12 องค์กรวิชาชีพด้านสถาปนิกและวิศวกรรวมถึงสมาคมสถาปนิกสยาม และสภาสถาปนิก มีมติให้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คัดค้านโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ด้านทิศเหนือของสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเรียกร้องให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เร่งดำเนินการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ภายใต้แผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมที่วางไว้เมื่อปี 2546 แทนการใช้แผนแม่บทในปี 2561
ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ร่วมกับ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดเวทีเสวนาหัวข้อ
“สุวรรณภูมิ สนามบิน 1 ใน 3 ของโลก...ฝัน หรือเป็นได้จริง?”
โดยผู้เข้าร่วมเสวนามีความเห็นตรงกันว่าทอท.ควรทบทวนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท เพราะมีข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อกังวลสงสัย รวมทั้งมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทั้งกรณีการลอกเลียนแบบการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า แผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายออกมาตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการ แม้ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ ทอท. จะออกมาชี้แจงหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถลดข้อกังขาของกลุ่มที่ออกมาแสดงความกังวลได้ มิหนำซ้ำยังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้บริหารทอท.อย่าง นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ก็เลี่ยงที่ไม่เข้าร่วมเวทีเสวนาเพื่อชี้แจงประเด็นข้อสงสัยต่างๆ จึงไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการดำเนินโครงการต่างๆ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในอนาคต
ต้องไม่ลืมว่า สาเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการขนาดใหญ่ในอดีตหลายโครงการต้องหยุดชะงักหรือไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพราะถูกสังคมมีคำถามถึงความโปร่งใส บางโครงการได้ผู้ชนะการประมูล และเดินหน้าก่อสร้างไปแล้ว ก็มีการฟ้องร้องต่อศาล ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้า และบางโครงการถึงกับต้องยกเลิก ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก
ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องลงมาแก้ปมประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับท่าอากาศยานในตอนนี้ด้วยตัวเอง เพราะการปล่อยให้ทอท. ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับภาคประชาชนที่ออกมาตรวจสอบ เดินหน้าโครงการโดยไม่รับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน มีแต่จะสร้างผลเสียต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เปรียบเสมือนประตูการค้า การท่องเที่ยว และหน้าตาของประเทศ
|บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
|ฉบับ 3411 ระหว่างวันที่ 21-24 ต.ค.2561