ทางหลวง-รฟท.สร้างเครือข่ายสะดวก-ปลอดภัย ลดต้นทุนขนส่ง

24 ต.ค. 2561 | 10:53 น.
กรมทางหลวงเผยแผนพัฒนาเส้นทางมอเตอร์เวย์ใหม่เน้นภาคตะวันตก ขณะที่ รฟท.ยันรถไฟฟ้าสายสีแดงบริหารเองค่าโดยสารไม่แพง

วันนี้(24 ต.ค.) ในงานสัมมนา “ผังเมืองใหม่ –เมกะโปรเจ็กต์ : พลิกโฉมกรุงเทพฯ” จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ช่วงการเสวนาหัวข้อ"เมกะโปรเจ็กต์กับการขยายตัวของกรุงเทพฯ" ช่วงหนึ่งนั้น นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า เตรียมพัฒนาพื้นที่การรถไฟฯในเขตกรุงเทพมหานคร รวมกว่า 1,000 ไร่ ทั้งบริเวณสถานีกลางบางซื่อ,พื้นที่หลัง ปตท.สำนักงานใหญ่,พื้นที่มักกะสัน,พื้นที่ถนนพระราม3(หลังเชลส์สำนักงานใหญ่) ซึ่งตรงข้ามกับบางกระเจ้า และสถานีรถไฟบางกอกน้อย

takon

 

โดยหลายพื้นที่จะร่วมลงทุนกับเอกชน ทั้งทำเป็นชอปปิ้งมอลล์ มิกซ์ยูสต์ ศูนย์การประชุม-นิทรรศการ และเกตเวย์ทางน้ำ ลงทุนในแต่ละโครงการมีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทไปถึง 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่ง รฟท.ไม่ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดไปเพื่อการพาณิชย์ แต่จะทำเป็นพื้นที่สาธารณะด้วย

ในส่วนการบริหารจัดการรถไฟ รฟท. ต้องก้าวผ่านจากดีเซลไปสู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นำร่องสายเหนือต้องไปให้ถึง “พิษณุโลก” อีสานถึง “นครราชสีมา” ภาคใต้ถึง “สุราษฎร์ธานี” เป็นต้น

“เรามีเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่ใช่แค่อำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟเท่านั้น แต่ในภาพรวมหากลดจำนวนรถบรรทุกที่วิ่งบนท้องถนนลงได้ครึ่งหนึ่ง (ให้เปลี่ยนมาขนส่งด้วยระบบราง) ถนนจะพังน้อยลง ชีวิตคนใช้ทางดีขึ้น ชุมชนตลอดเส้นทางก็ดีขึ้นด้วย”

ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต-บางซื่อ-มหาชัย และตลิ่งชัน-ศาลายา เป็นโครงการที่ รฟท.บริหารจัดการเอง ยืนยันว่าค่าโดยสารอยู่ในราคายอมรับได้ เพราะไม่ได้นำต้นทุนค่าก่อสร้างมาคิดเป็นส่วนหนึ่งในค่าบริการ

anon

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ต้องการรองรับการพัฒนากรุงเทพมหานคร ด้วยการเพิ่มมอเตอร์เวย์อีกหลายสาย และตามแผนตั้งแต่ปีหน้า เส้นทางใหม่ๆจะขยายไปทางภาคตะวันตกมากขึ้น เช่นเส้นบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว และเส้นนครชัยศรี-ชะอำ

“เป้าหมายของกรมทางหลวงคือ แก้ไขปัญหาการจราจรแออัดในเขตเมือง การอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ทาง สามารถทำความเร็วในการเดินทางได้ และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนมอเตอร์เวย์มีไม่ถึง 1% ของอุบัติเหตุทั้งหมด ส่วนความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้ 120 กม./ชม.ถือว่าเหมาะสมแล้ว” นายอานนท์ กล่าว

595959859