"สมคิด" สั่งทูตพาณิชย์! ดันเป้าส่งออกปี 62 โต 8% จี้ทำแผนรับมือผลกระทบ "สงครามการค้า"
"สมคิด" สั่งการบ้านทูตพาณิชย์ ดันส่งออกปี 62 โต 8% เฉลี่ย 2.3 หมื่นล้านดอลล์ต่อเดือน ชี้! ให้มองสงครามการค้าเป็นโอกาสในการขยายตลาด
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือ ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ว่า สถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เห็นว่าจะมีความยืดเยื้อยาวนานพอสมควร ทำให้การค้าโลกมีความเสี่ยงและส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมัน การหดตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี สำหรับการส่งออกปี 2561 ยังมองเป้าหมายที่ 8% ขณะที่ การส่งออกในปี 2562 ขยายตัว 8% โดยจะต้องส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองโลกที่น่าเป็นห่วง โดยหน่วยงานที่ดูแลต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมือรับฟังแนวคิดจากภาคเอกชนและพร้อมให้ความช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อผลักดันการส่งออกได้อย่างเต็มที่ สำหรับตัวเลขการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ถือเป็นตัวเลขที่ท้าทาย เพราะยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง ทูตพาณิชย์ทั่วโลกจำเป็นต้องมองวิกฤติให้เป็นโอกาส ปรับโครงสร้างการทำงาน การค้า อย่างไรก็ดี ก็ขอให้กำลังใจทูตพาณิชย์ให้ทำงานอย่างเต็มที่
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายการส่งออกของประเทศในปี 2562 ไว้ที่ 8% โดยให้มองวิกฤติของสงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นโอกาสในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย เพื่อเข้าไปทดแทนในตลาดที่ได้รับผลกระทบ พร้อมให้มองสินค้าและตลาดใดที่จะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยได้บ้าง
นอกจากนี้ ก็ให้มองตลาดแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ซึ่งมีความน่าสนใจ ว่า ทำอย่างไรจะขยายการส่งออกไปยังภูมิภาคเหล่านี้ได้ เนื่องจากมองว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพพอที่จะแข่งขัน อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทำอย่างไรเพื่อดึงการลงทุนเข้าประเทศ เพื่อให้ไทยเป็นโอกาสฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องระยะสั้นที่ต้องผลักดัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ส่วนการส่งเสริมอื่น ๆ ยังคงต้องร่วมมือกันผลักดันต่อไป โดยเป้าหมายการส่งออกในแต่ละภูมิภาคที่มีการกำหนดถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย โดยอาเซียนกำหนดเป้าหมายการส่งออกขยายตัว 8.3%, จีน-ฮ่องกง 12%, อเมริกาเหนือ 6.1%, ลาตินอเมริกา 6%, รัสเซีย 10%, ตะวันออกกลาง 3%, ไต้หวัน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 7%
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือ ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ว่า สถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เห็นว่าจะมีความยืดเยื้อยาวนานพอสมควร ทำให้การค้าโลกมีความเสี่ยงและส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมัน การหดตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี สำหรับการส่งออกปี 2561 ยังมองเป้าหมายที่ 8% ขณะที่ การส่งออกในปี 2562 ขยายตัว 8% โดยจะต้องส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองโลกที่น่าเป็นห่วง โดยหน่วยงานที่ดูแลต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมือรับฟังแนวคิดจากภาคเอกชนและพร้อมให้ความช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อผลักดันการส่งออกได้อย่างเต็มที่ สำหรับตัวเลขการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ถือเป็นตัวเลขที่ท้าทาย เพราะยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง ทูตพาณิชย์ทั่วโลกจำเป็นต้องมองวิกฤติให้เป็นโอกาส ปรับโครงสร้างการทำงาน การค้า อย่างไรก็ดี ก็ขอให้กำลังใจทูตพาณิชย์ให้ทำงานอย่างเต็มที่
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายการส่งออกของประเทศในปี 2562 ไว้ที่ 8% โดยให้มองวิกฤติของสงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นโอกาสในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย เพื่อเข้าไปทดแทนในตลาดที่ได้รับผลกระทบ พร้อมให้มองสินค้าและตลาดใดที่จะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยได้บ้าง
นอกจากนี้ ก็ให้มองตลาดแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ซึ่งมีความน่าสนใจ ว่า ทำอย่างไรจะขยายการส่งออกไปยังภูมิภาคเหล่านี้ได้ เนื่องจากมองว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพพอที่จะแข่งขัน อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทำอย่างไรเพื่อดึงการลงทุนเข้าประเทศ เพื่อให้ไทยเป็นโอกาสฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องระยะสั้นที่ต้องผลักดัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ส่วนการส่งเสริมอื่น ๆ ยังคงต้องร่วมมือกันผลักดันต่อไป โดยเป้าหมายการส่งออกในแต่ละภูมิภาคที่มีการกำหนดถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย โดยอาเซียนกำหนดเป้าหมายการส่งออกขยายตัว 8.3%, จีน-ฮ่องกง 12%, อเมริกาเหนือ 6.1%, ลาตินอเมริกา 6%, รัสเซีย 10%, ตะวันออกกลาง 3%, ไต้หวัน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 7%
