ซีอีโอ สิงห์ เอสเตท “นริศ เชยกลิ่น” ได้เคยประกาศจุดยืนการดำเนินโครงการทุกโครงการของสิงห์ เอสเตท ไว้อย่างชัดเจนว่า ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายด้านความยั่งยืนขององค์กร (Sustainability Development Strategy) และสำหรับโครงการใหญ่ CROSSROADS (ครอสโร้ดส์) ที่มัลดีฟส์ ซึ่งเลื่อนการเปิดจากปลายปี 2561 เป็นไตรมาสแรกของปี 2562 ทีมผู้บริหารด้านการออกแบบและก่อสร้าง “ธีระชาติ นุมานิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านออกแบบและก่อสร้าง ได้ออกมาแจงรายละเอียดอีกครั้ง
จากรูปแบบการสร้างที่ต้องถมทะเล และลงวัสดุก่อสร้างลงไปในทะเล ซึ่งแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทะเล และสัตว์นํ้า ในหมู่เกาะสร้างใหม่จำนวน 9 เกาะ โดยเฟสแรกที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 60% จำนวน 3 เกาะ ประกอบด้วยรีสอร์ตบนเกาะจำนวน 3 เกาะ และ เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์ (The Marina @ CROSSROADS) พื้นที่สำหรับการพักผ่อน สันทนาการ ที่รวบรวมความบันเทิง แหล่งช็อปปิ้ง และร้านอาหาร
แนวทางการก่อสร้าง คือ ต้องทำให้เกิดผลกระทบกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแนวปะการัง หรือสัตว์นํ้า ซึ่งมีปลามากกว่า 100 ชนิด ในบริเวณนั้น จึงต้องมีการสร้างแนวกั้น พร้อมทั้งมีการตรวจสอบ
คุณภาพนํ้า ตรวจสอบตะกอนตลอด และส่วนที่จะก่อสร้างเป็น Water Villas จะต้องมีการย้ายปะการังและหอยมือเสือออกบางส่วน
“ธีระชาติ” บอกว่า ความยากและความท้าทายของการก่อสร้างครั้งนี้คือ การขนย้ายวัสดุเข้าไป แม้รูปแบบการก่อสร้างจะเน้นการใช้ Prefabricated Building ซึ่งเป็นวิธีการก่อสร้างบ้านหรืออาคารโดย “ผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้นให้สำเร็จก่อนจะนำมาประกอบกันที่หน้างาน” วิธีการนี้จะช่วยให้ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่การขนย้ายก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก โดยสิงห์ เอสเตท ใช้งบทางด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นกว่าการก่อสร้างปกติถึง 20%
นอกจากนี้ ขยะที่เกิดขึ้นพื้นที่ก่อสร้าง ก็มีการทำลายและดูแลอย่างถูกวิธี พร้อมรณรงค์การงดใช้พลาสติกในโครงการ ส่วนแนวกั้นปะการัง ที่ไม่ได้ใช้แล้ว บริษัทก็ส่งมอบให้กับชาวบ้านเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ และบริษัทยังมีแผนติดตั้ง
โซลาร์รูฟ เพื่อนำไฟฟ้าที่ได้บ้างส่วน มาเสริมใช้ในช่วงเวลากลางวัน โดยคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ราว 2 เมกะวัตต์ ในขณะที่ทั้งโครงการจะใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 5-6 เมกะวัตต์
โครงการ ครอสโร้ดส์ ใช้งบลงทุนรวมในเฟสแรกอยู่ที่ 311.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อการพัฒนารีสอร์ตบนเกาะจำนวน 3 เกาะ สำหรับการลงทุนในเฟสที่ 2 มีงบลงทุนมูลค่า 368.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้เพื่อพัฒนาเกาะที่เหลืออีก 6 เกาะ ส่วน เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์ และเฟสแรกของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสแรกปี 2562 ขณะที่เฟสที่ 2 มีแผนดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ภายในอีกห้าปี
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,412 วันที่ 25-27 ตุลาคม 2561