'ถั่งเช่าฟาร์ม' โหมสร้างแบรนด์! ปั้นรายได้โตทะยานเดือนละ 20%
"ถั่งเช่าฟาร์ม" เดินหน้าสร้างแบรนด์เต็มตัว พร้อมเสิร์ฟผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภค ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แย้มปีหน้าเข้าจิฟฟี่และร้านสบายใจ ควบคู่ทำตลาดต่างประเทศ เล็งรีแพ็กเกจให้เป็นมาตรฐาน เชื่อรายได้เติบโตเดือนละ 20%
นางสาวเสมอขวัญ ตะพังพินิจการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถั่งเช่าฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าชนิดแคปซูลและชนิดนํ้าแบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" (Tang Chao Farm) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในระยะหลังจากนี้ บริษัทจะเริ่มทำตลาดแบรนด์ของตนเองอย่างเต็มตัว หลังจากที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของการรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าชนิดแคปซูลเป็นหลัก โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการสร้างแบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" เพื่อทำการตลาดทั้งชนิดนํ้าและแคปซูล
ทั้งนี้ ช่องทางการทำตลาดหลักของแบรนด์ จะดำเนินการทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในส่วนของออนไลน์จะดำเนินกลยุทธ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก (Tangchaofarm), เว็บไซต์ และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท ขณะที่ ช่องทางออฟไลน์จะจำหน่ายผ่านร้านคิวเฮิร์บ (Q-Herb) ทุกสาขาในกรุงเทพมหานคร, ร้าน BAAC Bangkok Anti-Aging Center, เดอะมอลล์ บางกะปิ ส่วนต่างจังหวัด มีจำหน่ายที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี, โรงพยาบาลนครปฐม ช็อป 24 ชั่วโมงของบริษัท ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ และตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัด ซึ่งบริษัทจะกำหนดให้มีตัวแทนจังหวัดละ 1 ราย
ด้านกลยุทธ์ในการขยายตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าในปีหน้านั้น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" จะมีวางจำหน่ายที่ร้านจิฟฟี่ (Jiffy) ทั้ง 153 สาขา และที่ร้านสบายใจ (Sabuyjai) ขณะที่ ทางด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศ ล่าสุด กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่ประเทศกัมพูชา ลาว และฮ่องกง ซึ่งปัจจุบัน กำลังทดลองการทำตลาดอยู่
อย่างไรก็ดี บริษัทยังจะดำเนินการเพื่อปรับปรุงแพ็กเกจจิ้งใหม่ หรือ รีแพ็กเกจ (Repackage) เพื่อรองรับการทำตลาดทางด้านส่งออก เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นคนไทย ได้ทดลองนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ซึ่งพบว่า ยังติดปัญหาเรื่องของแพ็กเกจ บริษัทจึงต้องดำเนินการปรับปรุงดังกล่าวเพื่อให้เป็นมาตรฐานทั้งหมด โดยในเดือน พ.ย. นี้ จะมีการเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่าย ซึ่งทางบริษัทได้มีการลงทะเบียน FDA ของสหรัฐฯ ไว้เรียบร้อยแล้ว
"จากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นได้เดือนละ 20% ในทุกเดือน โดยที่ยังเพิ่มไม่มาก ก็เพราะบริษัทเพิ่งเริ่มทำตลาดด้วยแบรนด์ตนเองอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเรื่องการทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์"
นางสาวเสมอขวัญ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" นั้น หากเป็นในรูปแบบของแคปซูลจะอยู่ที่การคัดเลือกสมุนไพร 2 ชนิดที่ดีที่สุด 3 อันดับแรกของโลกมา อย่าง ถั่งเช่าและโสม มาใช้เป็นส่วนผสม โดยมีความเข้มข้นของสมุนไพรถึง 400 มิลลิกรัม สามารถรับประทานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขณะที่ ชนิดนํ้าพร้อมดื่มจะอยู่ที่การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ พักผ่อนน้อย โดยสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้กระชุ่มกระชวย สดชื่น นอนหลับสบาย ไม่เหนื่อยง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอน
ส่วนหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ มองว่าอยู่ที่การทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค โดยจะเปรียบผู้บริโภคเสมือนบุคคลในครอบครัว และผลิตภัณฑ์ทุกตัวตนจะเป็นรับประทานเองด้วยในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นจะต้องคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาใช้ ไม่ให้มีสารปนเปื้อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เรียกว่าเป็นการนำสมุนไพรมาใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้ป่วย
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3410 วันที่ 18-20 ตุลาคม 2561
นางสาวเสมอขวัญ ตะพังพินิจการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถั่งเช่าฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าชนิดแคปซูลและชนิดนํ้าแบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" (Tang Chao Farm) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในระยะหลังจากนี้ บริษัทจะเริ่มทำตลาดแบรนด์ของตนเองอย่างเต็มตัว หลังจากที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของการรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าชนิดแคปซูลเป็นหลัก โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการสร้างแบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" เพื่อทำการตลาดทั้งชนิดนํ้าและแคปซูล
ทั้งนี้ ช่องทางการทำตลาดหลักของแบรนด์ จะดำเนินการทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในส่วนของออนไลน์จะดำเนินกลยุทธ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก (Tangchaofarm), เว็บไซต์ และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท ขณะที่ ช่องทางออฟไลน์จะจำหน่ายผ่านร้านคิวเฮิร์บ (Q-Herb) ทุกสาขาในกรุงเทพมหานคร, ร้าน BAAC Bangkok Anti-Aging Center, เดอะมอลล์ บางกะปิ ส่วนต่างจังหวัด มีจำหน่ายที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี, โรงพยาบาลนครปฐม ช็อป 24 ชั่วโมงของบริษัท ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ และตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัด ซึ่งบริษัทจะกำหนดให้มีตัวแทนจังหวัดละ 1 ราย
ด้านกลยุทธ์ในการขยายตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าในปีหน้านั้น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" จะมีวางจำหน่ายที่ร้านจิฟฟี่ (Jiffy) ทั้ง 153 สาขา และที่ร้านสบายใจ (Sabuyjai) ขณะที่ ทางด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศ ล่าสุด กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่ประเทศกัมพูชา ลาว และฮ่องกง ซึ่งปัจจุบัน กำลังทดลองการทำตลาดอยู่
อย่างไรก็ดี บริษัทยังจะดำเนินการเพื่อปรับปรุงแพ็กเกจจิ้งใหม่ หรือ รีแพ็กเกจ (Repackage) เพื่อรองรับการทำตลาดทางด้านส่งออก เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นคนไทย ได้ทดลองนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ซึ่งพบว่า ยังติดปัญหาเรื่องของแพ็กเกจ บริษัทจึงต้องดำเนินการปรับปรุงดังกล่าวเพื่อให้เป็นมาตรฐานทั้งหมด โดยในเดือน พ.ย. นี้ จะมีการเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่าย ซึ่งทางบริษัทได้มีการลงทะเบียน FDA ของสหรัฐฯ ไว้เรียบร้อยแล้ว
"จากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นได้เดือนละ 20% ในทุกเดือน โดยที่ยังเพิ่มไม่มาก ก็เพราะบริษัทเพิ่งเริ่มทำตลาดด้วยแบรนด์ตนเองอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเรื่องการทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์"
นางสาวเสมอขวัญ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ถั่งเช่าฟาร์ม" นั้น หากเป็นในรูปแบบของแคปซูลจะอยู่ที่การคัดเลือกสมุนไพร 2 ชนิดที่ดีที่สุด 3 อันดับแรกของโลกมา อย่าง ถั่งเช่าและโสม มาใช้เป็นส่วนผสม โดยมีความเข้มข้นของสมุนไพรถึง 400 มิลลิกรัม สามารถรับประทานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขณะที่ ชนิดนํ้าพร้อมดื่มจะอยู่ที่การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ พักผ่อนน้อย โดยสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้กระชุ่มกระชวย สดชื่น นอนหลับสบาย ไม่เหนื่อยง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอน
ส่วนหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ มองว่าอยู่ที่การทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค โดยจะเปรียบผู้บริโภคเสมือนบุคคลในครอบครัว และผลิตภัณฑ์ทุกตัวตนจะเป็นรับประทานเองด้วยในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นจะต้องคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาใช้ ไม่ให้มีสารปนเปื้อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เรียกว่าเป็นการนำสมุนไพรมาใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้ป่วย
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3410 วันที่ 18-20 ตุลาคม 2561
