แนะรอซื้อ! เมื่อราคาย่อตัวลงบริเวณแนวรับที่ 1,221-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์

16 ต.ค. 2561 | 10:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานสภาวะตลาดทองคำวันที่ 16 ต.ค. 2561 ว่า ราคาแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,224.70-1,230.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศ ขายออกอยู่ที่ 19,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,050 บาทต่อบาททองคำ

ส่วนแนวโน้มวันที่ 17 ต.ค. 2561 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตที่ย่ำแย่ลงระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย หลังการหายตัวไปของผู้สื่อข่าวซาอุดิอาระเบียในตุรกี ขณะที่ คณะทำงานร่วมระหว่างซาอุดีอาระเบียและตุรกีเริ่มเข้าตรวจค้นสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในเมืองอิสตันบูล ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากความตึงเครียดระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวกต่อการเจรจาเบร็กซิท จนหนุนค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ ซึ่งการประชุมสุดยอดประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 17 ต.ค. นี้ อาจสามารถเจรจาหาข้อยุติประเด็นพรมแดนทางบกของอังกฤษกับไอร์แลนด์

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ระบุว่า แม้การบรรลุข้อตกลงเบร็กซิท 90% ของข้อตกลงได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อตกลงการถอนตัวจะประสบความสำเร็จ แต่เธอได้กล่าวว่า ในขณะนี้ดูเหมือนการเจรจาอาจจะยากมากขึ้นเล็กน้อย ความไม่แน่นอนดังกล่าว ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ เพื่อรอความชัดเจนจากการประชุมอีกครั้ง

ประกอบกับ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ประจำวันที่ 25-26 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนวันพุธ (17 ต.ค.) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ แนวโน้มการปรับลดคาดการณ์ความเร่งในการขึ้นดอกเบี้ยลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มลดลง หลังจากรายงานเงินเฟ้อทั่วไปประจำเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดการณ์ และยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือน ก.ย. ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมากว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%

นอกจากนี้ แนวโน้มราคาทองคำเป็นบวกมากขึ้น หลังจากกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลก กลับมาเพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกัน IMF เปิดเผยว่า โปแลนด์เพิ่มการถือครองทองคำสู่ระดับสูงสุดในรอบ 35 ปี เบื้องต้น แนะนำให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่า ราคาอาจอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,221-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงบริเวณแนวรับที่ 1,221-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบ หากราคาสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขาย และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่ นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก