"สุพัฒน์" รับข้อเสนอ "เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์" ชงรัฐมนตรีเกษตรต่อ
ถกนัดแรก "สุพัฒน์" รับข้อเสนอ "เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์" เล็งผลดีภาพรวมยางทั้งประเทศ ประโยชน์วิน-วิน ด้าน บอสใหญ่เปิดแผนเมกะโปรเจ็กต์ลงทุน 5 แสนล้าน ดึงงานวิจัย มอ. ปั้นแบรนด์ยา-เครื่องสำอางขายทั่วโลก ชวนชาวสวนร่วมขายยางป้อน การันตีราคาสูงกว่าตลาด 20-30 บาท/กก. กยท. ยัน! พื้นที่เช่าคนละที่กับกระทรวงทรัพย์ฯ ยึด ล่าสุด ขอขยายเวลาส่งเอกสารเรียบร้อยแล้ว
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผลจากการพบ บริษัท เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด (17 ต.ค. 61) นำโดย นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร และทีมงาน ได้เข้ามาพูดคุย เบื้องต้น ยังไม่ได้สรุปอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการรับข้อเสนอเพื่อส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป โดยมองภาพที่บริษัทได้นำมาเสนอจะได้ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะกลางน้ำกับปลายน้ำ แล้วจะเกิดประโยชน์กับชาวสวนยาง บริษัทนี้มีความตั้งใจ ถ้าบริษัทนี้ดำเนินการได้ตามโครงการที่ว่านี้ ชาวสวนยางก็มีความมั่นใจว่าจะขายยางได้ในราคาที่เป็นธรรมและเป็นราคาที่น่าจะพอใจ ทำให้ชาวสวนยางมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้
"ในแง่ของเอกชนเอง การลงทุนคงศึกษามาแล้ว ว่า การที่จะไปซื้อวัตถุดิบมาเป็นต้นทุนที่เหมาะสม ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาซึ่งกระแสไฟฟ้าและผลผลิตต่าง ๆ ที่ทำตลาดได้ มีรายได้ที่ทำให้บริษัทสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ปัญหาต่อไปนี้ ก็คือ จะต้องมาคุยเพิ่มเติมกันอย่างไรต่อไป เพื่อให้เอกชนและชาวสวนยางได้ประโยชน์ และราชการก็มาเป็นตัวกลางในการที่จะคอยดูแล ในขณะที่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็ดูแลอยู่แล้วในเรื่องยางพาราทั้งระบบ จะได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางด้วย และสนับสนุนในส่วนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเป็นตัววัตถุประสงค์หลัก เลยมองว่าผลประโยชน์จะตกอยู่กับประเทศ"
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยถึงเรื่องการลงทุน แต่มองว่า เอกชนไม่ขัดข้อง เท่าที่ฟังบริษัทพร้อมที่จะลงทุน เพียงแต่ต้องการพื้นที่ดินที่จะสร้างโรงงาน และเมื่อสร้างโรงงานแล้ว บริษัทเองก็มีความมั่นใจว่าจะต้องมีแหล่งรองรับวัตถุดิบ หมายความว่า มีพื้นที่ปลูกยาง มีเกษตรกรชาวสวนยางที่จะต้องป้อนวัตถุดิบให้ นั่นคือ ส่วนสำคัญ และที่สำคัญ ผมต้องให้เครดิตเอกชน การที่เขาจะมาคุยได้วันนี้ แสดงว่าจะต้องไปศึกษาเรื่องความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการอยู่แล้ว ว่า โครงการนี้เป็นไปได้ถ้าจะลงทุน มี A บาท และมีผลผลิตมาไปขาย B บาท บริษัทได้กำไร C บาท ที่บริษัทเห็นว่าเป็นกำไรที่เหมาะสมอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญ C บาท ไม่ต้องการที่จะรวยคนเดียว แต่อยากที่จะปันส่วนคืนไปยังเกษตรกรชาวสวนยาง ผมว่านี่คือสุดยอด
ด้าน นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด กล่าวยืนยัน การลงทุนเมกะโปรเจค 5 แสนล้านบาท บนพื้นที่เช่าการยางแห่งประเทศไทยกว่า 2 หมื่นไร่ ณ พื้นที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยบริษัทจะมีโรงงานนวัตกรรมที่ผลิตจากยางพารา ทั้งเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ยา ในโครงการพัฒนายางพาราสู่ความยั่งยืน โดยนำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พัฒนาเข้าสู่ระบบการผลิตและการตลาด โดยบริษัทจะมีการทำสัญญารับประกันซื้อน้ำยางในโครงการนี้ราคาสูงกว่าตลาดปกติ 20-30 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 30 ปี เท่ากับสัญญาเช่า ส่วนรายละเอียดที่มาที่ไปของโครงการ พร้อมเคลียร์ทุกเรื่องที่คาใจ ติดตามได้ ใน "ฐานเศรษฐกิจ" หนังสือพิมพ์ฉบับวันเสาร์นี้ อย่าพลาด !!
ขณะที่ นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ที่ดินที่บริษัทจะเช่าเป็นคนละแปลงกันกับที่ดินที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะยึดในวันที่ 18 ต.ค. 2561 นี้ ล่าสุด นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่า กยท. ได้ทำหนังสือขอขยายเวลาออกไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องเอกสารที่จะส่งให้ไม่มีปัญหา คาดว่าจะส่งได้ตามกำหนดเวลาที่ขอขยาย ส่วนเรื่องที่บริษัทจะมาเช่าใช้พื้นที่ดินดังกล่าวนี้ คาดว่ายังไม่ได้สรุปในเร็ว ๆ นี้ ยังอีกไกล ทั้งข้อกฎหมายและเรื่องอื่น ๆ
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผลจากการพบ บริษัท เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด (17 ต.ค. 61) นำโดย นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร และทีมงาน ได้เข้ามาพูดคุย เบื้องต้น ยังไม่ได้สรุปอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการรับข้อเสนอเพื่อส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป โดยมองภาพที่บริษัทได้นำมาเสนอจะได้ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะกลางน้ำกับปลายน้ำ แล้วจะเกิดประโยชน์กับชาวสวนยาง บริษัทนี้มีความตั้งใจ ถ้าบริษัทนี้ดำเนินการได้ตามโครงการที่ว่านี้ ชาวสวนยางก็มีความมั่นใจว่าจะขายยางได้ในราคาที่เป็นธรรมและเป็นราคาที่น่าจะพอใจ ทำให้ชาวสวนยางมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้
"ในแง่ของเอกชนเอง การลงทุนคงศึกษามาแล้ว ว่า การที่จะไปซื้อวัตถุดิบมาเป็นต้นทุนที่เหมาะสม ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาซึ่งกระแสไฟฟ้าและผลผลิตต่าง ๆ ที่ทำตลาดได้ มีรายได้ที่ทำให้บริษัทสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ปัญหาต่อไปนี้ ก็คือ จะต้องมาคุยเพิ่มเติมกันอย่างไรต่อไป เพื่อให้เอกชนและชาวสวนยางได้ประโยชน์ และราชการก็มาเป็นตัวกลางในการที่จะคอยดูแล ในขณะที่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็ดูแลอยู่แล้วในเรื่องยางพาราทั้งระบบ จะได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางด้วย และสนับสนุนในส่วนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเป็นตัววัตถุประสงค์หลัก เลยมองว่าผลประโยชน์จะตกอยู่กับประเทศ"
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยถึงเรื่องการลงทุน แต่มองว่า เอกชนไม่ขัดข้อง เท่าที่ฟังบริษัทพร้อมที่จะลงทุน เพียงแต่ต้องการพื้นที่ดินที่จะสร้างโรงงาน และเมื่อสร้างโรงงานแล้ว บริษัทเองก็มีความมั่นใจว่าจะต้องมีแหล่งรองรับวัตถุดิบ หมายความว่า มีพื้นที่ปลูกยาง มีเกษตรกรชาวสวนยางที่จะต้องป้อนวัตถุดิบให้ นั่นคือ ส่วนสำคัญ และที่สำคัญ ผมต้องให้เครดิตเอกชน การที่เขาจะมาคุยได้วันนี้ แสดงว่าจะต้องไปศึกษาเรื่องความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการอยู่แล้ว ว่า โครงการนี้เป็นไปได้ถ้าจะลงทุน มี A บาท และมีผลผลิตมาไปขาย B บาท บริษัทได้กำไร C บาท ที่บริษัทเห็นว่าเป็นกำไรที่เหมาะสมอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญ C บาท ไม่ต้องการที่จะรวยคนเดียว แต่อยากที่จะปันส่วนคืนไปยังเกษตรกรชาวสวนยาง ผมว่านี่คือสุดยอด
ด้าน นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด กล่าวยืนยัน การลงทุนเมกะโปรเจค 5 แสนล้านบาท บนพื้นที่เช่าการยางแห่งประเทศไทยกว่า 2 หมื่นไร่ ณ พื้นที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยบริษัทจะมีโรงงานนวัตกรรมที่ผลิตจากยางพารา ทั้งเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ยา ในโครงการพัฒนายางพาราสู่ความยั่งยืน โดยนำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พัฒนาเข้าสู่ระบบการผลิตและการตลาด โดยบริษัทจะมีการทำสัญญารับประกันซื้อน้ำยางในโครงการนี้ราคาสูงกว่าตลาดปกติ 20-30 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 30 ปี เท่ากับสัญญาเช่า ส่วนรายละเอียดที่มาที่ไปของโครงการ พร้อมเคลียร์ทุกเรื่องที่คาใจ ติดตามได้ ใน "ฐานเศรษฐกิจ" หนังสือพิมพ์ฉบับวันเสาร์นี้ อย่าพลาด !!
ขณะที่ นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ที่ดินที่บริษัทจะเช่าเป็นคนละแปลงกันกับที่ดินที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะยึดในวันที่ 18 ต.ค. 2561 นี้ ล่าสุด นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่า กยท. ได้ทำหนังสือขอขยายเวลาออกไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องเอกสารที่จะส่งให้ไม่มีปัญหา คาดว่าจะส่งได้ตามกำหนดเวลาที่ขอขยาย ส่วนเรื่องที่บริษัทจะมาเช่าใช้พื้นที่ดินดังกล่าวนี้ คาดว่ายังไม่ได้สรุปในเร็ว ๆ นี้ ยังอีกไกล ทั้งข้อกฎหมายและเรื่องอื่น ๆ
