ยกมาตรฐานอีเวนต์หลังสิงคโปร์ไล่บี้
“ซีเอ็มโอ” แนะผู้ประกอบการไทยเร่งสร้างมาตรฐานการทำงานและความปลอดภัย หลังสิงคโปร์โชว์ผลงานไล่บี้ ขณะที่ภาพรวมตลาดโต 3-4% เหตุถูกย้ายงบสู่งานแสดงไลฟ์สไตล์ คาดไตรมาส 4 คึกคักจากกำลังซื้อฟื้น
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดอีเวนต์ในประเทศ ไทยยังขาดมาตรฐานด้านการทำงาน รวมถึงความปลอดภัยของโครงสร้างรวมถึงการใช้วัสดุสิ้นเปลืองโดยขาดความคุ้มค่า ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ที่มาตั้งบริษัทในประเทศไทย แม้ในปัจจุบันจะมีจำนวนน้อยกว่าบริษัทอีเวนต์ในประเทศ แต่ในด้านมาตรฐานการทำงานและระบบความปลอดภัยของเขาค่อนข้างได้เปรียบมากกว่า ซึ่งหากผู้ประกอบการในประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ในอนาคตส่วนตัวหวั่นใจว่าธุรกิจอีเวนต์สิงคโปร์จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
[caption id="attachment_333419" align="aligncenter" width="335"]
เสริมคุณ คุณาวงศ์[/caption]
ปัจจุบันภาพรวมตลาดอีเวนต์ปีนี้มีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนเพียง 3-4% ขณะที่ภาพรวมตลาดอีเวนต์ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าองค์กรใช้งบประมาณลดลง และโดนโยกย้ายเงินไปด้านการจัดคอนเสิร์ต หรืองานโชว์ที่เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการธุรกิจอีเวนต์ได้มุ่งเน้นการหารายได้ในกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้นเช่นเดียวกับบริษัทที่ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะเน้นการจัดอีเวนต์ที่ตลาด CLMV โดยไปกับแบรนด์ของไทยที่มีแผนจะขยายงานในประเทศต่างๆ ในกลุ่มประเทศดังกล่าว
“ภาพรวมตลาดธุรกิจอีเวนต์ในประเทศไทยที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ทั้งนี้มาจากลูกค้าองค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ ใช้งบประมาณการจัดอีเวนต์ (รูปแบบทางการ) ลดลงและหันไปเพิ่มงบด้านการจัดคอนเสิร์ตหรือโชว์รูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ตั้งบริษัท มิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด เพื่อรองรับกระแสที่กำลังเติบโต โดยบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการจัดปาร์ตี้คอนเสิร์ต โชว์บิซทุกประเภททั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงให้บริการจัดงานด้าน Private Lifestyle อาทิ จัดงานครบรอบวันเกิด,งานแต่งงาน, หรือ งานปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นต้น”
สำหรับแผนงานของบริษัทในช่วงปลายปีในตลาดต่างประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ 1.สยามคูโบต้าฯ จัดงานเลี้ยงผู้แทนจำหน่าย และเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ ที่ประเทศกัมพูชา 2.Grand opening EXIM Bank ประเทศลาว 3. Road To Electric Dream Festival 2017, Mandalay ขณะที่งานภายในประเทศ ได้แก่ 1.บูธธนาคารกรุงเทพ ในงาน Money Expo 2.งาน Promotions & Road Shows ของ SKII 3.งานเปิด ไอคอนสยาม 4.Mega Sport Arena 2018 5.Home pro Expo
ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 4 ของปี เป็นช่วงคึกคักของธุรกิจอีเวนต์ ส่งผลให้บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในด้านผลการดำเนินงานปี 2561 (มกราคม-มิถุนายน 2561) บริษัทมีรายได้รวม 649 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในช่วงไตรมาส 4 อยู่ที่ 470 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากการจัดอีเวนต์ ทั้งในและต่าง ประเทศ ตลอดจนงานซัพพลายอุปกรณ์ภาพ แสง และเสียงในงานคอนเสิร์ต ทั้งศิลปินในและต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้กว่า 1,400 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีงานพัฒนาธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น ในธุรกิจสวนสนุกอิเมจิเนีย เพลย์แลนด์ (Imaginia Playland) โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์สวนสนุก เพิ่มประเทศละ 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์สวนสนุกแล้วที่ประเทศจีน และเตรียมเปิดเพิ่มอีกสาขาที่ประเทศเวียดนาม
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 | ฉบับ 3,410 ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2561
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดอีเวนต์ในประเทศ ไทยยังขาดมาตรฐานด้านการทำงาน รวมถึงความปลอดภัยของโครงสร้างรวมถึงการใช้วัสดุสิ้นเปลืองโดยขาดความคุ้มค่า ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ที่มาตั้งบริษัทในประเทศไทย แม้ในปัจจุบันจะมีจำนวนน้อยกว่าบริษัทอีเวนต์ในประเทศ แต่ในด้านมาตรฐานการทำงานและระบบความปลอดภัยของเขาค่อนข้างได้เปรียบมากกว่า ซึ่งหากผู้ประกอบการในประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ในอนาคตส่วนตัวหวั่นใจว่าธุรกิจอีเวนต์สิงคโปร์จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
[caption id="attachment_333419" align="aligncenter" width="335"]
ปัจจุบันภาพรวมตลาดอีเวนต์ปีนี้มีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนเพียง 3-4% ขณะที่ภาพรวมตลาดอีเวนต์ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าองค์กรใช้งบประมาณลดลง และโดนโยกย้ายเงินไปด้านการจัดคอนเสิร์ต หรืองานโชว์ที่เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการธุรกิจอีเวนต์ได้มุ่งเน้นการหารายได้ในกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้นเช่นเดียวกับบริษัทที่ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะเน้นการจัดอีเวนต์ที่ตลาด CLMV โดยไปกับแบรนด์ของไทยที่มีแผนจะขยายงานในประเทศต่างๆ ในกลุ่มประเทศดังกล่าว
“ภาพรวมตลาดธุรกิจอีเวนต์ในประเทศไทยที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ทั้งนี้มาจากลูกค้าองค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ ใช้งบประมาณการจัดอีเวนต์ (รูปแบบทางการ) ลดลงและหันไปเพิ่มงบด้านการจัดคอนเสิร์ตหรือโชว์รูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ตั้งบริษัท มิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด เพื่อรองรับกระแสที่กำลังเติบโต โดยบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการจัดปาร์ตี้คอนเสิร์ต โชว์บิซทุกประเภททั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงให้บริการจัดงานด้าน Private Lifestyle อาทิ จัดงานครบรอบวันเกิด,งานแต่งงาน, หรือ งานปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นต้น”
สำหรับแผนงานของบริษัทในช่วงปลายปีในตลาดต่างประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ 1.สยามคูโบต้าฯ จัดงานเลี้ยงผู้แทนจำหน่าย และเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ ที่ประเทศกัมพูชา 2.Grand opening EXIM Bank ประเทศลาว 3. Road To Electric Dream Festival 2017, Mandalay ขณะที่งานภายในประเทศ ได้แก่ 1.บูธธนาคารกรุงเทพ ในงาน Money Expo 2.งาน Promotions & Road Shows ของ SKII 3.งานเปิด ไอคอนสยาม 4.Mega Sport Arena 2018 5.Home pro Expo
ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 4 ของปี เป็นช่วงคึกคักของธุรกิจอีเวนต์ ส่งผลให้บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในด้านผลการดำเนินงานปี 2561 (มกราคม-มิถุนายน 2561) บริษัทมีรายได้รวม 649 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในช่วงไตรมาส 4 อยู่ที่ 470 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากการจัดอีเวนต์ ทั้งในและต่าง ประเทศ ตลอดจนงานซัพพลายอุปกรณ์ภาพ แสง และเสียงในงานคอนเสิร์ต ทั้งศิลปินในและต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้กว่า 1,400 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีงานพัฒนาธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น ในธุรกิจสวนสนุกอิเมจิเนีย เพลย์แลนด์ (Imaginia Playland) โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์สวนสนุก เพิ่มประเทศละ 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์สวนสนุกแล้วที่ประเทศจีน และเตรียมเปิดเพิ่มอีกสาขาที่ประเทศเวียดนาม
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 | ฉบับ 3,410 ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2561
