ภูเขาน้ำแข็งแห่งปัญหา การเบ่งคับฟ้าของนักบินสายการบินไทย ได้ปะทุขึ้นมาให้สังคมเห็น เพราะเที่ยวบิน TG 971 (ซูริก-สุวรรณภูมิ) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตามมาด้วยการเรียกร้อง ขอขึ้นค่าตอบแทน-เบี้ยเลี้ยงต่างๆ ของนักบิน ในขณะที่องค์กรอย่างการบินไทยยังอยู่ในสภาพย่ำแย่ทางการเงิน เป็นเรื่องที่ผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัท ต้องสังคายนานักบินของการบินไทยเสียที ไม่ควรซุกขยะเหล่านี้ไว้ใต้พรมอีกต่อไป
การออกมาแสดงการข่มขู่ของนักบิน บางคนขู่การบินไทยที่จะหยุดบิน หรือการไม่ทำการบินเพื่อต่อรองยืนยันสิทธิ์ในการนั่งชั้น frist class ถือเป็นการ
“จับผู้โดยสารเป็นตัวประกัน” อันเป็นคำข่มขู่ที่น่าละอายยิ่ง และไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะพนักงานการบินไทยทุกคนควรตระหนักว่าหัวใจขององค์กรบริการอย่าง
“การบินไทย” ที่สำคัญสุดคือ
“ผู้โดยสาร” ไม่ใช่นักบิน-พนักงานต้อนรับ หรือฝ่ายบริหาร การจะมีความไม่ลงรอยกันของคนในการบินไทยอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องถกกันให้จบ ไม่ควรเอาผู้โดยสารไปเป็นตัวประกันเหมือนที่
“นักบินเลวๆ” กำลังเคลื่อนไหว
การบินไทยมีพนักงานทั้งหมด 22,370 คน ในจำนวนนี้เป็นนักบิน 1,371 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6,081 คน ฝ่ายช่าง 3,682 คน สายการพาณิชย์ 1,674 คน หน่วยธุรกิจการบริการภาคพื้นดิน 7,447 คน และฝ่ายอื่นๆ อีก 2,115 คน ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ยังเป็นคนดีและรักองค์กร ไม่เช่นนั้นองค์กรดำรงอยู่ไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่ามี “
บางส่วน” เป็นคนไม่ดี เห็นแก่ประโยชน์ตน ที่คนเลวส่วนน้อยนี้ทำให้การบินไทยชื่อเสียงไม่ดี เข้าทำนอง
“ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง” ที่ผู้บริหารชุดใหม่ต้องเร่งผ่าตัดเสีย
คนไม่รักองค์กรและหัวใจหลักของการบินไทย เยี่ยงนี้ ควรจะออกไปจากองค์กรและไม่ควรมีสายการบินใด
“อ้าแขนรับ” คนเหล่านี้อีก เพราะเมื่อข่มขู่องค์กรเดิมโดยเอาผู้โดยสารเป็นตัวประกันได้ มีหรือที่จะไม่ไป
“คิดเลวๆ” ในที่ใหม่
[caption id="attachment_337030" align="aligncenter" width="503"]
สุเมธ ดำรงชัยธรรม / เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ[/caption]
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ดการบินไทย และ สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) การบินไทย ต้องแสดงความกล้าหาญที่จะผ่าตัดการบินไทยอย่างเข้มแข็ง ไม่ซุกขยะไว้ใต้พรม เหมือน 58 ปีที่ผ่านมา ต้องหลอมหัวใจของพนักงาน-ผู้บริหาร และคณะกรรมการให้สร้างความรักในองค์กรเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่อยู่ในภาวะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน คิดว่าองค์กรจะย่อยยับอย่างไรก็ช่าง หากใครคิดแบบนั้นอยู่ควรจะให้ออกไปพ้นองค์กร และร่วมกันนำพาองค์กรไปสู่หัวใจหลักทางธุรกิจ คือ
“ผู้โดยสาร”
นักบินทั้งหลายเลิกหยิ่งผยองนึกว่าตนเองเป็นบุคคลชั้น 1 พนักงานฝ่ายอื่นเป็นพลเมืองชั้น 2 ขององค์กร สิทธิประโยชน์ที่ได้มากเกินพอก็ควรลดลงบ้างและเลิกเรียกร้องเสียที หันมาคิดใหม่เสียว่า
“ถ้าองค์กรอยู่ไม่ได้ พวกคุณก็อยู่ไม่ได้” แล้วหันมามุ่งมั่นร่วมมือกับทุกฝ่าย สร้างสรรค์การบริการที่ดีให้กับ
“ผู้โดยสาร” ผู้โดยสารต้องมาก่อนนักบินและพนักงานเสมอ สิ่งนี้จำเป็นต้องตระหนักเพื่อให้องค์กรอยู่รอด
เป็นสิ่งที่ชอบแล้วที่
“ลุงตู่ 4.0” นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาเปิดทางให้สังคายนาปัญหาในการบินไทย ต่อไปก็ต้องดูว่าทั้งประธานบอร์ด และ DD จะเดินหน้าอย่างไร
|คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ
| โดย : เอราวัณ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3412 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค.2561