คงสร้าง
“ความประหลาดใจ” ต่อประชาชนคนไทยมิใช่น้อย เมื่อผู้สอบบัญชี
“บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย จำกัด” หรือ
“KPMG” ร่วมกับผู้บริหารชุดปัจจุบัน
“บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป” หรือ
“NMG” ตรวจสอบพบพิรุธในการลงบัญชีงบการเงินของบริษัทรอบปี 2557- 2560 จึงเป็นเหตุให้ยื่นกล่าวโทษ
“อดีตกรรมการและผู้บริหาร” ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
“ใครบ้างที่เกี่ยวข้อง?”
กว่า 9 เดือนที่
"คณะทำงานชุดพิเศษ" ซึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องใช้เวลาพิจารณาสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนตรวจพบ
“รายได้ค้างรับที่มีนัยสำคัญที่อาจเป็นเท็จ” หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า
“รายได้เทียม” โดยสาเหตุที่ใช้เวลาพอสมควรนั้น เนื่องจาก
“ทีมผู้บริหารชุดใหม่” ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดและรอบคอบเพื่อ
“สร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย”
ช่วงระหว่างขั้นตอนการสอบสวน แหล่งข่าวภายในเล่าให้ฟังว่า
“มีการซัดทอด” โดยตรงไปที่ผู้สั่งการ 4 ราย ประกอบด้วย
“เสริมสิน สมะลาภา” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
“ดวงกมล โชตะนา” อดีตกรรมการผู้จัดการ
“สุพจน์ เพียรศิริ” อดีตกรรมการและผู้อำนวยการสายการเงิน และ
“สิริชาย ชนานำ” ผอ.อาวุโสฝ่ายบัญชีและผู้เซ็นรับรองงบการเงิน โดยมี
“คำยอมรับสารภาพ” แล้วจากผู้บริหาร 2 ท่านและพนักงานฝ่ายขายหลายราย ว่ามีคำสั่งให้การตกแต่งบัญชีรายได้จริง และสิ่งที่ได้เป็นค่าตอบแทนคือ เงินเดือนและค่าคอมมิสชั่นการขายที่สูงขึ้นและดีขึ้น
โดยเงินเดือนและค่าตอบแทนสูงสุดที่ผู้บริหาร NMG ได้รับช่วงนั้นบางรายสูงถึง 1 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งๆ ที่บริษัทมีผลขาดทุนติดต่อกันกว่า 4 พันล้านบาท
หลักฐานอื่นที่ปรากฏมีทั้งพยาน
“เอกสาร” ผนวกกับข้อความคำสั่งการผ่านระบบ
“Email” และ
“Line application” โดยหนึ่งในข้อความที่ตรวจสอบพบนั้นมีการพูดถึง
“แผนการอุบาทว์” ที่จะตกแต่งงบการเงินปี 2557-2558 เพื่อให้บริษัทดูดีมีกำไร เพื่อหวังจะนำบริษัทไปขายต่อให้
“กลุ่มทุนใหญ่” ที่คนในวงการรู้ดีว่าคือใคร
ทำไมต้องตกแต่งบัญชี?
คงไม่มีใครลืมว่าช่วงระหว่างปี 2557-2558 นั้น ผู้บริหาร NMG ชุดเดียวกันนี้ นำโดย
“เสริมสิน สมเลาภา” และ
“เจี๊ยบ-ดวงกมล โชตะนา” มีแนวคิดและพฤติกรรมจงใจกีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมบริหาร ทั้งที่กลุ่มตนเองถือหุ้นน้อยกว่า จนเป็นเหตุอื้อฉาวจากการปิดกั้นไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมในเดือนเมษายน 2558
พฤติกรรมหรือเวรกรรมนี้ ส่งผลภายหลังให้กรรมการ NMG ทั้งชุด ถูกปลดจากตำแหน่ง โดย
“ก.ล.ต.” ระบุว่า
“ขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทมหาชน” เพราะถูกพนักงานอัยการสั่งฟ้องกรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
คู่ขนานกันไปในช่วงเวลานั้น มีการชักชวนกลุ่มทุนใหม่มากมายเข้ามาร่วมทุนซื้อหุ้นและชิงคะแนนส่วนใหญ่เพื่อกุมรักษาสถานะการบริหารงานของตน โดยสิ่งที่ใช้ล่อกลุ่มทุนเหล่านี้คือ
“งบการเงินที่มีกำไร” และนี่คือชนวนเหตุทั้งหมดใน
“แผนการตกแต่งบัญชี” ครั้งนี้
ผลพลอยได้ที่น่าอัปลักษณ์ คือ การหลอกล่อทั้งปลาใหญ่และปลาซิวปลาสร้อยทั้งหลายให้ติดกับ ถูกหลอกไปซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการปลอมจากการตกแต่งบัญชี จนเป็นเหตุให้ราคาพุ่งสูงถึง 3 บาทต่อหุ้น โดยปัจจุบันราคาล่าสุดอยู่ที่กว่า 30 สตางค์ก่อนหยุดพักการซื้อขาย
ติดตามต่อฉบับหน้า......
|คอลัมน์ : มารยาตลาดหุ้น
| โดย : คุณนายเผือก
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3412 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค.2561