"ฟอร์ด เรนเจอร์" โดนรับน้อง ... 'โตโยต้า' ชูเกียร์ 6 สปีดตัวถูก - 'อีซูซุ' ส่งรุ่นพิเศษ 'สเตลธ์'
"ฟอร์ด" ใส่เกียร์เดินหน้าขายเรนเจอร์-เอเวอเรสต์ใหม่ ครบทุกรุ่นหลังจบขั้นตอนตรวจสอบระบบส่งกำลัง 10 สปีด "แร็พเตอร์" จัดดอกเบี้ย 1.99% นาน 48 เดือน ค่ายใหญ่โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ เน้นสื่อสารเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ราคาเข้าถึงง่าย ด้าน 'อีซูซุ' ส่งรุ่นพิเศษ "สเตลธ์" ทะยานฟ้าถล่มแนวราบ และมิตซูบิชิ เตรียมเปิดตัว "ไทรทัน ไมเนอร์เชนจ์" 9 ต.ค. นี้
ในศึกปิกอัพดิวิชัน 1 ที่ "โตโยต้า" กับ "อีซูซุ" กำลังบดบี้ยอดขายกันหนัก และน่าสนใจว่าครบ 12 เดือน ใครจะครองแชมป์ในรถเซ็กเมนต์นี้ เพราะ "ไฮลักซ์ รีโว่" กำลังเข้าใกล้หายใจรดต้นคอ "ดีแมคซ์" จากครึ่งปีแรกที่ยอดขายห่างกันกว่า 1 หมื่นคัน แต่เมื่อปิดตัวเลขสะสมถึงไตรมาส 3 ช่องว่างเหลือเพียงกว่า 2 พันคันเท่านั้น
โดยโตโยต้าและอีซูซุค่อย ๆ ปล่อยอาวุธหนักออกมา ทั้งการปรับโฉมของ "ไฮลักซ์ รีโว่" พร้อมปรับรุ่นย่อยใหม่ เช่น การเพิ่มเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ในรุ่นร็อคโค่ และการใส่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เข้ามาในรุ่นย่อยใหม่ ๆ ทั้งยังพยายามผลักดันยอดขายด้วยการชูสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งาน การดูแลรักษาง่าย ๆ ไม่จุกจิกในราคาเข้าถึงได้ เช่น รุ่น 2.4J Plus AT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวถังสมาร์ทแค็บ 6.99 แสนบาท และตัวถังดับเบิลแค็บ 7.4 แสนบาท
ส่วน 'อีซูซุ' เพิ่งประกาศส่งรุ่นพิเศษ "สเตลธ์" ในไฮแลนเดอร์ ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร มาพร้อมชุดแต่ง STEALTH BLACK PACKAGE ทั้งภายนอกและภายใน เช่น กระจังหน้าออกแบบใหม่ รับกับสเกิร์ตหน้า มีเส้น STEALTH LINE ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้า พร้อมกรอบไฟตัดหมอกสีดำ กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ภายในเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมสัญลักษณ์ STEALTH ที่แผงข้างประตู ซึ่งตัวถังมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีขาวมุก
"กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมือง อีซูซุจึงเลือกไฮ-แลนเดอร์ ปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง มาทำรุ่นพิเศษ โดยให้ชื่อว่า "สเตลธ์" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ STEALTH ซึ่งมีภาพลักษณ์แข็งแกร่ง ดุดัน โดยรถรุ่นนี้จะเผยโฉมที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. นี้" นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าว
สำหรับอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ 4 ประตู สเตลธ์ รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 8.87 กับ 9.57 แสนบาท ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ราคา 9.99 แสนบาท
ด้าน 'ฟอร์ด' ที่มียอดขายเป็นอันดับ 3 ในตลาดปิกอัพเมืองไทย เพิ่งจะเริ่มส่งมอบเรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ ไมเนอร์เชนจ์ ในช่วงไตรมาส 3 โดยไฮไลต์อยู่ที่การถอดเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตรออกไป แล้วแทนที่ด้วยบล็อก 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในรุ่นท็อปของรถทั้งสอง 2 รุ่น รวมถึงเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ปิกอัพสมรรถนะสูงราคา 1.699 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังการส่งมอบรถให้ลูกค้าไปแล้ว บางรายประสบปัญหาเกียร์วืด หรือ เกียร์ไม่ส่งกำลังลงสู่ล้อ ดังนั้น ในวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส ประเทศ ไทยจึงส่งจดหมายถึงดีลเลอร์ทั่วประเทศ ให้ระงับการขายและหยุดส่งมอบเรนเจอร์, เรนเจอร์แร็พเตอร์ และเอเวอเรสต์ ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเอาไว้ก่อน
โดยปัญหาของเรนเจอร์และเอเวอเรสต์ ที่ฟอร์ดระบุไว้ในจดหมาย คือ การเชื่อมชิ้นส่วนสลักยึดทอร์กคอนเวอร์เตอร์ของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กับเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม จนอาจนำไปสู่การสูญเสียกำลังขับเคลื่อนทั้งเกียร์เดินหน้าและถอยหลัง
ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวถือเป็นการสื่อสารภายในระหว่างฟอร์ดกับดีลเลอร์ แต่เนื้อหาก็หลุดออกมาต่อสาธารณะชน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ฟอร์ดส่งแถลงการณ์ฉบับใหม่ถึงสื่อมวลชนว่า กระบวนการตรวจสอบปัญหาเสร็จสิ้นลงแล้ว
โดยเนื้อหาจากแถลงการณ์นี้ระบุว่า จากกรณีที่มีการนําเสนอข่าวเกี่ยวกับการระงับการขายของรถยนต์ฟอร์ด บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าว คือ การชะลอการส่งมอบรถเพื่อตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นมาตรการเบื้องต้นของฟอร์ด ภายหลังจากการยืนยันข้อมูลของรถในกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อให้ผู้จําหน่ายตรวจสอบรถที่มีอยู่ที่โชว์รูมทุกคัน และดําเนินการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุด
ผลการตรวจสอบพบว่า รถบางคันอาจมีการเชื่อมชิ้นส่วนสลักยึดทอร์ก คอนเวอร์เตอร์ เข้ากับแผ่นขับของเครื่องยนต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้สลักยึดนี้หลุดออกจากทอร์กคอนเวอร์เตอร์ นําไปสู่การสูญเสียกําลังในการขับเคลื่อนทั้งในเกียร์เดินหน้าและถอยหลัง ขณะนี้ กระบวนการตรวจสอบรถของเราได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น กิจกรรมการขายและการส่งมอบรถที่ไม่ได้รับผลกระทบจะดําเนินต่อไปตามปกติ
... ชัดเจนว่า ฟอร์ดพร้อมลุยตลาดช่วงโค้งสุดท้ายเต็มสูบ ซึ่งเรนเจอร์ใหม่ ปัจจุบัน ทำตลาด 20 รุ่นย่อย ทั้งแร็พเตอร์และกลุ่มของไวลด์แทรค XLT XLS XL รวมถึงรุ่นใหม่ "ลิมิเต็ด"
ขณะที่ แคมเปญส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการของรุ่นไวลด์แทรค มีแถมฟรีประกันภัยชั้น 1 ส่วนรุ่น XLT ดาวน์ 49,000 บาท หรือผ่อน 8,299 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง รุ่น XLS, Limited ตัวถังดับเบิลแค็บ รับอัตราดอกเบี้ย 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 ส่วนแคมเปญของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ดีลเลอร์เล่นกันเองมีทั้งดอกเบี้ย 1.99% นาน 48 เดือน หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและส่งเสริมภาพลักษณ์เรนเจอร์ ฟอร์ดยังเปิดตัวแคมเปญ "เก๋าพันธุ์แกร่ง" ค้นหาฟอร์ด เรนเจอร์ คันที่มีอายุการใช้งานนานที่สุดในประเทศไทย หวังตอกยํ้าดีเอ็นเอ "เกิดมาแกร่ง"
นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศ ไทย กล่าวว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ อยู่เคียงคู่คนไทยมาครบ 20 ปีในปีนี้ ฟอร์ดขอชวนเจ้าของเรนเจอร์ ร่วมโพสต์ภาพรถ พร้อมระบุ รุ่น ปี และจำนวนปีที่เป็นเจ้าของรถ โดยใส่คำบรรยายสั้น ๆ ถึงเรื่องราวความผูกพันระหว่างคนกับรถที่เฟซบุ๊ก "ฟอร์ดประเทศไทย" ระหว่างวันนี้ - 31 ต.ค. นี้
โดยเจ้าของ "ฟอร์ด เรนเจอร์" ที่มีอายุเลขทะเบียนยาวนานที่สุดและมีจำนวนปีที่เป็นเจ้าของรถนานที่สุด และรถที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และไม่มีการดัดแปลงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง จะได้รับรางวัลเป็นเรนเจอร์ รุ่นลิมิเต็ด ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ มูลค่า 949,000 บาท
ขณะที่ มิตซูบิชิ อันดับ 4 ในตลาดปิกอัพมีความเคลื่อนไหวเช่นกัน เมื่อเตรียมส่ง "ไทรทัน ไมเนอร์เชนจ์" ที่ยกหน้าใหม่ และออกแบบไฟท้ายทรงเดียวกับปาเจโร สปอร์ต พร้อมเพิ่มออพชันใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันที่ 9 ต.ค.
สำหรับยอดขายปิกอัพ 1 ตันจนถึงไตรมาสที่ 3 (ม.ค. - ก.ย. 61) "อีซูซุ ดีแมคซ์" ขายไป 105,313 คัน, โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 103,042 คัน, ฟอร์ด เรนเจอร์ 41,479 คัน, มิตซูบิชิ ไทรทัน 29,351 คัน, นิสสัน นาวารา 17,313 คัน, เชฟโรเลต โคโลราโด 12,665 คัน และมาสด้า บีที-50 จำนวน 5,154 คัน
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,412 วันที่ 25 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ในศึกปิกอัพดิวิชัน 1 ที่ "โตโยต้า" กับ "อีซูซุ" กำลังบดบี้ยอดขายกันหนัก และน่าสนใจว่าครบ 12 เดือน ใครจะครองแชมป์ในรถเซ็กเมนต์นี้ เพราะ "ไฮลักซ์ รีโว่" กำลังเข้าใกล้หายใจรดต้นคอ "ดีแมคซ์" จากครึ่งปีแรกที่ยอดขายห่างกันกว่า 1 หมื่นคัน แต่เมื่อปิดตัวเลขสะสมถึงไตรมาส 3 ช่องว่างเหลือเพียงกว่า 2 พันคันเท่านั้น
โดยโตโยต้าและอีซูซุค่อย ๆ ปล่อยอาวุธหนักออกมา ทั้งการปรับโฉมของ "ไฮลักซ์ รีโว่" พร้อมปรับรุ่นย่อยใหม่ เช่น การเพิ่มเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ในรุ่นร็อคโค่ และการใส่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เข้ามาในรุ่นย่อยใหม่ ๆ ทั้งยังพยายามผลักดันยอดขายด้วยการชูสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งาน การดูแลรักษาง่าย ๆ ไม่จุกจิกในราคาเข้าถึงได้ เช่น รุ่น 2.4J Plus AT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวถังสมาร์ทแค็บ 6.99 แสนบาท และตัวถังดับเบิลแค็บ 7.4 แสนบาท
ส่วน 'อีซูซุ' เพิ่งประกาศส่งรุ่นพิเศษ "สเตลธ์" ในไฮแลนเดอร์ ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร มาพร้อมชุดแต่ง STEALTH BLACK PACKAGE ทั้งภายนอกและภายใน เช่น กระจังหน้าออกแบบใหม่ รับกับสเกิร์ตหน้า มีเส้น STEALTH LINE ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้า พร้อมกรอบไฟตัดหมอกสีดำ กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ภายในเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมสัญลักษณ์ STEALTH ที่แผงข้างประตู ซึ่งตัวถังมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีขาวมุก
"กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมือง อีซูซุจึงเลือกไฮ-แลนเดอร์ ปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง มาทำรุ่นพิเศษ โดยให้ชื่อว่า "สเตลธ์" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ STEALTH ซึ่งมีภาพลักษณ์แข็งแกร่ง ดุดัน โดยรถรุ่นนี้จะเผยโฉมที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. นี้" นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าว
สำหรับอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ 4 ประตู สเตลธ์ รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 8.87 กับ 9.57 แสนบาท ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ราคา 9.99 แสนบาท
ด้าน 'ฟอร์ด' ที่มียอดขายเป็นอันดับ 3 ในตลาดปิกอัพเมืองไทย เพิ่งจะเริ่มส่งมอบเรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ ไมเนอร์เชนจ์ ในช่วงไตรมาส 3 โดยไฮไลต์อยู่ที่การถอดเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตรออกไป แล้วแทนที่ด้วยบล็อก 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในรุ่นท็อปของรถทั้งสอง 2 รุ่น รวมถึงเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ปิกอัพสมรรถนะสูงราคา 1.699 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังการส่งมอบรถให้ลูกค้าไปแล้ว บางรายประสบปัญหาเกียร์วืด หรือ เกียร์ไม่ส่งกำลังลงสู่ล้อ ดังนั้น ในวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส ประเทศ ไทยจึงส่งจดหมายถึงดีลเลอร์ทั่วประเทศ ให้ระงับการขายและหยุดส่งมอบเรนเจอร์, เรนเจอร์แร็พเตอร์ และเอเวอเรสต์ ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเอาไว้ก่อน
โดยปัญหาของเรนเจอร์และเอเวอเรสต์ ที่ฟอร์ดระบุไว้ในจดหมาย คือ การเชื่อมชิ้นส่วนสลักยึดทอร์กคอนเวอร์เตอร์ของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กับเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม จนอาจนำไปสู่การสูญเสียกำลังขับเคลื่อนทั้งเกียร์เดินหน้าและถอยหลัง
ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวถือเป็นการสื่อสารภายในระหว่างฟอร์ดกับดีลเลอร์ แต่เนื้อหาก็หลุดออกมาต่อสาธารณะชน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ฟอร์ดส่งแถลงการณ์ฉบับใหม่ถึงสื่อมวลชนว่า กระบวนการตรวจสอบปัญหาเสร็จสิ้นลงแล้ว
โดยเนื้อหาจากแถลงการณ์นี้ระบุว่า จากกรณีที่มีการนําเสนอข่าวเกี่ยวกับการระงับการขายของรถยนต์ฟอร์ด บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าว คือ การชะลอการส่งมอบรถเพื่อตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นมาตรการเบื้องต้นของฟอร์ด ภายหลังจากการยืนยันข้อมูลของรถในกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อให้ผู้จําหน่ายตรวจสอบรถที่มีอยู่ที่โชว์รูมทุกคัน และดําเนินการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุด
ผลการตรวจสอบพบว่า รถบางคันอาจมีการเชื่อมชิ้นส่วนสลักยึดทอร์ก คอนเวอร์เตอร์ เข้ากับแผ่นขับของเครื่องยนต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้สลักยึดนี้หลุดออกจากทอร์กคอนเวอร์เตอร์ นําไปสู่การสูญเสียกําลังในการขับเคลื่อนทั้งในเกียร์เดินหน้าและถอยหลัง ขณะนี้ กระบวนการตรวจสอบรถของเราได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น กิจกรรมการขายและการส่งมอบรถที่ไม่ได้รับผลกระทบจะดําเนินต่อไปตามปกติ
... ชัดเจนว่า ฟอร์ดพร้อมลุยตลาดช่วงโค้งสุดท้ายเต็มสูบ ซึ่งเรนเจอร์ใหม่ ปัจจุบัน ทำตลาด 20 รุ่นย่อย ทั้งแร็พเตอร์และกลุ่มของไวลด์แทรค XLT XLS XL รวมถึงรุ่นใหม่ "ลิมิเต็ด"
ขณะที่ แคมเปญส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการของรุ่นไวลด์แทรค มีแถมฟรีประกันภัยชั้น 1 ส่วนรุ่น XLT ดาวน์ 49,000 บาท หรือผ่อน 8,299 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง รุ่น XLS, Limited ตัวถังดับเบิลแค็บ รับอัตราดอกเบี้ย 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 ส่วนแคมเปญของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ดีลเลอร์เล่นกันเองมีทั้งดอกเบี้ย 1.99% นาน 48 เดือน หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและส่งเสริมภาพลักษณ์เรนเจอร์ ฟอร์ดยังเปิดตัวแคมเปญ "เก๋าพันธุ์แกร่ง" ค้นหาฟอร์ด เรนเจอร์ คันที่มีอายุการใช้งานนานที่สุดในประเทศไทย หวังตอกยํ้าดีเอ็นเอ "เกิดมาแกร่ง"
นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศ ไทย กล่าวว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ อยู่เคียงคู่คนไทยมาครบ 20 ปีในปีนี้ ฟอร์ดขอชวนเจ้าของเรนเจอร์ ร่วมโพสต์ภาพรถ พร้อมระบุ รุ่น ปี และจำนวนปีที่เป็นเจ้าของรถ โดยใส่คำบรรยายสั้น ๆ ถึงเรื่องราวความผูกพันระหว่างคนกับรถที่เฟซบุ๊ก "ฟอร์ดประเทศไทย" ระหว่างวันนี้ - 31 ต.ค. นี้
โดยเจ้าของ "ฟอร์ด เรนเจอร์" ที่มีอายุเลขทะเบียนยาวนานที่สุดและมีจำนวนปีที่เป็นเจ้าของรถนานที่สุด และรถที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และไม่มีการดัดแปลงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง จะได้รับรางวัลเป็นเรนเจอร์ รุ่นลิมิเต็ด ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ มูลค่า 949,000 บาท
ขณะที่ มิตซูบิชิ อันดับ 4 ในตลาดปิกอัพมีความเคลื่อนไหวเช่นกัน เมื่อเตรียมส่ง "ไทรทัน ไมเนอร์เชนจ์" ที่ยกหน้าใหม่ และออกแบบไฟท้ายทรงเดียวกับปาเจโร สปอร์ต พร้อมเพิ่มออพชันใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันที่ 9 ต.ค.
สำหรับยอดขายปิกอัพ 1 ตันจนถึงไตรมาสที่ 3 (ม.ค. - ก.ย. 61) "อีซูซุ ดีแมคซ์" ขายไป 105,313 คัน, โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 103,042 คัน, ฟอร์ด เรนเจอร์ 41,479 คัน, มิตซูบิชิ ไทรทัน 29,351 คัน, นิสสัน นาวารา 17,313 คัน, เชฟโรเลต โคโลราโด 12,665 คัน และมาสด้า บีที-50 จำนวน 5,154 คัน
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,412 วันที่ 25 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561
