"ประยุทธ์ 4.0" โหมออนไลน์ เก็บแต้มการเมือง
หลายปีมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนหยัดให้ข้อมูลกับประชาชนผ่านสื่อกระแสหลักในรายการ "เดินหน้าประเทศไทย" และรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" มาต่อเนื่อง
ปรับโฉมรายการมาก็หลายครั้ง ทำตั้งแต่ปรับเสื้อผ้า หน้าผม ฉาก เพลงประกอบ จนกระทั่งเรื่องของเครื่องแต่งกาย จากสวมเครื่องแบบทหาร มาใส่สูตผูกไท เปลี่ยนจากท่ายืนมานั่งพูด ยืนหลังโพเดียมมานั่งคุยกับ พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ รายการเดินหน้าประเทศไทยเอง ทางทีมโฆษกสำนักนายกฯ ก็พยายามปรับรูปแบบ จากให้รัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีมานั่งสนทนากับผู้ดำเนินรายการ ปรับใหม่เป็นรายงานพิเศษ บางครั้งยกกองไปถ่ายทำกันนอกสถานที่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรายการ รวมถึงดึงเหล่า "เซเลบ" จากทุกวงการมาช่วยดึงเรตติ้ง
กระทั่งล่าสุด ประกาศลุยสื่อออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย เพื่อยิงข้อมูลข่าวสารตรงถึงประชาชน และเปิดรับฟังความเห็นพร้อมกัน 4 ช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว, เพจเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกม สะท้อนถึงความพร้อมทางการเมืองแบบเต็มตัว
ยอดคนติดตามพุ่งไม่หยุด
"พล.อ.ประยุทธ์" ไม่ใช่ผู้นำคนแรกที่หันมาใช้โซเชียลมีเดีย มีผู้นำหลายประเทศที่ให้ความสำคัญกับช่องทางนี้ ดังเช่น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา รวมถึงสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่หันมาใช้ช่องทางนี้อย่างจริงจังในการสื่อสารและเข้าถึงประชาชน รวมทั้งเป็นช่องทางแสดงความเห็นในประเด็นต่าง ๆ กับคนทั่วโลก
หลังเปิดตัวเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ไปได้ไม่กี่ชั่วโมง มียอดกดถูกใจ กดติดตาม มีข้อความแสดงความเห็นทั้งเชิงลบและเชิงบวกจำนวนมาก จากข้อมูล ณ วันที่ 16 ต.ค. มียอดคนกดไลก์ 135,619 คน และยอดคนกดติดตามเพจอยู่ที่ 142,521 คน ซึ่งยังจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ
ขณะที่ อินสตาแกรม Prayut Chan-o-cha และยอดทวิตเตอร์ Prayut Chan-o-cha ที่เพิ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับแบบเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกฯ และทีมงานใกล้ชิดเป็นแอดมินดูแลเพจเองทั้งหมด เพื่อใช้เป็นช่องทางที่นายกฯ จะสื่อสารถึงประชาชนโดยตรง จะมีการเผยแพร่การทำงาน รวมถึงเผยแพร่มุมสบาย หรือ ไลฟ์สไตล์ของนายกฯ ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ทุกช่องทางเปิดให้ประชาชนได้สื่อสารกับนายกฯ ได้โดยตรง ซึ่งจะต่างจากเพจอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ที่เป็นทีมงานหรือบุคคลอื่นเป็นคนจัดทำขึ้น"
กองหนุนเปิดเพจเชียร์อื้อ
ขณะเดียวกัน ก็มี "กองทัพไซเบอร์" ที่เปิดเพจออกมาทำหน้าที่สนับสนุน ชี้แจง ให้ข้อมูลกับประชาชน รวมไปถึงแก้ความเข้าใจผิด ตอบโต้ขั้วตรงข้ามอย่างดุเดือดมากมายหลาย 10 เพจด้วยกัน
"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูลเฉพาะเพจเฟซบุ๊ก พบว่า ปัจจุบันมีร่วม 20 เพจ ที่ยังคงเคลื่อนไหวให้ข้อมูลอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น เพจที่ใช้ชื่อว่า "นายกเป็นคนตลก" เห็นได้ชัดว่า ออกมาเพื่อลดโทน ลบภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีบุคลิกเอาจริงเอาจัง เคร่งขรึม นำเสนอบางแง่มุมให้เห็นว่า นายกฯประยุทธ์ เองก็มีมุมตลกขบขันอยู่ด้วยเหมือนกัน เพจนี้มีคนกดติดตามเพจอยู่ถึง 1,227,100 คน
จากผลตอบรับดังกล่าวทำให้เกิดเพจที่ใช้ชื่อว่า "นายกเป็นคนตลก V.2" ตามมา ทั้งยังมีเพจที่ใช้ชื่อ "ลุงตู่ตูน" ที่เลือกสื่อสารผ่านตัวการ์ตูนเลียนแบบตัว พล.อ.ประยุทธ์ มีคนกดติดตามเพจนี้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ขณะที่ บางเพจประกาศชัดว่า เป็นกองเชียร์ของ พล.อ. ประยุทธ์ เช่น เพจที่ชื่อ "มั่นใจว่า คนไทยเกิน 1 ล้าน สนับสนุนนายกลุงตู่ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง" เพจแรก ๆ ที่เกิดขึ้นมา มีคนกดติดตามอยู่ที่ 226,936 คน
นอกจากนี้ ยังมีเพจ "ลุงตู่ FC" ที่มีคนกดติดตามอยู่เกือบ 7 หมื่นคน เพจที่ใช้ชื่อ "ขอล้าน Like สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก" มีคนกดติดตามอยู่ 311,222 คน เพจ "ทันข่าว ร่วมก้าวกับลุงตู่ สู่อนาคตชาติไทย" มียอดสมาชิกอยู่ประมาณ 20,000 คน
รวมถึงเพจที่ใช้ชื่อว่า "เดินตามลุงตู่หมาไม่กัด" ระบุวัตถุประสงค์การตั้งเพจไว้ว่า เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร แต่เชียร์คนตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีเพจที่ใช้ชื่อว่า "ทันข่าว ร่วมก้าว กับลุงตู่ สู่อนาคตชาติไทย" มียอดสมาชิกจำนวน 20,000 คน รวมถึงเพจ "ทีมลุงตู่", "เชียร์ลุง", "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Fanclub" และที่ให้กำลังใจ เช่น เพจที่ใช้ชื่อ "ลุงตู่สู้ไม่ถอย" เป็นต้น
แต่เพจที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามทุกประเด็น ดุเดือด เผ็ดร้อนถึงพริกถึงขิง ต้องยกให้เพจ "Thaipakdee Royalthaiarmy" และ เพจ "Oel Yin"
แน่นอน การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเปิดเพจต่าง ๆ เพื่อรุกสื่อออนไลน์ ในช่วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดการตีความไปได้ว่า กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเล่นการเมืองเต็มตัวนั่นเอง
ปรับโฉมรายการมาก็หลายครั้ง ทำตั้งแต่ปรับเสื้อผ้า หน้าผม ฉาก เพลงประกอบ จนกระทั่งเรื่องของเครื่องแต่งกาย จากสวมเครื่องแบบทหาร มาใส่สูตผูกไท เปลี่ยนจากท่ายืนมานั่งพูด ยืนหลังโพเดียมมานั่งคุยกับ พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ รายการเดินหน้าประเทศไทยเอง ทางทีมโฆษกสำนักนายกฯ ก็พยายามปรับรูปแบบ จากให้รัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีมานั่งสนทนากับผู้ดำเนินรายการ ปรับใหม่เป็นรายงานพิเศษ บางครั้งยกกองไปถ่ายทำกันนอกสถานที่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรายการ รวมถึงดึงเหล่า "เซเลบ" จากทุกวงการมาช่วยดึงเรตติ้ง
กระทั่งล่าสุด ประกาศลุยสื่อออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย เพื่อยิงข้อมูลข่าวสารตรงถึงประชาชน และเปิดรับฟังความเห็นพร้อมกัน 4 ช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว, เพจเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกม สะท้อนถึงความพร้อมทางการเมืองแบบเต็มตัว
ยอดคนติดตามพุ่งไม่หยุด
"พล.อ.ประยุทธ์" ไม่ใช่ผู้นำคนแรกที่หันมาใช้โซเชียลมีเดีย มีผู้นำหลายประเทศที่ให้ความสำคัญกับช่องทางนี้ ดังเช่น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา รวมถึงสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่หันมาใช้ช่องทางนี้อย่างจริงจังในการสื่อสารและเข้าถึงประชาชน รวมทั้งเป็นช่องทางแสดงความเห็นในประเด็นต่าง ๆ กับคนทั่วโลก
หลังเปิดตัวเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ไปได้ไม่กี่ชั่วโมง มียอดกดถูกใจ กดติดตาม มีข้อความแสดงความเห็นทั้งเชิงลบและเชิงบวกจำนวนมาก จากข้อมูล ณ วันที่ 16 ต.ค. มียอดคนกดไลก์ 135,619 คน และยอดคนกดติดตามเพจอยู่ที่ 142,521 คน ซึ่งยังจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ
ขณะที่ อินสตาแกรม Prayut Chan-o-cha และยอดทวิตเตอร์ Prayut Chan-o-cha ที่เพิ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับแบบเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกฯ และทีมงานใกล้ชิดเป็นแอดมินดูแลเพจเองทั้งหมด เพื่อใช้เป็นช่องทางที่นายกฯ จะสื่อสารถึงประชาชนโดยตรง จะมีการเผยแพร่การทำงาน รวมถึงเผยแพร่มุมสบาย หรือ ไลฟ์สไตล์ของนายกฯ ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ทุกช่องทางเปิดให้ประชาชนได้สื่อสารกับนายกฯ ได้โดยตรง ซึ่งจะต่างจากเพจอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ที่เป็นทีมงานหรือบุคคลอื่นเป็นคนจัดทำขึ้น"
กองหนุนเปิดเพจเชียร์อื้อ
ขณะเดียวกัน ก็มี "กองทัพไซเบอร์" ที่เปิดเพจออกมาทำหน้าที่สนับสนุน ชี้แจง ให้ข้อมูลกับประชาชน รวมไปถึงแก้ความเข้าใจผิด ตอบโต้ขั้วตรงข้ามอย่างดุเดือดมากมายหลาย 10 เพจด้วยกัน
"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูลเฉพาะเพจเฟซบุ๊ก พบว่า ปัจจุบันมีร่วม 20 เพจ ที่ยังคงเคลื่อนไหวให้ข้อมูลอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น เพจที่ใช้ชื่อว่า "นายกเป็นคนตลก" เห็นได้ชัดว่า ออกมาเพื่อลดโทน ลบภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีบุคลิกเอาจริงเอาจัง เคร่งขรึม นำเสนอบางแง่มุมให้เห็นว่า นายกฯประยุทธ์ เองก็มีมุมตลกขบขันอยู่ด้วยเหมือนกัน เพจนี้มีคนกดติดตามเพจอยู่ถึง 1,227,100 คน
จากผลตอบรับดังกล่าวทำให้เกิดเพจที่ใช้ชื่อว่า "นายกเป็นคนตลก V.2" ตามมา ทั้งยังมีเพจที่ใช้ชื่อ "ลุงตู่ตูน" ที่เลือกสื่อสารผ่านตัวการ์ตูนเลียนแบบตัว พล.อ.ประยุทธ์ มีคนกดติดตามเพจนี้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ขณะที่ บางเพจประกาศชัดว่า เป็นกองเชียร์ของ พล.อ. ประยุทธ์ เช่น เพจที่ชื่อ "มั่นใจว่า คนไทยเกิน 1 ล้าน สนับสนุนนายกลุงตู่ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง" เพจแรก ๆ ที่เกิดขึ้นมา มีคนกดติดตามอยู่ที่ 226,936 คน
นอกจากนี้ ยังมีเพจ "ลุงตู่ FC" ที่มีคนกดติดตามอยู่เกือบ 7 หมื่นคน เพจที่ใช้ชื่อ "ขอล้าน Like สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก" มีคนกดติดตามอยู่ 311,222 คน เพจ "ทันข่าว ร่วมก้าวกับลุงตู่ สู่อนาคตชาติไทย" มียอดสมาชิกอยู่ประมาณ 20,000 คน
รวมถึงเพจที่ใช้ชื่อว่า "เดินตามลุงตู่หมาไม่กัด" ระบุวัตถุประสงค์การตั้งเพจไว้ว่า เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร แต่เชียร์คนตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีเพจที่ใช้ชื่อว่า "ทันข่าว ร่วมก้าว กับลุงตู่ สู่อนาคตชาติไทย" มียอดสมาชิกจำนวน 20,000 คน รวมถึงเพจ "ทีมลุงตู่", "เชียร์ลุง", "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Fanclub" และที่ให้กำลังใจ เช่น เพจที่ใช้ชื่อ "ลุงตู่สู้ไม่ถอย" เป็นต้น
แต่เพจที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามทุกประเด็น ดุเดือด เผ็ดร้อนถึงพริกถึงขิง ต้องยกให้เพจ "Thaipakdee Royalthaiarmy" และ เพจ "Oel Yin"
แน่นอน การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเปิดเพจต่าง ๆ เพื่อรุกสื่อออนไลน์ ในช่วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดการตีความไปได้ว่า กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเล่นการเมืองเต็มตัวนั่นเอง
