วันพรุ่งนี้! ก.แรงงาน นัดเคลียร์ปมร่างกฎหมายแรงงานประมงฯ
นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่สมาคมประมงได้ส่งเรื่องถึง พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอประเด็นต่าง ๆ ล่าสุด ทาง สนช. ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 16 ต.ค. 2561 และได้มีมติให้จัดทำหนังสือประเด็นข้อคิดเห็นและขัอสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันและขจัดแรงงานบังคับ พ.ศ. .... ไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวต่อไป
วันพรุ่งนี้ (19 ต.ค. 61) ทางกระทรวงแรงงานจัดประชุมร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาหารือในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 หรือ C188 และร่างพระราชบัญญัติแรงงานประมง พ.ศ. .... ทำไมชาวประมงไม่เห็นด้วย สาระสำคัญในกฎหมายที่กล่าวอ้างถึงเหตุผลและความจำเป็นต้องมีกฎหมายว่าด้วยแรงงานประมง
"เนื่องจากสภาพการจ้าง สภาพการทำงานในภาคประมง มีความแตกต่างจากการทำงานของลูกจ้างทั่วไป ซึ่งมีความเสี่ยงภัยทางทะเลและมีระยะเวลาการทำงานที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานประมงให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ เป็นการป้องกันการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายในภาคประมง รวมทั้งวางมาตรการในการควบคุม กำกับ ดูแล และบริหารจัดการ ในการออกใบรับรองด้านแรงงานภาคประมงให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นการส่งเสริม พัฒนา และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในกิจการภาคประมงของประเทศ จำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ร่างกฎหมายนี้มี 27 มาตรา พร้อมร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องอีก 5 หน่วยงาน 9 ฉบับ"
แหล่งข่าวกระทรวงแรงงาน เผยว่า กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับกับเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ เรือขนถ่ายสัตว์น้ำ และเรือสนับสนุนการทำการประมง แต่ไม่ใช้บังคับกับเรือดังต่อไปนี้ เรือที่ทำประมงน้ำจืด เรือประมงพื้นบ้าน (ยังชีพ) เรือที่ทำการประมงเพื่อนันทนาการ อาทิ การทำการประมงเพื่อการพักผ่อน การแข่งขันทางการกีฬา การอื่น ๆ ตามที่ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศกำหนด และสำหรับเรือขนถ่ายสัตว์น้ำและเรือสนับสนุนทำการประมงที่มีขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสส์ขึ้นไป สามารถปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานทางทะเล (MLC)
อย่างไรก็ดี ลองจับตาวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค. 61)! จะมีการรับฟังความคิดเห็นแก้ร่างกฎหมายนี้อย่างไรบ้าง "ฐานเศรษฐกิจ" จะเกาะติดตามประเด็นอย่างต่อเนื่อง
