ที่นี่ไม่มีความลับ : "อนุทิน" ทำพรรคภูมิใจไทย รอ "ส้มหล่น"!!!

การประกาศรุกคืบทางการเมือง ด้วยสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เหมือนจะเสนอตัวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ประชาชนตัดสิน ท่ามกลาง  “เขาควาย” ที่ห่ำหั่นกัน 3 ขั้ว คือ “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ” แต่เมื่อถูกถามว่าเลือกข้างไหนคนอย่าง “เสี่ยหนู” กลับบอกว่า “ภูมิใจไทย” เข้าได้กับทุกข้าง ภาษาการเมืองเรียกว่า “แทงกั๊ก”

แต่ต้องยอมรับว่า การกำหนด positioning หรือยุทธศาสตร์ พรรคเบอร์ 4 แบบภูมิใจไทย เป็นยุทธศาสตร์ “เพื่อความอยู่รอด” ที่หลายคนในพรรค รวมทั้งผู้มีบารมีข้างหลังพรรคอย่าง เนวิน ชิดชอบ “เห็นด้วย”กับแนวทางนี้ ที่สำคัญ 2 เจ้าสัวผู้สนับสนุนพรรค (อย่างไม่เป็นทางการ)ตอบรับแนวทางดังกล่าว


เพราะการกำหนด “positioning ลำดับ 4” คือการจองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแน่ๆ แต่ฝันของ เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ได้หยุดอยู่แค่การร่วมรัฐบาล จึงจำเป็นจะต้องขยายที่นั่งในสภาของพรรคภูมิใจไทย ที่เคยได้รับ 34 ที่นั่ง ในการลือกตั้งเมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 ให้เป็นมากกว่า50 ที่นั่งในการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นข่าว “ดึง-ดูด” กลุ่มบ้านใหญ่แห่งนครปฐม จากตระกูลสะสมทรัพย์ และกลุ่มบ้านริมน้ำ ของ สุชาติ ตันเจริญ แม้จะตกลงกันยังไม่ได้ก่อนการประชุมพรรคเมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เพราะ “เงื่อนไข” ยังไม่ลงตัว แต่ความพยายามของเสี่ยหนู ยังคงดำรงอยู่

ไม่เพียงการ “ดึง-ดูด” 2 กลุ่มข้างต้นเข้าพรรค ยังพยายามกวาดต้อนอดีตผู้สมัครซึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 2 และ 3 หรือที่เรียกกันในตลาดค้าตัวนักการเมือง เกรด B และ C เข้าพรรค เพื่อหวังคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรค เพราะทุกคะแนนมีค่า แม้ ส.ส.เขต จะสอบตก ทุกอย่างที่ทำเพื่อยุทธศาสตร์ “50 ที่นั่ง up”

[caption id="attachment_333920" align="aligncenter" width="503"] อนุทิน ชาญวีรกูล[/caption]

หาก “ภูมิใจไทย” ได้ ส.ส. 50 ที่นั่ง ก็จะไปลดจำนวน ส.ส. 3 พรรคใหญ่ที่คาดหวังว่าจะได้ และอาจจะนำไปสู่สูตรทางตันทางการเมืองที่ไม่มีใครในขั้ว 3 พรรคใหญ่ตั้งรัฐบาลได้ ทำให้พรรคที่ 4 อย่างภูมิใจไทยมีโอกาสแทรกตัว และฝันที่ อนุทิน ชาญวีรกูล จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี “ส้มหล่น” ก็เป็นไปได้ ด้วยประวัติศาสตร์การเมือง ปี 2518 ที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่พรรคกิจสังคมมีที่นั่งในสภาเพียง 18 เสียงเท่านั้น หากภูมิใจไทยทำได้เกิน 50 เสียง ทำไมจะไม่มีโอกาส “ส่มหล่น”

แต่ความจริงกับความฝันนั้น เป็นคนละเรื่องเดียวกัน หากย้อนไปดูอดีตในครั้งที่ เนวิน ชิดชอบ หอบหิ้ว ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดาของเสี่ยหนู นำพลพรรคทำศึกเลือกตั้งในปี 2554 ก็ฝันว่าจะได้ ส.ส. 70 ที่นั่ง ฝันตั้งรัฐบาลร่วมกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ขณะนั้นฝันว่าจะได้ ส.ส. 180-200 ที่นั่ง จะร่วมกันตั้งรัฐบาล 2 พรรค แต่เอาเข้าจริงไม่ถึงฝั่งฝันทั้ง 2 พรรค จึงต้องกลายเป็นฝ่ายค้านไป ภูมิใจไทยวันนั้นตั้งความฝันไว้ 70 ส.ส. แต่ของจริงได้มา 34 ที่นั่ง วันนี้ฝันใหม่ว่าจะได้ 50 ที่นั่ง ของจริงจะได้กี่ที่นั่ง ไม่มีใครตอบได้ นอกจากวันพิพากษาของประชาชน

| ที่นี่ไม่มีความลับ
|  โดย...เอราวัณ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3410 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 18-20 ต.ค.2561