คนไทยใช้ดิจิตอลแสดงตน
เฟซบุ๊กเผยผลสำรวจคลื่นลูกใหม่ ที่ก้าวสู่ชนชั้นกลาง
ผลศึกษาเฟซบุ๊ก เผย “คลื่นลูกใหม่” ของกลุ่มคนที่จะก้าวขึ้น มาเป็นชนชั้นกลางชาวไทยและโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบเชื่อม ต่อสมาร์ทโฟน ธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ และโลจิสติกส์มากขึ้น คน ไทยใช้ช่องทางดิจิตอลแสดงออกถึงตัวตนและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น
นายจอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ เฟซบุ๊ก ประเทศไทย เปิดเผยว่าผลศึกษาเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง (Emerging Middle Class) ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิตอลที่มีต่อพฤติกรรมและรูปแบบการซื้อที่เปลี่ยนไปของคนกลุ่มดังกล่าว โดยการสำรวจครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี และอำเภอบ้านนาสาร โดยเน้นถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง และนำเสนอข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจในประเทศไทยสำหรับการมองหาโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ดังกล่าวได้
“เราต้องการที่จะสำรวจอย่างจริงจังว่าโลกดิจิตอลเปลี่ยนชีวิตของกลุ่มที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางกลุ่มใหม่ของประเทศไทยอย่างไร โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งประชากรกลุ่มดังกล่าวเข้าถึงเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ และโลจิสติกส์ที่มากขึ้น และยังใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อการพัฒนาและเติบโตในหลายๆ มิติ สิ่งที่สร้างแรงบันดาล ใจมากที่สุดที่เราเห็นคือ การที่คนไทยใช้ช่องทางดิจิตอลในการแสดงออกถึงตัวตนและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ประชากรชนชั้นกลางจำนวน 49 ล้านคนของประเทศไทยนั้น นับเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในปี 2565 จะมี ประชากรชนชั้นกลางจำนวน 350 ล้านคน และรายได้ในครัวเรือน 3 แสนล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2560-2565 เทคโนโลยีทำให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกรอบตัวเมืองใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถมีส่วนร่วม ในเศรษฐกิจดิจิตอลได้อย่างเต็มที่ โดยคาดว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือจะสูงถึง 3 หมื่น ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในขณะที่โลจิสติกส์ บนอี-คอมเมิร์ซ จะเติบโตขึ้นถึง 7.5-9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2565
ในแง่ของธุรกิจที่รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง จากการสัมภาษณ์นักธุรกิจชั้นนำทั่วภูมิภาค 77% เห็นตรงกันว่า กลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญมาก ทั้งนี้ เพียง 15% ที่คิดว่าธุรกิจของตนมีกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มดังกล่าว ทั้งผลิตภัณฑ์ การตลาด ยอดขาย และการกระจายสินค้า
“ปัจจุบัน การแพร่หลายของ สื่อดิจิตอลช่วยเปิดโลกแห่งโอกาสให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชน ชั้นกลางที่มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น และใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาซื้อมากยิ่งขึ้น ผู้คนในภูมิภาคนี้มีโอกาสทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น การที่เราจะเติบโตไปพร้อมกับประชาชนกลุ่มใหม่กลุ่มนี้ได้ ภาคธุรกิจสามารถมองหาโอกาสในการปรับกลยุทธ์และค้นหาวิธีที่จะเติบโตไปพร้อมกับคนกลุ่มนี้”
ด้านนายเวทิต โชควัฒนา กรรมการ ผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่สามารถไปคิดต่อได้ว่าจะนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะพิเศษ มีความพรีเมียมและตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ในฐานะธุรกิจ เราต้องเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของ กลุ่มคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจสำหรับ เรา เช่น ผลิตภัณฑ์ของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาหรือไม่
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
ผลศึกษาเฟซบุ๊ก เผย “คลื่นลูกใหม่” ของกลุ่มคนที่จะก้าวขึ้น มาเป็นชนชั้นกลางชาวไทยและโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบเชื่อม ต่อสมาร์ทโฟน ธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ และโลจิสติกส์มากขึ้น คน ไทยใช้ช่องทางดิจิตอลแสดงออกถึงตัวตนและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น
นายจอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ เฟซบุ๊ก ประเทศไทย เปิดเผยว่าผลศึกษาเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง (Emerging Middle Class) ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิตอลที่มีต่อพฤติกรรมและรูปแบบการซื้อที่เปลี่ยนไปของคนกลุ่มดังกล่าว โดยการสำรวจครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี และอำเภอบ้านนาสาร โดยเน้นถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง และนำเสนอข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจในประเทศไทยสำหรับการมองหาโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ดังกล่าวได้
ทั้งนี้ประชากรชนชั้นกลางจำนวน 49 ล้านคนของประเทศไทยนั้น นับเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในปี 2565 จะมี ประชากรชนชั้นกลางจำนวน 350 ล้านคน และรายได้ในครัวเรือน 3 แสนล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2560-2565 เทคโนโลยีทำให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกรอบตัวเมืองใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถมีส่วนร่วม ในเศรษฐกิจดิจิตอลได้อย่างเต็มที่ โดยคาดว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือจะสูงถึง 3 หมื่น ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในขณะที่โลจิสติกส์ บนอี-คอมเมิร์ซ จะเติบโตขึ้นถึง 7.5-9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2565
ในแง่ของธุรกิจที่รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง จากการสัมภาษณ์นักธุรกิจชั้นนำทั่วภูมิภาค 77% เห็นตรงกันว่า กลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญมาก ทั้งนี้ เพียง 15% ที่คิดว่าธุรกิจของตนมีกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มดังกล่าว ทั้งผลิตภัณฑ์ การตลาด ยอดขาย และการกระจายสินค้า
“ปัจจุบัน การแพร่หลายของ สื่อดิจิตอลช่วยเปิดโลกแห่งโอกาสให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชน ชั้นกลางที่มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น และใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาซื้อมากยิ่งขึ้น ผู้คนในภูมิภาคนี้มีโอกาสทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น การที่เราจะเติบโตไปพร้อมกับประชาชนกลุ่มใหม่กลุ่มนี้ได้ ภาคธุรกิจสามารถมองหาโอกาสในการปรับกลยุทธ์และค้นหาวิธีที่จะเติบโตไปพร้อมกับคนกลุ่มนี้”
ด้านนายเวทิต โชควัฒนา กรรมการ ผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่สามารถไปคิดต่อได้ว่าจะนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะพิเศษ มีความพรีเมียมและตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ในฐานะธุรกิจ เราต้องเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของ กลุ่มคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจสำหรับ เรา เช่น ผลิตภัณฑ์ของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาหรือไม่
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
