ข้าวตราฉัตรไลท์ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

30 ต.ค. 2561 | 04:00 น.
ข้าวตราฉัตรไลท์ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพสานต่อการตลาดนำการผลิต เมล็ดข้าวแห่งอนาคต

ยุคปัจจุบันเรื่องสุขภาพกลายเป็นเทรนด์ที่ตลาดผู้บริโภคให้ความสนใจ และเมื่อกล่าวถึงข้าวสุขภาพ เชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นหูกับพันธุ์ข้าว กข  43  จากการสอบถาม คุณอภิชาติ ลาวัณย์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ กรมการข้าว เผยถึงภาพรวมข้าวพันธุ์ดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจว่า “ข้าวเพื่อสุขภาพพันธุ์ กข 43 เป็นข้าวดัชนีนํ้าตาลปานกลางค่อนข้างตํ่าที่ผ่านการคัดเลือกจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 และข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับสมัครเกษตรกรจากโครงการนาแปลงใหญ่ที่ผลิตข้าวตามมาตรฐานGAP (Good Agricultural Practices) เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรว่าผลผลิตจะสามารถจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมตามนโยบายตลาดนำการผลิต

ด้วยความสำคัญดังกล่าวและดำเนินการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐในมิติการตลาดนำการผลิต ทางข้าวตราฉัตรจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 ฤดูนาปี 2561/2562 ร่วมกับกรมการข้าว และเครือข่ายเกษตรกรฯ ในพื้นที่ส่งเสริม อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยคุณไตรรัตน์ อุดมศรี-โยธิน รองกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาวัตถุดิบต้นนํ้า กล่าวว่า ขณะนี้ข้าวพันธุ์ กข 43 ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมจึงได้จัด “งานเก็บเกี่ยวข้าว กข 43 ผสานพลังเพื่อสุขภาพ สู่อนาคต” ขึ้น เพื่อเป็นการร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของพี่น้องเกษตรกรไทย สมาชิกโครงการส่งเสริมฯ ที่สามารถผลิตข้าวเพื่อสุขภาพ กข 43 จำนวน 4,800 ไร่ ออกมาได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ แล้วยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรสมาชิก

ZMN_8300

“สำหรับผู้เป็นสมาชิกในโครงการ ทางบริษัทรับซื้อทั้งหมดโดยประกันราคาขั้นตํ่า 12,000 บาท/ตัน ที่ความชื้น 15% โดยในส่วนของพื้นที่ส่งเสริมการเพาะปลูกข้าว กข 43 ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองเมล็ดพันธุ์ข้าว จากกรมการข้าว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคและทำให้เกษตรกรสมาชิกมั่นใจได้ว่ามีตลาดรองรับวัตถุดิบที่แน่นอน สำหรับแปลงนาของเกษตรกรสมาชิก ในครั้งนี้ ถือเป็นแปลงนานำร่องด้วยระบบ Laser Land Leveling คือ ได้รับการปรับระดับพื้นที่แปลงนา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความเสียหาย ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และยังเป็นการลดต้นทุน ตอกยํ้าการใส่ใจผู้บริโภคอย่างพิถีพิถันทุกกระบวนการผลิต เพื่อส่งต่อข้าวเพื่อสุขภาพ กข 43
สู่ผู้บริโภคที่รักสุขภาพทุกคนอย่างมีคุณภาพ” คุณไตรรัตน์ กล่าวเสริม

คุณอภิชาติ กล่าวต่ออีกว่า  ข้าวพันธุ์ กข 43 ในโครงการดังกล่าว ใช้เมล็ดข้าวตรงตามพันธุ์ และผ่านแปลงผลิตที่ได้มาตรฐาน GAP ตัวข้าวสาร Q สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้โดยระบบ QR trace เมื่อผู้บริโภคสแกนคิวอาร์โค้ดจะทราบถึงข้อมูลแหล่งที่มาของข้าวได้ อย่างไรก็ดีข้าวพันธุ์ กข 43  เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพโดยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพราะสามารถรับประทานง่าย หุงแล้วนุ่มมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สำคัญเมื่อบริโภคข้าว กข 43 เข้าไปในร่างกายจะสามารถเปลี่ยนแป้งเป็นนํ้าตาลได้ช้าลง  เมื่อเทียบกับข้าวทั่วไปส่งผลให้ระดับนํ้าตาลในเลือดไม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้เราไม่หิวง่ายด้วยนั้นเอง

อย่างไรก็ตาม คุณยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสาเหตุหลักๆ ที่ข้าวพันธุ์นี้
ยังไม่ได้รับความนิยมมาจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก หรือรู้รายละเอียดประโยชน์ที่แท้จริงของข้าวเพื่อสุขภาพ
กข 43 ชนิดนี้ บริษัทจึงได้ศึกษาวิเคราะห์ เพื่อเตรียมแผนรองรับด้วยการนำมาแพ็ก บรรจุถุงภายใต้แบรนด์ “ข้าวตราฉัตรไลท์” พร้อมเดินหน้าทำการตลาด ประชาสัมพันธ์เชิงรุก กิจกรรมส่งเสริมการขาย ไปยังตลาดผู้บริโภคเจาะกลุ่มคนที่รักสุขภาพ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงคุณประโยชน์ของข้าว กข 43 อย่างทั่วถึง

ZMN_8354

และเพื่อตอกยํ้าถึงกลุ่มเป้าหมายสำหรับคนรักสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักสุขภาพอย่างน้องวิว (นายกุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันเยาวชนโลก) โดยทาง
คุณธัญพิสิษฐ์ เรืองอุไร นักโภชนาการของนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนโลก (น้องวิว) กล่าวว่า นักกีฬาต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อาหารที่รับประทานจำเป็นต้องมีการคำนวณพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับน้องโดยเฉพาะ อาทิ สารอาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกายของนักกีฬาที่ดีที่สุด ดังนั้นข้าวจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องเลือกใช้ข้าวที่ดี เพราะน้องต้องทานข้าวถึงวันละ 5 มื้อ เพื่อให้ได้ปริมาณอาหารที่พอเหมาะและพลังงานที่สมส่วนกับการซ้อม รวมทั้งยังต้องควบคุมนํ้าหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ฉะนั้นข้าวพันธุ์ กข 43 จึงตอบโจทย์

“ข้าวพันธุ์ กข 43 จากทางข้าวตราฉัตรไลท์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงออกถึงความร่วมมือในเชิงบูรณาการ เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น หน่วยงานภาครัฐ กรมการข้าว องค์กรชั้นนำเรื่องวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าว พลังเครือข่ายเกษตรกรไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านปลูกข้าว และข้าวตราฉัตร ผู้เชี่ยวชาญทำตลาดและจัดจำหน่าย ที่สำคัญยังเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการดูแลสุขภาพผ่านการรับประทานข้าวได้อย่างเท่าทัน
เทรนด์ ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแล้วยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรมีช่องทางการเพาะปลูกข้าวให้สอดรับกับตลาด ซึ่งทางข้าวตราฉัตรได้ยึดโยงและนำเอาแนวคิด การตลาดนำการผลิต มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมข้าวไปพร้อมกับรัฐบาลอย่างคู่ขนาน สำหรับข้าวตราฉัตรไลท์พร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป ในช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ” คุณไตรรัตน์ กล่าวเสริมพร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า

090861-1927-9-335x503-8-335x503

“ในช่วงเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ติดตามและตรวจสอบคุณภาพข้าวหอมมะลิที่วางขายอย่างต่อเนื่องผ่านการสุ่มตัวอย่างข้าวขาวหอมมะลิ 100% บรรจุถุงตราฉัตร (ข้าวขาวหอมมะลิใหม่ 100%) ปรากฏว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด ซึ่งแสดงออกถึงมาตรฐานและความมีคุณภาพสมํ่าเสมอด้วยความต่อเนื่องของการผลิตข้าวจากเรา นับเป็นการตอกยํ้าการบรรลุวิสัยทัศน์สู่การ “บูรณาการข้าวแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการบริโภค อย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติและปลูกฝังแนวคิดการผลิตอย่างถูกสุขลักษณะและสร้างความยั่งยืนธุรกิจในการทำงานทุกวันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก หรือ Rice for Life ได้อย่างสมดุล”

หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,413 วันที่ 28 - 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

595959859