อภิสิทธิ์’ ชี้เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการรักษาพรรค -‘วรงค์’ ย้ำขออยู่ ปชป. เป็นพรรคสุดท้ายในชีวิต - ‘อลงกรณ์’ ย้ำขอใบลาออกจากสมาชิกล่วงหน้า เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต

26 ต.ค. 2561 | 16:58 น.
กกต. ปชป. จัดดีเบตให้ ‘ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงฯ ’ แสดงวิสัยทัศน์ - ‘อภิสิทธิ์’ ชี้เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการรักษาพรรค -‘วรงค์’ ย้ำขออยู่ ปชป. เป็นพรรคสุดท้ายในชีวิต - ‘อลงกรณ์’ ย้ำขอใบลาออกจากสมาชิกล่วงหน้า เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0002

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน ‘ดีเบต61 ประชาธิปัตย์ คนไทยจะได้อะไร’ เป็นกระบวนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำพรรคประชาธิปัตย์ จัดขึ้นเพื่อเปิดให้ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหมายเลข 1 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 2 และนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหมายเลข 3 แสดงวิสัยทัศน์ โดยก่อนการดีเบตผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้จับมือกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการแข่งขันกันฉันท์พี่น้อง มีนายชุมพล กาญจนา ประธานกกต.ปชป.มอบช่อดอกไม้ให้ทั้ง 3 คนพร้อมกับถ่ายรูปร่วมกันและมีกองเชียร์ของผู้สมัครทั้งสามคนมาให้กำลังใจด้วย ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0038

โดยมีการให้ตัวแทนสื่อมวลชนคือ นายกิตติ สิงหาปัด ผู้สื่อข่าวอาวุโส สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย บรรณาธิการบริหารเครือโพสต์พลับบลิชชิ่ง มาตั้งคำถามผู้สมัครทั้ง 3 คน โดยมีการให้ผู้สมัครตอบคำถามทั้งหมด 9 คำถาม เช่น จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะเอาเผด็จการหรือ ไม่เอาเผด็จการ ทัศนะต่อโครงการรถไฟความเร็วสูง ของรัฐบาลปัจจุบัน รวมทั้ง ความคิดเห็นต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0039

โดย น.พ. วรงค์ กล่าวว่า ตนจะไม่เลือกซ้ายหรือขวา ถ้าชนะเลือกตั้ง ก็มีสิทธิ์เลือกคนทำงาน มีหลักการ 4 ข้อ คือ ต่อต้านและต้องการปราบทุจริตอย่างจริงจัง เพราะการโกงคืออุปสรรคในการพัฒนาประเทศ เรียกร้องให้เคารพกฎหมาย ไม่ส่งเสริมการใช้อำนาจทางไม่ชอบ และจงรักภักดีต่อสถาบัน ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0104

ด้านนายอลงกรณ์ ระบุว่า ถ้าเราชนะเลือกตั้งอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลเองแน่นอน แต่ถ้าอันดับสอง ก็ให้อันดับ 1 จัดตั้งก่อน ถ้าจัดตั้งไม่ได้ พรรคประชาธิปัตยจึงจะจัดตั้ง และยืนยันไม่เอานายกคนนอก เพราะจะเป็นชนวนก่อวิกฤตของชาติ การเมืองจะเดินหน้าต้องไม่มีรัฐประหารอีกต่อไป ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0043

ขณะที่อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปฏิเสธโจทย์ที่ว่าเอาหรือไม่เอาเผด็จการมานานแล้ว เพราะคนไทยต้องมีสิทธิ์มากกว่าการเลือกเผด็จการหรือคนขี้โกง ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าตามอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราอยู่จุดไหน ถ้าเราได้เสียงข้างมากจะได้จัดตั้งรัฐบาล และไม่ควรมีใครฝืนเจตนารมณ์ประชาชน สำหรับเงื่อนไขตั้งรัฐบาลอยู่ที่นโยบาย เพราะเราไม่ได้เป็นรัฐบาลเพื่อตำแหน่ง แต่เป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชน ดีเบสหัวหน้าพรรค ปชป_๑๘๑๐๒๖_0078

ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และรัฐธรรมนูญจะมีการแก้ไขหรือไม่นั้น ผู้สมัครทั้ง 2 คนคือ นายอลงกรณ์ กับ นายแพทย์วรงค์ ตอบคล้ายกันคือ จะแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหา ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ระบุชัดเจนว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีปัญหาไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีหลายอย่างขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการบริหาร โดยการปรับแก้จะต้องทำเพื่อประชาชนและทำให้สังคมเข้าใจว่าการแก้ไขดังกล่าวไม่ใช่การทำเพื่อดึงอำนาจกลับมาอยู่ในมือนักการเมือง แต่เป็นการแก้ไขเพื่อตอบสนองต่อการแก้ปัญหาประชาชน เช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งมีปัญหาในหลายเรื่อง

[caption id="attachment_338511" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

มีปัญหาขัดแย้งกันเอง ไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น สิทธิเสรีภาพ โครงสร้างทางการเมืองอย่างวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากประชาชน และบางประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาทุจริต แต่เมื่อมีจัดตั้งรัฐบาลแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำก่อนคือแก้ปัญหาประชาชน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ หรือแผนการปฏิรูปประเทศ จะต้องเป็นฉันทามติของประชาชน หากจะต้องแก้ไข ต้องรู้ว่าจะเอาอะไรมาทดแทน และต้องแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ ไม่เอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง

สำหรับประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างเข้มข้นระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายแพทย์วรงค์ คือ กรณีที่นายแพทย์วรงค์ ระบุว่าจะเปลี่ยนอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยนั้นเป็นเสรีภาพที่เอาเปรียบประชาชน จึงจะเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยสวัสดิการ เพราะ ทำให้เกิดทุนผูกขาด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ให้คนด้อยโอกาสอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ ทำให้นายอภิสิทธิ์ ใช้สิทธิพาดพิงว่า อุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ ตามหลักการคือสนับสนุนการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ส่วนเรื่องสวัสดิการเป็นนโยบายไม่ใช่อุดมการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตยหรือสังคมนิยมก็ต้องใช้ระบบสวัสดิการเช่นเดียวกัน แต่สังคมนิยมจะใช้การเก็บภาษีที่สูงกว่าในขณะที่เสรีนิยมจะใช้ระบบการแข่งขันแบบเสรี และเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า ดังนั้นอุดมการณ์พรรคจะต้องไม่เปลี่ยน

ขณะเดียวกันผู้สมัครทั้งสามคนต่างก็ยืนยันว่าไม่ว่าผลการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาอย่างไร ก็จะไม่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์

จากนั้นเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้ง 3 คนภายในเวลา 3 นาที โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำแนวทางการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาดำเนินการ ซึ่งเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงพรรคเอาเทคโนโลยีมาให้ประชาชนมีส่วนร่วม พิสูจน์ว่าปชป.เป็นพรรคเดียวที่เป็นประชาธิปไตยและทันสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผู้นำการเมืองและเป็นสถาบันการเมืองอย่างแท้จริง หลังวันที่ 5 พฤศจิกายน มีภารกิจนำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง เอาประเทศออกจากหล่มที่ติดมานานกว่า 10 ปี พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวของตัวเองเป็นทางหลักที่มีทางเลือกดีกว่า เผด็จการและคนโกงด้วยจุดยืนเสรีนิยมประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยที่กินได้แต่ไม่โกง สาต่อนโยบายประกันรายได้ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กองทุนการออม นโยบายเรียนฟรีไปสู่การศึกษาที่มีคุณภาพ ฯลฯ และมีแนวคิดใหม่แบบก้าวกระโดด ขจัดการผูกขาดทั้งภาครัฐและเอกชน เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด และตนในฐานะประธานอาเซียนปีหน้าจะนำประเทศไทยเป็นหนึ่งในภูมิภาคอีกครั้งหนึ่ง

"เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่เคารพทุกท่าน 27 ปีที่ผมเป็นนักการเมืองในนามพรรค ผมทุ่มเทชีวิตการทำงานของผมให้กับพรรคการเมืองพรรคนี้แต่สิ่งที่ผมทุ่มเทให้เทียบไม่ได้กับบุญคุณที่พรรคมีกับผม กับคุณูปการที่พรรคนี้มีให้กับประเทศชาติ ผมปกป้องพรรค ต่อสู้เพื่อพรรคและประชาชนในทุกสถานการณ์ ภัยคุกคามต่อพรรคยังมี เพราะยังมีคนจ้องทำลาย ยังมีคนอยากใช้พรรคเป็นเครื่องมือ ผมไม่ยอม และผมใช้โอกาสนี้ให้เจ้าของพรรคตัวจริง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสนอกจากรักษาพรรค รักษาอุดมการณ์แล้ว นำประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรืองด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ด้านนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า เชื่อมั่นเจ้าของพรรคคือประชาชนและอดีตที่ผ่านมาเจ้าของพรรคมีโอกาสน้อย ถ้าตนชนะใจกว้าง ใจใหญ่ที่จะเชิญชวนทุกคนมาร่วมสร้างพรรคประชาธิปัตย์ให้แข็งแกร่ง ถ้าแพ้ก็จะให้ความร่วมมือทุกเงื่อนไข พรรคประชาธิปัตย์เป็นบ้านของทุกคนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ตนรักบ้านหลังนี้ไม่น้อยกว่าคนอื่น การลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ก็เพราะเชื่อว่าจะทำให้บ้านหลังนี้เข้มแข็งได้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเหนื่อยแบบแสนสาหัส ความรู้สึกเหมือนสู้กับระบอบทักษิณในปี 2548 บางครั้งอ้างว้าง เพราะหลายคนไม่กล้าคุยกับตน แต่ตนถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นของตนและจะเป็นพรรคสุดท้ายที่ตนใช้ชีวิตทางการเมือง

ส่วนนายอลงกรณ์ ได้นำน้ำครำจากคลองแสนแสบมาประกอบการแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเอง ว่าเป็นตัวอย่างของการเมืองน้ำเน่าที่สร้างปัญหา ทำให้ต้องปักธงการเมืองสีขาวเหมือนน้ำบริสุทธิ์ที่ทุกคนต้องดื่ม ซึ่งจะทำให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ผู้นำต้องเด็ดขาด เด็ดเดี่ยว ถ้าตนเป็นหัวหน้าพรรคผู้สมัคร ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อจะขอใบลาออกล่วงหน้า หากมีปัญหาจะปลดทันทีหากมีปัญหาเรื่องทุจริต เป็นรัฐบาลก็จะขอใบลาออกจากรัฐมนตรีทุกคน และตนก็จะยื่นใบลาออกล่วงหน้าไว้ด้วย หากมีข่าวทุจริต กรรมการคุณธรรมจะตรวจสอบภายใน 36 ชั่วโมง ไม่ต้องรอให้ใครมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนขอโอกาสเป็นผู้นำพรรคสร้างจุดเปลี่ยนพรรค จุดเปลี่ยนการเมือง และจุดเปลี่ยนประเทศ e-book-1-503x62-7