่วมกันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
"บ้านเข็กน้อย" ของจังหวัดเพชรบูรณ์มีเรื่องราวน่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่า ผู้ชายจะมีหน้าไม้ ทำหน้าที่เข้าสวนไปไร่ ช่วงเวลาว่างสนุกสนานก็แข่งรถไม้ ที่เรียกกันว่า “ฟอร์มูล่าม้ง” ขณะที่ผู้หญิงก็ทำงานบ้าน มีงานฝีมือที่โดดเด่นมาก นั่นคือผ้าเขียนเทียนที่เขียนลายแล้วนำไปย้อมคราม จากนั้นนำไปต้ม เกิดเป็นผ้าลายต่างๆ คล้ายผ้าบาติก
นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือการปักผ้า“ผ้าปัก” ของที่นี่ขึ้นชื่อมาก บางผืนเป็นลายโบราณอายุกว่า 200 ปี ม้งทุกคนจะมีฝีมือในการปักผ้า บ้างก็มีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงคนไหนปักผ้าไม่เป็น ก็ไม่สามารถออกเรือน ลวดลายต่างๆ เกิดจากจินตนาการเวลาปัก เช่น ลายก้นหอย ลายเท้าช้าง ลวดลายปักเหล่านี้จะปรากฏอยู่บนเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำออกมา เป็นกระเป๋า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนเรียกขานว่า "กราฟิกม้ง"
ส่วนอาหารขึ้นชื่อของ“บ้านเข็กน้อย” คือ “ไก่ดำ” เป็นไก่ที่ดำทั้งตัว ขา ปีก หนัง และเล็บถือเป็นอาหารที่สุดยอดเมนู โดยจะต้มกับสมุนไพรสำคัญคือ ใบจิงจูฉ่าย โดยคนที่นี่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในเมนูบำรุงกำลังชั้นเยี่ยม หากมีแขกคนพิเศษมาเยี่ยมเยือน เป็นสำรับที่ต้องเรียกว่าพลาดไม่ได้ทีเดียว
ส่วนที่สำคัญมากๆ เห็นจะเป็นเทศกาลปีใหม่หรือ “ปีใหม่ม้ง” ในช่วงเดือนมกราคม โดยจะมีการแสดงและกิจกรรมรื่นเริง มีการละเล่นโยนลูกช่วง เป็นการละเล่นของหนุ่มสาว ลูกช่วงจะเป็นลูกกลมๆ ทำจากผ้า ผู้หญิง ผู้ชายจะผลัดกันโยน ขณะที่โยนก็จะมีการพูดคุยกัน ถ้าถูกตาต้องใจกัน ก็อาจจะลงเอยด้วยการสู่ขอกัน หรือคบหาดูใจกัน บางทีก็ใช้วิถีฝากลูกช่วงไปให้เป็นของแทนใจที่สุดแสนโรแมนติก
"ใครอยากไปสัมผัสเสน่ห์ของ “บ้านเข็กน้อย” ต้องบอกว่าคงไมต้องรอถึงปีใหม่ เพราะเขาเปิดบ้านต้อนรับให้ไปลองเดินเล่นสัมผัสธรรมชาติงดงาม เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คน แล้วจะไม่แปลกใจว่าทำไมใครเคยไป “บ้านเข็กน้อย” แล้ว จะแอบหลงรักจนอยากกลับไปอีก" พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าว
"บ้านเข็กน้อย” เป็นหนึ่งใน โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หรือเรียกทั่วไปว่า “แอ่งเล็ก เช็คอิน” จำนวน 3,273 หมู่บ้าน เป็นโครงการภายใต้โครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นสู่การสร้างรายได้ตามความต้องการของชุมชน เพื่อเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้ เน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนให้ชาวบ้านได้ขายสินค้าอยู่ในชุมชนของตนเองเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชน โดยการดึงเสน่ห์ภูมิปัญญาวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์มาแปลงเป็นรายได้ ทำให้เกิดการกระจายรายได้ภายในชุมชน ช่วยส่งเสริมการสร้างชุมชนเข้มแข็ง โดยทุกคนในชุมชนพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี อันจะส่งผลให้ลูกหลานมนชุมชนไม่ต้องออกไปหารายได้จากภายนอกชุมชน เป็นนโยบายในการขับเคลื่อนชุมชนให้เข้มแข็ง สร้างสรรค์ความผาสุกในบ้านเกิดได้อย่างยั่งยืน
นายประดิษฐ หลวงจอก พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า "บ้านเข็กน้อย” หมู่ที่ 4 ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีต้นแบบ” ภายใต้โครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ที่รัฐบาลมุ่งมั่น สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน เพื่อนำไปสู่การสร้างชุมชนเข้มแข็ง และชาวบ้านในชุมชนมีความสุขอย่างยั่งยืน
แม้ว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจะรู้จัก “บ้านเข็กน้อย” เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่ ก็ได้รับการบอกเล่ามากขึ้น งานฝีมือต่างๆได้รับการพัฒนาเพื่อให้เป็นของขวัญของฝากที่สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน เป็นโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามร่วมกันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
"บ้านเข็กน้อย" ของจังหวัดเพชรบูรณ์มีเรื่องราวน่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่า ผู้ชายจะมีหน้าไม้ ทำหน้าที่เข้าสวนไปไร่ ช่วงเวลาว่างสนุกสนานก็แข่งรถไม้ ที่เรียกกันว่า “ฟอร์มูล่าม้ง” ขณะที่ผู้หญิงก็ทำงานบ้าน มีงานฝีมือที่โดดเด่นมาก นั่นคือผ้าเขียนเทียนที่เขียนลายแล้วนำไปย้อมคราม จากนั้นนำไปต้ม เกิดเป็นผ้าลายต่างๆ คล้ายผ้าบาติก
นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือการปักผ้า“ผ้าปัก” ของที่นี่ขึ้นชื่อมาก บางผืนเป็นลายโบราณอายุกว่า 200 ปี ม้งทุกคนจะมีฝีมือในการปักผ้า บ้างก็มีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงคนไหนปักผ้าไม่เป็น ก็ไม่สามารถออกเรือน ลวดลายต่างๆ เกิดจากจินตนาการเวลาปัก เช่น ลายก้นหอย ลายเท้าช้าง ลวดลายปักเหล่านี้จะปรากฏอยู่บนเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำออกมา เป็นกระเป๋า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนเรียกขานว่า "กราฟิกม้ง"
ส่วนอาหารขึ้นชื่อของ“บ้านเข็กน้อย” คือ “ไก่ดำ” เป็นไก่ที่ดำทั้งตัว ขา ปีก หนัง และเล็บถือเป็นอาหารที่สุดยอดเมนู โดยจะต้มกับสมุนไพรสำคัญคือ ใบจิงจูฉ่าย โดยคนที่นี่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในเมนูบำรุงกำลังชั้นเยี่ยม หากมีแขกคนพิเศษมาเยี่ยมเยือน เป็นสำรับที่ต้องเรียกว่าพลาดไม่ได้ทีเดียว
ส่วนที่สำคัญมากๆ เห็นจะเป็นเทศกาลปีใหม่หรือ “ปีใหม่ม้ง” ในช่วงเดือนมกราคม โดยจะมีการแสดงและกิจกรรมรื่นเริง มีการละเล่นโยนลูกช่วง เป็นการละเล่นของหนุ่มสาว ลูกช่วงจะเป็นลูกกลมๆ ทำจากผ้า ผู้หญิง ผู้ชายจะผลัดกันโยน ขณะที่โยนก็จะมีการพูดคุยกัน ถ้าถูกตาต้องใจกัน ก็อาจจะลงเอยด้วยการสู่ขอกัน หรือคบหาดูใจกัน บางทีก็ใช้วิถีฝากลูกช่วงไปให้เป็นของแทนใจที่สุดแสนโรแมนติก
"ใครอยากไปสัมผัสเสน่ห์ของ “บ้านเข็กน้อย” ต้องบอกว่าคงไมต้องรอถึงปีใหม่ เพราะเขาเปิดบ้านต้อนรับให้ไปลองเดินเล่นสัมผัสธรรมชาติงดงาม เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คน แล้วจะไม่แปลกใจว่าทำไมใครเคยไป “บ้านเข็กน้อย” แล้ว จะแอบหลงรักจนอยากกลับไปอีก" พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าว
"บ้านเข็กน้อย” เป็นหนึ่งใน โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หรือเรียกทั่วไปว่า “แอ่งเล็ก เช็คอิน” จำนวน 3,273 หมู่บ้าน เป็นโครงการภายใต้โครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นสู่การสร้างรายได้ตามความต้องการของชุมชน เพื่อเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้ เน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนให้ชาวบ้านได้ขายสินค้าอยู่ในชุมชนของตนเองเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชน โดยการดึงเสน่ห์ภูมิปัญญาวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์มาแปลงเป็นรายได้ ทำให้เกิดการกระจายรายได้ภายในชุมชน ช่วยส่งเสริมการสร้างชุมชนเข้มแข็ง โดยทุกคนในชุมชนพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี อันจะส่งผลให้ลูกหลานมนชุมชนไม่ต้องออกไปหารายได้จากภายนอกชุมชน เป็นนโยบายในการขับเคลื่อนชุมชนให้เข้มแข็ง สร้างสรรค์ความผาสุกในบ้านเกิดได้อย่างยั่งยืน
