อภิสิทธิ์​ ย้ำการเมืองไปข้างหน้าได้​ ต้องให้เจ้าของพรรคตัวจริงมีส่วนร่วม

24 ต.ค. 2561 | 06:53 น.
"อภิสิทธิ์" ยำ้ การเมืองจะก้าวไปข้างหน้าได้ต้องให้เจ้าของพรรคตัวจริงมีส่วนร่วม
เลือกหัวหน้าพรรค

24 ตุลาคม 2561 เวลา 9.20 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 1 พร้อมด้วยนายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรคจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการต้อนรับจากนายประมวล พงศ์ถาวราเดช พร้อมด้วยประชาชน ร่วม 400 คน ณ หอนาฬิกาศาลาหมู่บ้าน ตลาดสะพานใหม่
.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ก็ได้พูดถึงว่า ในพื้นที่สะพานใหม่ในปีที่แล้วที่เคยได้มาตอนน้ำท่วมก็รู้สึกดีใจที่พื้นที่ได้รับการฟื้นฟูแล้ว
ส่วนที่ต้องมารณรงค์ในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคนั้น เพราะต้องการให้การเมืองก้าวไปข้างหน้า ให้การเมืองได้ยกระดับได้ และที่พรรคประชาธิปัตย์มาถึงวันนี้ได้ เพราะมีประชาชนและสมาชิกที่ยืนหยัด จนมีพรรคได้จนถึงวันนี้
ดังนั้น การที่จะทำให้การเมืองก้าวไปข้างหน้าได้ก็ต้องให้เจ้าของพรรคตัวจริง เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค ในวันที่ 1-3 พ.ย.นี้
.
ทั้งนี้ ได้ถามประชาชนว่าอยากเลือกตั้งมั้ย ทุกคนยกมือตอบขึ้นพร้อมกัน ว่าอยากเลือกตั้งเพราะเศรษฐกิจไม่ดี และมีหนี้สินเยอะ พืชผลราคาถูก แต่ของที่ซื้อราคาแพง ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะขาดผู้แทนที่จะไปเป็นปากเสียงสะท้อนปัญหาจริงๆ ที่เกิดขึ้น

ที่ผมคิดระบบการเลือกหัวหน้าพรรค ผมไม่ได้เริ่มจากตัวเอง แต่เริ่มจากประเทศเป็นตัวคิด ซึ่งรัฐบาลที่ดีต้องประกอบด้วย

1. เป็นประชาธิปไตย มีความใกล้ชิดประชาชน รับฟังเรื่องต่างๆ
2. ต้องแก้ไขปัญหาชาวบ้านได้
3. ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต
.
นโยบายที่ผมเคยทำ มีเรื่องเรียนฟรี 15 ปี, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ, อสม., นโยบายประกันราคาพืชผล เช่น ข้าว มันสำปะหลัง และอีกหลายเรื่องที่เคยทำ 96617
.
จริงๆ มีหลายเรื่องที่อยากทำต่อ เช่น นโยบายเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ คนจบออกมาแล้ว มีงานทำ นโยบายสาธารสุข การพัฒนาพื้นที่ และโครงสร้างพื้นฐานของภาคกลาง ภาคใต้ที่อยากทำเพิ่มเติม
.
เมื่อมีคนถามว่าก็เคยเป็นนายกฯ แล้วนี่ แต่ผมเคยเป็นในช่วงที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ และการเมืองที่มีความวุ่นวาย แต่เที่ยวนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว มันมีการเรียนรู้ มันมีการปรับตัว สภาพแวดล้อมต่างๆ น่าจะมีโอกาสได้มากขึ้น
.
สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกสิ่งหนึ่งคือตัวผมเอง ผมเข้ามาทำงานการเมืองตอนอายุ 27 เป็นรัฐมนตรีตอน อายุ 35 เป็นนายกฯ ตอน 44 ปี สมัยนั้น ผมอยากจะทำอะไรก็ไม่เต็มที่ บอกว่าผมยังมีเวลาอยู่ 96623
.
แต่วันนี้ ผมอายุ 54 แล้ว ความต่างในครั้งนี้ผมไม่มีเวลาเกรงใจใคร ผมไม่ได้มาแค่ขอโอกาส แต่ผมมาขอพลัง ผมจะเป็นหัวหน้าได้ ท่านทั้งหลายต้องเลือกก่อน ถ้าวันที่ 5 พ.ย. ผมได้เป็นหัวหน้าพรรค ผมถือว่าเรื่องต่างๆ ที่เจ้าของพรรคสั่งมาว่าต้องทำ ซึ่งตรงนี้เป็นพลังมหาศาล มันจะช่วยพวกเราทุกคน
.
ประชาธิปัตย์ของเราตั้งมา 72 ปี เราต้องการเป็นหลักให้กับประเทศ เราต้องการนโยบายประชาธิปัตย์เพื่อไปแก้ปัญหาประเทศ วันนี้ทั้งหมดนี้ ผมมาของพวกเราทุกคนช่วยผม ช่วยให้การเมืองและการเลือกตั้งเป็นเรื่องของพวกเรา 595959859