ที่ดินวิวดอยนางนอนพุ่ง กระแสท่องเที่ยวหนุนราคาแตะไร่ละ 6 ล้านบาท

20 ต.ค. 2561 | 02:15 น.
ท่องเที่ยวถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน เชียงราย ยังแรงไม่ตก ส่งผลให้ที่ดินเห็นวิวดอยนางนอนราคาพุ่งไปไกลกว่า 3-5 เท่าตัว ล่าสุดประกาศขายไร่ละ 6 ล้านบาท เพิ่มจากไร่ละ 2 ล้านบาท เมื่อ 1-2 ปีก่อน ส่วนที่นาที่อยู่ลึกเข้าไปขยับจากไร่ละ 3-5 แสนบาท เป็น 1-2 ล้านบาท

lo02 (2)
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” รายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ขณะนี้กระแสท่องเที่ยวถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอนมาแรงมาก หลังปฏิบัติการ ค้นหา-ช่วยเหลือ-ส่งกลับ โค้ชและนักเตะฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาเดมี่ 13 ชีวิต ที่เข้าไปท่องเที่ยวแล้วติดอยู่ในถํ้าหลวง วนอุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2561 จนกลายเป็นข่าวใหญ่ ที่มีผู้คนติดตามมากที่สุดในโลกข่าวหนึ่ง จนคาดการณ์กันว่าในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สายจะมีคลื่นนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนถํ้าหลวงไปเป็นจำนวนมาก และมีอีกกระแสหนึ่งที่กลับมาคึกคักไม่แพ้กัน คือ แวดวงนายหน้าซื้อขายที่ดิน ที่มีความเคลื่อนไหวคึกคัก ที่ดินที่มีทำเลดีสามารถมองเห็นวิวดอยนางนอน กำลังเป็นที่ต้องการของนายทุน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าวจากนายหน้าค้าที่ดินอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ดินที่มีโฉนดบริเวณทางเข้าที่ทำการถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอนและใกล้เคียงมีอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าซึ่งอยู่ในการดูแลของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ทำเลที่ดินสามารถมองเห็นวิวดอยนางนอนซึ่งเป็นโฉนดนั้น เป็นที่ต้องการมากอยู่แล้ว โดยทั่วไปทำให้มีราคาสูง จะเห็นว่าราคาที่ดินฝั่งซ้ายของถนนพหลโยธินขาขึ้นจากอำเภอแม่จันจนถึงอำเภอแม่สายจะสูงกว่าฝั่งขวา และในประกาศขายที่ดินมักจะอ้างเสมอว่าสามารถมองเห็นวิวดอยนางนอน ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของที่ดินที่มีการประกาศขายกันในระยะหลังๆ นับจากตั้งแต่ถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

“ยอมรับว่าหลังถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก กระแสความต้องการที่ดินที่มองเห็นวิวดอยนางนอนมีมากขึ้น และก็เป็นธรรมดาที่เมื่อมีคนต้องการมากขึ้น ราคาก็จะปรับสูงขึ้นตามไปด้วย เท่าที่ได้ติดตามราคาการประกาศขายที่ดินมีการปรับราคามากันโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากข่าวถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอนเป็นข่าวดัง ราคาที่ดินปรับขึ้นจากเดิม 3-5 เท่าตัว ตัวอย่างเช่นที่ดินในเขตบ้านสันทรายปูยี่ ตำบลโป่งผา สามารถมองเห็นวิวดอยนางนอนขนาด 1 ไร่ มีการประกาศขายในราคาไร่ละ 6 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ปีสองปีราคาไม่ถึงไร่ละ 2 ล้านบาท ส่วนที่นาที่อยู่ลึกเข้าไปแต่หากมองเห็นวิวดอยนางนอน เดิมประกาศขาย 3-5 แสนบาทต่อไร่ ตอนนี้ราคาขยับขึ้นเป็นไร่ละ 1-2 ล้านบาท”

แหล่งข่าวคนเดิม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ราคาที่ดินที่มีการปรับขึ้นนั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การซื้อขายเปลี่ยนมือยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหลายคนก็ยังคงรอดูทิศทางการพัฒนาวนอุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน ตลอดจนทิศทางการขับเคลื่อนของเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเชียงรายด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุนทำกิจการรีสอร์ตที่พักนั้น อาจจะไม่ได้เห็นมากนัก เนื่องจากปัจจุบันจำนวนห้องพักในอำเภอแม่สายก็มีปริมาณมากเกินกว่าความต้องการอยู่แล้ว ส่วนนายหน้าที่ใช้เทคนิคการวางเงินประกันไว้ก่อนและจะหาคนมาซื้อภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกัน ตอนนี้ได้แต่ร้อนๆ หนาวๆ เพราะมีคนสนใจมากจริง แต่ยังไม่มีการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากฟากของผู้ซื้อก็มองว่าราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นราคาที่อิงกระแสมากไป ไม่ใช่ราคาที่แท้จริงในตลาด ทำให้การตัดสินใจซื้อบางส่วนก็มีการชะลอออกไปก่อน เพื่อรอราคาที่เหมาะสม

ต่อข้อถามที่ว่ามีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาหาซื้อที่ดินแปลงใหญ่ไว้เพื่อการลงทุนหรือไม่ แหล่งข่าวระบุว่า ที่ดินแปลงใหญ่ในปัจจุบันมักจะถืออยู่โดยนักธุรกิจท้องถิ่นหรือนักลงทุนที่ได้มาซื้อไว้นานแล้ว บางแปลงก็เป็นที่ดินของบรรพบุรุษที่ได้ซื้อไว้ ดังนั้นโอกาสที่จะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือในช่วงนี้ ยังมองว่าน่าจะเกิดขึ้นยาก แนวทางที่น่าจะเป็นไปได้ในกรณีที่เป็นการลงทุนขนาดใหญ่น่าจะเป็นแนวทางที่การลงทุนร่วมกันมากกว่า อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้ติดตามสอบถาม ทั้งจากในกลุ่มนายหน้าค้าที่ดินด้วยกันเอง และสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินอำเภอแม่สาย ยังไม่พบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาซื้อที่ดินหรือมาลงทุนร่วมกับทุนท้องถิ่น ในพื้นที่บริเวณทางเข้าวนอุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน

นางสาวผกายมาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย และประธานสาขาเชียงราย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวไทย-เมียนมา-สปป.ลาว-จีน กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า “แม้ว่าตอนนี้ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 หมูป่าจะจบลงไปแล้ว แต่ว่ากระแสยังคงแรง ทุกวันนี้ในแม่สายมีรถยนต์ที่มีทะเบียนต่างถิ่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก แม้ว่าถํ้าหลวงจะปิดเพื่อฟื้นฟู แต่ผู้ที่มาเยือนก็ยังพากันไปถ่ายรูปกับป้ายถํ้าหลวง ถ่ายรูปวิวดอยนางนอน ช่วงไฮซีซันฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งปกติก็มีคนมาท่องเที่ยวแม่สายกันมากอยู่แล้ว ทราบว่าปีนี้อัตราการจองโรงแรมที่พักมาแรงมาก ภาคการท่องเที่ยวของแม่สายเชื่อว่า ปีนี้น่าจะเป็นไฮซีซันที่ร้อนแรงที่สุดของแม่สายเลยทีเดียว”

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,410 วันที่ 18-20 ตุลาคม 2561 090861-1927-9-335x503-8-335x503