กระแสฟิตเนส24ชม.แรง ‘เจ็ทส์ฯ’ปูพรม100สาขา
ชี้เทรนด์ฟิตเนส 24 ชม. แรง “เจ็ทส์ ฟิตเนส” เร่งปูพรมขยายสาขาในไทยให้ครบ 100 แห่งใน 5 ปี พร้อมชูกลยุทธ์ The Most Loved Gym ดูดลูกค้าสร้างแบรนด์เติบโตแบบยั่งยืน หลังเปิดตัว 9 เดือนในไทยรั้งแชมป์ผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 50%
นายไมค์ แลมบ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ขยาย แผนการขยายธุรกิจในเมืองไทยอย่างจริงจังเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนสามารถขยายสาขาได้แล้วทั้งสิ้น 10 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 12 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทได้เตรียมขยายสาขาต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 100 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในย่านเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพทางการเติบโต โดยจะเน้นเข้าไปเปิดสาขาในพื้นที่คอมมูนิตีมอลล์, อาคารสำนักงาน, เรสิเดนเชียล, คอนโดฯ บนพื้นที่ตั้งแต่ 600-1,000 ตร.ม.
[caption id="attachment_335052" align="aligncenter" width="335"]
ไมค์ แลมบ์[/caption]
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่บริษัทเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในเมืองไทย เนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาสของการเติบโตในธุรกิจฟิตเนสอยู่มาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกทั้งในด้านของเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ส่งผลให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันประชากรในเขตกรุงเทพฯซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ยังมีอัตราการออกกำลังกายน้อยอยู่ โดยปัจจุบันสัดส่วนของกลุ่มคนที่ออกกำลังกายโดยเฉพาะที่เป็นสมาชิกฟิตเนสในกรุงเทพฯยังตํ่ากว่า 5% ของจำนวนประชากร ต่างจากในเมืองใหญ่ๆ อย่าง ซิดนีย์, ลอนดอน, นิวยอร์ก, วอชิงตัน ดี.ซี. หรือ ปารีส ที่มีสัดส่วนประชากรกว่า 10-15% ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสทางการเติบโตในไทย
“บริษัทแม่ที่ประเทศออสเตรเลียในนาม บริษัท ฟิตเนส แอนด์ ไลฟ์ สไตล์ฯ ซึ่งดูแลแบรนด์ฟิตเนสชั้นนำ 7 แบรนด์ เลือกแบรนด์เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง เข้ามาทำตลาดในไทยเนื่องจากมองว่าสามารถตอบโจทย์ด้านเวลาและตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวไทยที่ไม่เคยหลับใหล และมีการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ต่างคนต่างมีช่วงเวลาไม่เท่ากัน ซึ่งพบว่าช่วงที่มีลูกค้ามาใช้บริการมากที่สุดคือช่วง 17.00-20.00 น. มีสัดส่วน 40-50% และช่วงเวลา 22.00-01.00 น.มีลูกค้ามาใช้บริการคิดเป็น 10% จากจำนวนสมาชิกของ คลับทั้งหมด 1 หมื่นรายในปัจจุบัน”
ขณะที่กลยุทธ์การทำตลาดในไทยนับจากนี้คือการวางเป้าหมาย ที่จะเป็น The Most Loved Gym สำหรับทั้งสมาชิกและพนักงาน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวคือการทำให้สมาชิกรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สมาชิกอยู่กับคลับได้นาน และบอกต่อหรือแนะนำเพื่อนให้มาสมัคร พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลดีและผลกระทบต่อความพึงพอใจของสมาชิก ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร การพาชมสถานที่ ไปจนถึงอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก บริการ และการดูแลรักษาความสะอาด ซึ่งเราใช้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ในการวางกลยุทธ์ The Most Loved Gym ขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลให้สมาชิกเกิดความพึงพอใจและมีความสุขเช่นกัน
“ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมฟิตเนสในประเทศ ไทยส่งผลให้ผู้บริโภคที่รักการออกกำลังกายมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในฐานะแบรนด์ฟิตเนสหนึ่งเดียว ซึ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของสมาชิกอย่างแท้จริง ด้วยระบบสมาชิกที่ไม่มีเงื่อนไขผูกมัด ราคาที่ให้ความคุ้มค่า สาขามากมายบนทำเลสะดวก และบริการแบบ 24 ชั่วโมง”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ถือเป็นข่ายฟิตเนสแบบเปิดบริการ 24 ชั่วโมงที่ใหญ่ที่สุดของไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50% ในเซ็กเมนต์นี้
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
นายไมค์ แลมบ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ขยาย แผนการขยายธุรกิจในเมืองไทยอย่างจริงจังเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนสามารถขยายสาขาได้แล้วทั้งสิ้น 10 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 12 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทได้เตรียมขยายสาขาต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 100 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในย่านเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพทางการเติบโต โดยจะเน้นเข้าไปเปิดสาขาในพื้นที่คอมมูนิตีมอลล์, อาคารสำนักงาน, เรสิเดนเชียล, คอนโดฯ บนพื้นที่ตั้งแต่ 600-1,000 ตร.ม.
[caption id="attachment_335052" align="aligncenter" width="335"]
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่บริษัทเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในเมืองไทย เนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาสของการเติบโตในธุรกิจฟิตเนสอยู่มาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกทั้งในด้านของเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ส่งผลให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันประชากรในเขตกรุงเทพฯซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ยังมีอัตราการออกกำลังกายน้อยอยู่ โดยปัจจุบันสัดส่วนของกลุ่มคนที่ออกกำลังกายโดยเฉพาะที่เป็นสมาชิกฟิตเนสในกรุงเทพฯยังตํ่ากว่า 5% ของจำนวนประชากร ต่างจากในเมืองใหญ่ๆ อย่าง ซิดนีย์, ลอนดอน, นิวยอร์ก, วอชิงตัน ดี.ซี. หรือ ปารีส ที่มีสัดส่วนประชากรกว่า 10-15% ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสทางการเติบโตในไทย
“บริษัทแม่ที่ประเทศออสเตรเลียในนาม บริษัท ฟิตเนส แอนด์ ไลฟ์ สไตล์ฯ ซึ่งดูแลแบรนด์ฟิตเนสชั้นนำ 7 แบรนด์ เลือกแบรนด์เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง เข้ามาทำตลาดในไทยเนื่องจากมองว่าสามารถตอบโจทย์ด้านเวลาและตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวไทยที่ไม่เคยหลับใหล และมีการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ต่างคนต่างมีช่วงเวลาไม่เท่ากัน ซึ่งพบว่าช่วงที่มีลูกค้ามาใช้บริการมากที่สุดคือช่วง 17.00-20.00 น. มีสัดส่วน 40-50% และช่วงเวลา 22.00-01.00 น.มีลูกค้ามาใช้บริการคิดเป็น 10% จากจำนวนสมาชิกของ คลับทั้งหมด 1 หมื่นรายในปัจจุบัน”
ขณะที่กลยุทธ์การทำตลาดในไทยนับจากนี้คือการวางเป้าหมาย ที่จะเป็น The Most Loved Gym สำหรับทั้งสมาชิกและพนักงาน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวคือการทำให้สมาชิกรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สมาชิกอยู่กับคลับได้นาน และบอกต่อหรือแนะนำเพื่อนให้มาสมัคร พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลดีและผลกระทบต่อความพึงพอใจของสมาชิก ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร การพาชมสถานที่ ไปจนถึงอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก บริการ และการดูแลรักษาความสะอาด ซึ่งเราใช้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ในการวางกลยุทธ์ The Most Loved Gym ขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลให้สมาชิกเกิดความพึงพอใจและมีความสุขเช่นกัน
“ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมฟิตเนสในประเทศ ไทยส่งผลให้ผู้บริโภคที่รักการออกกำลังกายมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในฐานะแบรนด์ฟิตเนสหนึ่งเดียว ซึ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของสมาชิกอย่างแท้จริง ด้วยระบบสมาชิกที่ไม่มีเงื่อนไขผูกมัด ราคาที่ให้ความคุ้มค่า สาขามากมายบนทำเลสะดวก และบริการแบบ 24 ชั่วโมง”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ถือเป็นข่ายฟิตเนสแบบเปิดบริการ 24 ชั่วโมงที่ใหญ่ที่สุดของไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50% ในเซ็กเมนต์นี้
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
