ขนส่งทางบกเตือนรถโดยสารสาธารณะผิดซ้ำซากลงโทษสูงสุด

16 ต.ค. 2561 | 11:05 น.
กรมการขนส่งทางบก เตือนรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ถ้ากระทำผิดซ้ำซากลงโทษสูงสุด ถึงขั้นพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ย้ำ!!!อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน

นายกมล บูรณพงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เผยว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊ค DOM teamwork ได้แสดงตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อทดสอบพฤติกรรมการให้บริการของผู้ขับรถแท็กซี่กรณีพบลูกค้าชาวต่างชาตินั้น กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้ติดตามตัวผู้ขับรถแท็กซี่ทั้ง 3 ราย เพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริงในทันที โดยจากการสอบสวนผู้ขับรถทั้ง 3 รายให้การและยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง ตามที่ปรากฏเป็นภาพในคลิป ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ มาตรา 5(2) ประกอบมาตรา 58 กรมการขนส่งทางบก จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับรายละ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตผู้ขับรถทั้ง 3 ราย เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมเข้ารับการอบรมในเรื่องกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและบันทึกประวัติการกระทำผิดเพื่อติดตามพฤติกรรมต่อไป

bus ทั้งนี้เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพปลอดภัย แก้ปัญหากรณีกระทำผิดซ้ำซาก กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลงโทษตามกฎหมายถึงขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถผู้ขับรถโดยสารสาธารณะกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สร้างมาตรฐานคุณภาพการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ดี

ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 สั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถผู้กระทำความผิด 1 ราย ฐานกระทำการอันควรขายหน้า และพักใช้ใบอนุญาตขับรถจำนวน 59 ราย ฐานปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารจำนวน 26 ราย, ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร จำนวน 13 ราย , เก็บค่าโดยสารเกินอัตรา 4 ราย, ส่งไม่ถึงจุดหมาย 2 ราย , แสดงกิริยาไม่สุภาพ 1 ราย , ขับรถประมาท 1 ราย, ใช้รถตู้ไม่ตรงตามประเภท 2 ราย และใช้รถจักรยานยนต์ไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน 10 ราย

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้ส่งตัวผู้กระทำผิดเข้ารับการอบรมเสริมสร้างทักษะและจิตสำนึกการให้บริการที่ดี จัดเก็บประวัติการกระทำความผิดและพฤติกรรมของผู้ขับรถไว้ที่ศูนย์ประวัติผู้ขับรถสาธารณะ เพื่อประกอบการพิจารณาต่อใบอนุญาตขับรถในครั้งต่อไป ทั้งนี้หากมีการร้องเรียนหรือตรวจสอบพบการกระทำความผิดซ้ำซากข้อหาเดิม กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาลงโทษปรับสูงสุดและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนกรณีความผิดทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวร้ายแรง เช่น พฤติกรรมลามกอนาจาร กระทำชำเรา ปล้นจี้ ลักทรัพย์ มีเจตนาทำร้ายร่างกาย จะถูกส่งตัวดำเนินคดีและเพิกถอนใบอนุญาตทันที

นายกมล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกระบวนการตรวจสอบและติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างจริงจังแล้ว กรมการขนส่งทางบก ให้ความสำคัญกับการกำกับ ดูแล การให้บริการขนส่งสาธารณะทางถนนให้มีความปลอดภัยต่อประชาชนสูงสุด อีกทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่สะดวกตอบโจทย์ประชาชน พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกใช้บริการรถสาธารณะแก้ไขปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารดำเนินโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP กำหนดให้รถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ทุกคันต้องติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ จัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะ

bus2

ทั้งการยื่นความประสงค์ขอเพิ่มจำนวนผู้ขับขี่ในวินเดิม หรือขอจัดตั้งวินใหม่ เพื่อสนับสนุนผู้ขับขี่การเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง กำหนดให้ใช้รถโดยสารขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานให้บริการทดแทนรถตู้โดยสาร 10 ปี ลดความเสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสภาพรถเก่าเครื่องอุปกรณ์ชำรุดมีการใช้งานหนักอย่างต่อเนื่อง โดยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ สามารถปรึกษาขั้นตอนการจดทะเบียนรถ ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง กรมการขนส่งทางบกได้แบบครบวงจร

“หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ส่งข้อมูลหลักฐานการกระทำผิด ทางจดหมายหรือหนังสือร้องเรียนมายังกรมการขนส่งทางบก หรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเองที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน กรมการขนส่งทางบก ทางสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, แอพพลิเคชั่น DLT GPS, แอพพลิเคชั่น Taxi OK, Line ID “1584dlt”,เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/,เฟซบุ๊ก“1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”, E-Mail:[email protected] หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ (GCC1111) ทำเนียบรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทันที”

e-book-1-503x62-7-1-503x62